ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามพบปะประชาชนในปีใหม่ 96
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามพบปะประชาชนในปีใหม่ 96 ณ ฮะรัมอิมามริฎอ เมืองมัชฮัด
เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคาร (21 มีนาคม 2017) ที่ผ่านมา ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดแห่งการปฏิวัติอิสลาม ในวันแรกของศักราชใหม่ จากการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของบรรดาซาอิร (ผู้มาเยี่ยมเยือน) และบุคคลที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับฮะรัมอิมามริฎอ (อ) โดยท่านผู้นำถือว่า ความเป็นเอกภาพและความยืนหยัดของประชาชาติที่มีต่อคุณค่าของการปฏิวัติและการยึดถือยังพื้นฐานและหลักการของศาสนา
อีกทั้ง “ปัญหาการดำรงชีพและเศรษฐกิจ” และ”การเลือกตั้ง” ในเดือนอุรดีเบเฮชต์นั้น ถือว่า เป็นสองประเด็นที่สำคัญในปีใหม่นี้ และท่านยังเน้นถึงความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาของประเทศ ภายใต้ร่มเงาของการบริหารที่เคร่งครัดต่อศาสนาและการปฏิวัติที่มีประสิทธิภาพและมีแรงจูงใจ โดยท่านกล่าวเสริมว่า บรรดาเจ้าหน้าที่จะต้องมุ่งเน้นในเรื่องการผลิตในประเทศและการเรียกร้องของประชาชาติในประเด็นนี้ จะเป็นเหตุให้ปัญหาต่างๆมากมายมีการแก้ไข โดยเฉพาะปัญหาการว่างงานของบรรดาเยาวชน และประชาชาติอิหร่านในปีใหม่นี้ จะมีการตอบรับข้อเสนอของข้าพเจ้า ก็คือ การเข้าร่วมมาใช้สิทธิ์สำหรับผู้ที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง โดยเป็นการทำให้อิหร่านนั้นมีเกียรติและมีความภาคภูมิใจและมีศักดิ์ศรี อีกทั้งยังให้บรรดาศัตรูได้ประจักษ์ในการเลือกตั้งที่มีความสง่าผ่าเผยอย่างชัดเจน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ปีที่ 1396 เป็นปีที่มีความสำคัญต่อประเทศเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในแง่ของความต้องการในการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกัน และจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีและการเลือกตั้งของสภาผู้แทนราษฎร ทั้งสภาเมืองและสภาหมู่บ้าน และก่อนที่จะเข้าถึงสองประเด็นที่สำคัญนี้ จะขอประเมินผลของสถานการณ์ในประเทศโดยรวมของปี 95 ซึ่งกล่าวว่า ในปีนี้ (95) แม้ว่าประเทศกำลังประสบกับปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่ประชาชาติอิหร่านก็รุ่งเรือง
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า "ความยึดมั่นและความผูกพันของประชาชนกับคุณค่าของการปฏิวัติอิสลาม" และ "การยืนหยัดในหลักศรัทธาและศาสนา” คือ สอง ดัชนีชี้วัดที่สำคัญ ในการประเมินผลการขับเคลื่อนของประเทศ โดยกล่าวเสริมว่า: ความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ของประชาชนในการรวมตัวในวัน 22 เดือนบะฮ์มัน และการจัดพิธีกรรมต่างๆทางศาสนา ในปี 95 โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ทางการเมืองและเป็นการขับเคลื่อนของประเทศชาติในด้านการปฏิวัติและศาสนา อีกทั้งยังทำให้มิตรและศัตรูได้เห็นอย่างประจักษ์ชัด
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า "ความสามัคคีแห่งชาติ" ในปี 95 แสดงถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการไขปัญหาหลัก แม้ว่าจะมีทัศนะที่ต่างกันในประเด็นเกี่ยวกับการเมืองและประเด็นปลีกย่อยก็ตาม ซึ่งท่านกล่าวว่า ประชาชาติอิหร่านกำลังเดินไปในทิศทางเดียวกับแนวทางของการปฏิวัติและระบอบการปกครองรัฐอิสลาม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเสียชีวิตและการเสียสละของบรรดานักดับเพลิงทั้งหลายเป็นเหตุการณ์ที่ขมขื่นของปีที่ผ่านมา โดยกล่าวเสริมอีกว่า เหตุการณ์ที่ขมขื่น เกิดขึ้นมาโดยตลอด และสิ่งที่สำคัญก็คือ การมีเจตจำนงและมีความก้าวหน้าที่จะต้องการยังเจตจำนงนี้และความเป็นเอกภาพแห่งชาติอย่างต่อเนื่องในปีใหม่นี้ด้วย
