ผลของความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ในคำพูดของอิมามบากิร (อ.)
ผลของความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ในคำพูดของอิมามบากิร (อ.)
ความรักคือ ของขวัญจากพระผู้เป็นเจ้าที่พระองค์ทรงกำหนดไว้ในตัวมนุษย์ บุคคลทั้งหลายจะใช้ประโยชน์จากของขวัญอันล้ำค่านี้ไปในหนทางต่างๆ ที่หลากหลาย มนุษย์บางคนจะใช้เนี๊ยะอ์มัต (สิ่งประทานให้) จากพระผู้เป็นเจ้าดังกล่าวนี้ไปในการทุ่มเทความรักและความผูกพันต่ออะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ)
อัลอัยยาชีย์ ได้รายงานจาก “บุร็อยด์ บินมุอาวิยะฮ์ อัลอิจญ์ลีย์”ไว้ในหนังสือ “ตัฟซีร” (อรรถาธิบายคัมภีร์อัลกุรอาน) ของตน ซึ่งเขาได้เล่าว่า :
ในขณะที่ฉันอยู่กับท่านอิหม่ามบากิร (อ.) ชายชาวคุราซานผู้หนึ่งได้เดินทางด้วยเท้าเพื่อมาพบท่านอิมาม (อ.) เขาได้เอาเท้าที่บวมและถลอกออกจากรองเท้าของเขา พร้อมกับกล่าวว่า “ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ว่า ไม่มีเหตุผลอื่นใดที่ได้นำพาข้าพเจ้ามาจากดินแดนอันไกลโพ้น (มาถึงที่แห่งนี้) นอกจากความรักที่มีต่อพวกท่าน ผู้เป็นอะฮ์ลุลบัยต์ (ของท่านศาสดา)”
ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้กล่าวว่า :
والله لو احبنا حجر حشره الله معنا و هل الدین الا الحب؟
“ขอสาบานต่ออัลลอฮ์ มาตรแม้นว่าหินก้อนหนึ่งรักเรา อัลลอฮ์ก็จะทรงรวมมันขึ้นมาพร้อมกับเรา (ในวันชาติหน้า) และศาสนานั้นเป็นอื่นไปจากความรักกระนั้นหรือ!
แท้จริงอัลลอฮ์ได้ทรงตรัสว่า
قُلْ إِن كُنتُمْ تُحِبُّونَ اللّهَ فَاتَّبِعُونِي يُحْبِبْكُمُ اللّهُ وَيَغْفِرْ لَكُمْ ذُنُوبَكُمْ
“(โอ้มุฮัมมัด) จงกล่าวเถิดว่า หากพวกท่านรักอัลลอฮ์ ดังนั้นจงปฏิบัติตามฉันเถิด แล้วอัลลอฮ์จะทรงรักพวกท่านและจะทรงอภัยโทษความผิดบาปทั้งหลายของพวกท่านให้แก่พวกท่าน”(1)
และพระองค์ได้ทรงตรัสว่า :
يُحِبُّونَ مَنْ هَاجَرَ إِلَيْهِمْ
“พวกเขารักผู้ที่อพยพมายังพวกเขา”(2)
จากนั้นท่านได้กล่าวต่ออีกว่า :
وهل الدِّين إلّا الحبّ
“และศาสนานั้นเป็นอื่นไปนอกจากความรักกระนั้นหรือ!”
เชคกุลัยนีย์ ได้บันทึกคำรายงานจากฮะกัม บินอุตบะฮ์ ไว้ในหนังสือ “อัลกาฟีย์” ของตน โดยที่เขาได้เล่าว่า :
วันหนึ่งฉันอยู่ในบ้านของท่านอิมามบากิร (อ.) ซึ่งเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ทันใดนั้นเองชายชราผู้หนึ่งเดินพยุงตัวเข้ามาโดยใช้ไม้เท้า จนกระทั่งมาหยุดยืนในมุมหนึ่งของห้อง และเขาได้กล่าวกับท่านอิมามบากิร (อ.) ว่า :
السلام علیك یابن رسول الله و رحمة الله و بركاته
“ขอความสันติ ความเมตตาและความจำเริญจากอัลลอฮ์พึงมีแด่ท่าน โอ้บุตรของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์”
จากนั้นเขาก็นิ่งเงียบและรอคอยคำตอบ
ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้กล่าวตอบสลาม (คำทักทาย) ของเขาอย่างสมบูรณ์เหมือนกับที่เขาได้กล่าวต่อท่าน จากนั้นชายชราผู้นั้นก็หันไปให้สลาม (ทักทาย) ผู้ที่ร่วมชุมนุมอยู่ในที่นั้นทุกคน และนิ่งเงียบจนกระทั่งกลุ่มชนทั้งหมดได้ตอบรับสลามเขา
จากนั้นเขาได้กล่าวกับท่านอิมามบากิร (อ.) ว่า :