หลังจากนั้น ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงปัญหาหลักและมีความสำคัญอันดับต้น หมายถึง ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ และเน้นว่า เป้าหมายของศัตรู เพื่อต้องการสร้างความกดดันทางเศรษฐกิจให้กับประชาชาติอิหร่านและให้พวกเขาเบื่อหน่ายกับระบอบรัฐอิสลาม โดยกล่าวเสริมว่า : แน่นอนยิ่ง ศัตรูผู้โง่เขลาและไร้ซึ่งศรัทธา ต้องการที่จะแยกประชาชาติออกจากระบอบรัฐอิสลามในตลอดหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จและหลังจากนี้ ก็จะไม่ประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า หน้าที่ของทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาเจ้าหน้าที่ จะต้องตอบโต้กับการวางแผนการร้ายนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก และในการอธิบายถึงแผนการของการโฆษณาชวนเชื่อของศัตรู โดยกล่าวว่า ศัตรูนั้นต้องการในการโฆษณาชวนเชื่อของตน ให้เห็นว่า สาธารณรัฐอิสลามพบกับความบกพร่องในการดำรงชีพและเศรษฐกิจ จนกระทั่งกล่าวได้ว่า ระบอบรัฐอิสลามไม่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาการดำเนินชีวิตของประชาชนได้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเปรียบเทียบในการรับใช้ของสาธารณรัฐอิสลามให้กับประชาชน เมื่อเทียบกับยุคทรราชจอมเผด็จการ แสดงถึงการไม่ตรงกันกับความเป็นจริงของการโฆษณาชวนเชื่อของชาติตะวันตก โดยกล่าวเสริมว่า ระบอบรัฐอิสลามมีความสามารถในการรับใช้อันยิ่งใหญ่และทรงคุณค่าต่อประชาชน ในขณะที่มีความกดดันในทุกๆด้านทางเศรษฐกิจและการคว่ำบาตรของบรรดาศัตรู
ท่านผู้นำสูงสุด ในการอธิบายถึงบัญชีส่วนหนึ่งในการรับใช้ของสาธารณรัฐอิสลาม โดยท่านชี้ถึง การขยายตัวขึ้นอย่างมากในโครงสร้างพื้นฐาน เมื่อเทียบกับยุคก่อนการปฏิวัติอิสลาม และกล่าวว่า "การขยายตัวเป็นหกเท่าของถนนทางในประเทศ", "20 เท่าของศักยภาพในการสร้างท่าเรือ '' การเพิ่มขึ้นสามสิบเท่าของอ่างเก็บน้ำ "," การเพิ่มการผลิตไฟฟ้ามากถึง 14 เท่านับก่อนการปฏิวัติ "," การเพิ่มผลผลิตทางปิโตรเคมี 30 เท่าและ 15 เท่าของผลผลิตทางเหล็ก "นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าในโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นในการขับเคลื่อนและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของประเทศ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การเพิ่มอัตรา25 เท่าของนักศึกษามหาวิทยาลัย เมื่อเทียบกับช่วงเริ่มต้นของการปฏิวัติอิสลาม" "การเพิ่มขึ้น 16 เท่าของผลผลิตทางบทความวิชาการ", "สถิติที่ยอดเยี่ยมในการให้บริการและการพัฒนาหมู่บ้าน" และ "ความพัฒนาก้าวหน้าทางทหารที่สร้างความตกตะลึงและความกังวลใจให้กับบรรดาศัตรู และนี่ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของการรับใช้ที่โดดเด่นให้กับประชาชน โดยท่านผู้นำกล่าวเสริมว่า: ทั้งหมดนั้นคือ ศิลปะของรัฐอิสลาม แต่ความก้าวหน้าจะไม่หยุดนิ่ง และการปฏิบัติงานที่คาดหวังจะต้องตรงตามกับนโยบายหลักของรัฐนี้ด้วย
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงการมีจุดอ่อนบางอย่างในการให้บริการที่มีการปฏิบัติการไปแล้ว โดยกล่าวว่า จุดอ่อนนั้นเกิดขึ้นจากการบริหารจัดการ และข้อบกพร่องและความล้มเหลวก็เกิดมาจากผู้บริหารบางคน มิใช่เกิดจากการขับเคลื่อนโดยทั่วไปของรัฐอิสลาม
ท่านผู้นำสูงสุด ยังชี้ถึงหลักการหนึ่งและประสบการณ์หลัก โดยกล่าวเสริมว่า ในช่วงของการปฏิวัติอิสลาม เมื่อมีการบริหารจัดการโดยนักการปฏิวัติที่มีความกระตือรือร้นและเต็มด้วยกับการขับเคลื่อน การทำงานก็มีความก้าวหน้า และเมื่อใดก็ตามที่ในการบริหารมีความอ่อนแอ , หมดเรี่ยวแรง, หมดหวัง, มิใช่นักปฏิวัติ และไม่มีการขับเคลื่อนอย่างจริงจัง การงานนั้นก็จะระงับและหยุดนิ่ง ด้วยเหตุนี้เอง จะต้องมีผู้บริหารที่มีเจตนามุ่งมั่นและมีประสิทธิภาพและมีความพยายามเป็นอย่างมาก และด้วยกับมหาอำนาจแห่งพระผู้เป็นเจ้าจะทำให้เป็นเช่นนี้
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี เน้นว่า ยังมีอีกหลายปัญหาของประเทศที่ยังไม่รับการแก้ไข หากว่ามีการบริหารจัดการในภาคต่างๆที่เป็น ผู้เคร่งครัดต่อศาสนา, นักปฏิวัติและผู้รู้จักหน้าที่ของตนเอง แน่นอนยิ่งปัญหาทั้งหมดนั้นก็จะได้รับการแก้ไข
อีกประเด็นหนึ่งที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลามอธิบาย ก่อนที่จะเข้าสู่ประเด็นหลักเกี่ยวกับปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศและวิธีการในการแก้ปัญหาต่างๆ โดยผ่านวิธีการผลิตภายในประเทศและการสร้างงาน เป็นประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้นจริงของศักยภาพและขีดความสามารถของประเทศ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ขีดความสามารถและศักยภาพทางธรรมชาติของประเทศและมนุษย์นั้นอยู่ในระดับสูงมาก และท่านยังชี้ถึงตัวอย่างของศักยภาพอันนี้ที่หาพบยาก
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวเสริมว่า ในแง่ของทรัพยากรมนุษย์ มีนักศึกษาในมหาวิทยาลัย จำนวน ห้าล้านคน, ผู้ที่สำเร็จการศึกษา สิบล้านคน และจำนวน 33 ล้านที่เป็นทรัพยากรแรงงานในหมู่บรรดาเยาวชน ซึ่งนี่คือความมั่งคั่งยิ่งใหญ่อันหนึ่งของประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า อิหร่านนั้นมีความก้าวหน้าและมั่งคั่งทางทรัพยากรทางธรรมชาติ และท่านกล่าวว่า ในขณะที่ประชากรของอิหร่านเป็นหนึ่งในร้อยของประชากรโลก แต่ในทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศนั้นจัดอยู่ในอันดับที่สูงกว่า หนึ่งในร้อยทีเดียว
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ว่า ชาติอิหร่านคืออันดับหนึ่งของโลกในการสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และยังเป็นอันดับหนึ่งในการสำรองก๊าซธรรมชาติ ซึ่งท่านกล่าวว่า เหตุผลของสายตาที่โลภละโมบอย่างเสมอของมหาอำนาจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอเมริกา ที่มีต่ออิหร่าน เพราะว่า ความมั่งคั่งทางธรรมชาติและมนุษย์ แต่ความหวังของพวกเขาในการครอบงำอิหร่านอีกครั้งนั้นจะต้องสูญเปล่า
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม หลังจากกล่าวถึงอรัมภบท ก็เข้าสู่ประเด็นหลักที่เกี่ยวข้องกับปัญหาทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยตั้งคำถามนี้ว่า รัฐอิสลามนั้นมีเป้าหมายอะไรและมีสถานภาพใดต่อประเทศและประชาชาติอิหร่านหรือ? ในคำตอบกล่าวว่า รัฐอิสลามต้องการความพัฒนาความก้าวหน้าในทุกๆด้าน , ความเป็นอิสระภาพจากอำนาจการสวาปามโลก, การเบ่งบานของขีดความสามารถ, การออกห่างจากผลกระทบของสังคม และการมีศักดิ์ศรีและความมั่นคงและอำนาจอธิปไตยของชาติ
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นย้ำถึง การบรรลุสู่เป้าหมายต่างๆเหล่านี้ นอกเหนือจากความเป็นเอกภาพและความสามัคคีแห่งชาติ การมีวัฒนธรรมของการปฏิวัติ บรรดาเจ้าหน้าที่ๆกล้าหาญและมุมานะ มีความต้องการเศรษฐกิจอันหนึ่งและมีการผลิตที่แข็งแกร่งและอยู่บนพื้นฐานของการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถภายในประเทศ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจประเภทนี้ จะส่งผลต่อการมีค่าของสกุลเงินของประเทศ , ผลกระทบต่อราคาน้ำมันในตลาดโลก, การเพิ่มสูงขึ้นของกำลังซื้อที่จะนำไปสู่ผลของความมั่นคงและการใช้อำนาจอย่างต่อเนื่อง