“โอ้บุตรของศาสนทูตของอัลลอฮ์! โปรดกรุณาให้ข้าพเจ้าได้นั่งใกล้ๆ ท่านจะได้ไหม ชีวิตของข้าพเจ้าขอพลีเพื่อท่าน ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ข้าพเจ้ารักพวกท่านและรักทุกคนที่รักพวกท่าน และขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ความรักของข้าพเจ้านี้ มิใช่เกิดจากความมุ่งหวังสิ่งใดทางโลกนี้ และแท้จริงข้าพเจ้าเป็นศัตรูต่อบรรดาผู้ที่เป็นศัตรูกับพวกท่าน และข้าพเจ้าเกลียดชังและขอเอาตัวออกห่างจากพวกเขา และขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ความเป็นศัตรูและความเกลียดชังนี้ มิใช่เพื่อการแก้แค้นหรือความบาดหมางส่วนตัวระหว่างข้าพเจ้ากับพวกเขา และขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ข้าพเจ้าถือว่าสิ่งอนุมัติ (ฮะลาล) ของท่าน คือสิ่งอนุมัติ และสิ่งต้องห้าม (ฮะรอม) ของท่าน คือสิ่งต้องห้าม และข้าพเจ้ากำลังรอคอยภารกิจ (การปกครอง) ของพวกท่าน และรอคอยรัฐอันจำเริญของพวกท่าน ข้าพเจ้าจะมีหวังในสิ่งนั้นหรือไม่ และท่านมีความหวังต่อข้าพเจ้าหรือไม่ ขอพระผู้เป็นเจ้าได้พลีข้าพเจ้าเพื่อท่าน”
ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้กล่าวว่า : “จงเข้ามานี่เถิด จงเข้ามานี่เถิด” แล้วท่านอิมาม (อ.) ก็ให้เขานั่งลงข้างๆ ท่าน จากนั้นท่านกล่าวว่า : “โอ้ผู้เฒ่าเอ๋ย! บุคคลหนึ่งเคยมาพบท่านอะลี บินฮุเซน (อ.) บิดาของฉัน และเขาได้ถามคำถามแบบเดียวกับที่ท่านได้ถามฉัน บิดาของฉันได้กล่าวกับเขาว่า หากท่านจากโลกนี้ไปในสภาพเช่นนี้ ท่านจะได้ไปพบกับท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ ไปพบท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีน อิมามฮะซันมุจญ์ตะบา อิมามฮุเซนและอิมามอะลี บินฮุเซน (อ.) และจิตใจของท่านจะได้สงบมั่น หัวใจของท่านจะได้รับความปีติยินดีและดวงตาทั้งสองของท่านจะสว่างไสว และเมื่อวิญญาณของท่านได้มาถึงคอหอยของท่าน บรรดามะลาอิกะฮ์ (ทวยเทพ) จะมารับท่านด้วยอ้อมแขนที่เปิดกว้าง และด้วยช่อดอกไม้ต่างๆ และหากท่านยังมีชีวิตอยู่ต่อไป (ในสภาพเช่นนี้) ท่านจะได้พบเห็นสิ่งที่จะทำให้ดวงตาทั้งสองของท่านปลื้มปีติ และท่านจะได้อยู่กับพวกเราในสวรรค์ในตำแหน่งที่สูงส่ง”
ชายชราผู้นั้นรู้สึกตื่นเต้นจากการได้ยินคำพูดของท่านอิมามบากิร (อ.) เขาได้กล่าวว่า : “โอ้ท่านอบูญะอ์ฟัร! ท่านพูดว่าอย่างไรนะ”
ท่านอิมาม (อ.) ได้กล่าวซ้ำคำพูดเดิมอีกครั้งหนึ่ง ชายชราได้กล่าวขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า : “อัลลอฮุ อักบัร! (อัลลอฮ์ผู้ทรงยิ่งใหญ่) โอ้ท่านอบูญะอ์ฟัร! หากข้าพเจ้าตาย ข้าพเจ้าจะได้ไปพบท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์ (ซ็อลฯ) ไปพบท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีน ท่านอิมามฮะซัน ท่านอิมามฮุเซนและท่านอิมามอะลี บินฮุเซน (อ.) อย่างนั้นหรือ…”
เขาได้กล่าวทวนคำพูดที่ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้พูดไป จากนั้นชายชราได้ร้องไห้ด้วยเสียงดัง การร้องไห้ได้ทำให้ลำคอของเขาอัดอั้นและสะอึกสะอื้นจนกระทั่งล้มฟุบลงกับพื้น ผู้ที่ร่วมอยู่ ณ ที่นั้นเมื่อเห็นสภาพและการร้องไห้ของชายชราผู้นั้น พวกเขาทั้งหมดก็ร้องไห้ด้วย
ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้ใช้มือของท่านเช็ดน้ำตาจากดวงตาทั้งสองของชายชราผู้นั้น ชายชราได้ยกศีรษะขึ้นและกล่าวกับท่านอิมาม (อ.) ว่า : “โอ้บุตรของท่านศาสนทูตของอัลลอฮ์! โปรดยื่นมือของท่านมาให้ข้าพเจ้าจูบเถิด ขอพระผู้เป็นเจ้าทรงพลีข้าพเจ้าเพื่อท่าน”
จากนั้นเขาได้จูบมือของท่านอิมาม (อ.) และใช้มือลูบไปบนดวงตาและใบหน้าของตน จากนั้นเขาได้ดึงชายเสื้อของเขาขึ้นและเอามือของท่านอิมาม (อ.) วางลงบนท้องของเขา จากนั้นเขาได้ลุกขึ้นและกล่าวคำอำลา
ท่านอิมามบากิร (อ.) ได้มองตามหลังเขาออกไป และเมื่อเขาออกไปแล้ว ท่านก็หันมายังหมู่ชนที่นั่งอยู่ในที่นั้นและกล่าวว่า :
“ใครก็ตามที่ปรารถนาจะเห็นผู้หนึ่งจากชาวสวรรค์ ดังนั้นเขาจงมองไปยังบุคคลผู้นี้เถิด”
เชิงอรรถ :
(1) อัลกุรอานบท อาลิอิมรอน โองการที่ 31
(2) อัลกุรอานบท อัลฮัชร์ โองการที่ 9
บทความโดย : เชคมุฮัมมัด นาอีม ประดับญาติ
แสดงความเห็น