ท่านผู้นำสูงสุด ยังชี้ถึงการดำเนินการไปแล้วโดยสภาแห่งการบริหารในเรื่องของเศรษฐกิจต้านทาน ซึ่งกล่าวว่า หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องมีการดำเนินการในเศรษฐกิจต้านทานไปในทิศทางที่ดี แต่ด้วยกับความเพียรพยายามก็ยังเกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในสังคมซึ่งเห็นได้ในขณะนี้
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า ปัญหา “การว่างงาน” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับบรรดาเยาวชนที่สำเร็จการศึกษา" และ "ปัญหาของการดำรงชีพของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชนชั้นล่าง” คือ สองปัญหาหลักทางเศรษฐกิจที่จะต้องได้รับการแก้ไข ซึ่งท่านผู้นำกล่าวว่า:ประชาชนกำลังประสบปัญหาในการดำรงชีพและปัญหาการดำรงชีพที่ส่งผลกระทบทางสังคมและวัฒนธรรม และศัตรูยังใช้ปัญหานี้ในการโจมตีอีกด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงทัศนะของผู้เชี่ยวชาญทางเศรษฐกิจ ที่บอกว่า ปมหลักของปัญหาทางเศรษฐกิจในประเทศ คือ"การผลิตที่ชะลอตัว" และ "การว่างงาน" ท่านยังกล่าวอีกว่า ในนโยบายต่างๆของเศรษฐกิจต้านทานซึ่งเป็นกระบวนการที่สมบูรณ์แบบ ก็คือ วิธีการในการแก้ไขปัญหา แต่ว่าต้องมีการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในนโยบายของเศรษฐกิจต้านทานต่อภาคส่วนต่างๆในระยะเวลาที่จำกัด
ท่านผู้นำสูงสุด ยังกล่าวชมเชยในการดำเนินการของบรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯเกี่ยวกับเศรษฐกิจต้านทานในปี 95 โดยกล่าวเสริมว่า ในช่วงต้นปี 95 รัฐบาล ได้เสนอขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยการผลิตขนาดเล็กและขนาดกลางและตัดสินใจที่จะจัดสรรงบประมาณจำนวนหนึ่งหมื่นห้าพันล้านล้าน โตมาน ที่จะทำให้โรงงานสองหมื่นออกห่างจากภาวะการชะลอตัว ซึ่งการดำเนินการนี้ได้มีการปฏิบัติที่ล่าช้า แต่สิ่งที่มีความสำคัญนั่นก็คือ การตรวจสอบและดำเนินการต่อเนื่องจนเกิดผลสำเร็จตามที่คาดหวัง
ผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม กล่าวว่า จากการสำรวจภาคสนามแสดงให้เห็นว่าการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อที่จะทำให้หน่วยการผลิตขนาดเล็กและขนาดกลางออกจากภาวะของการชะลอตัว ก็มีการพัฒนาก้าวหน้า แต่ยังไม่เท่ากับปริมาณที่ใช้จ่ายไป
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าวถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศว่า : บางครั้งดัชนีชี้วัดทางเศรษฐกิจไปในทิศทางที่ดีและบางทีไปในด้านลบ ในขณะที่ดัชนีภาวะเงินเฟ้อลดลง และภาวะการว่างงานเพิ่มขึ้น ในขณะที่การเติบโตทางเศรษฐกิจในเชิงบวก แต่การเจริญเติบโตในการลงทุนไปในเชิงลบ และในขณะที่มีความพัฒนาด้านน้ำมัน และในด้านอื่นๆเช่นเหมืองแร่และที่อยู่อาศัย มีการถดถอยลดลง
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติ เน้นย้ำว่า สถิติอย่างเป็นทางการของประเทศมิได้แสดงถึงสถานการณ์ไปในทิศทางของการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ โดยกล่าวว่า ในสถานการณ์เช่นนี้ สิ่งที่สำคัญอันดับแรกในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็คือการพึ่งพา "การผลิตแห่งชาติและการผลิตภายในประเทศ"
ท่านผู้นำสูงสูดการปฏิวัติอิสลาม อธิบายถึงจุดประสงค์ในประเด็นนี้ อันดับแรกก็คือ การมุ่งความสนใจของเจ้าหน้าที่รัฐฯใน"การผลิตแห่งชาติและการผลิตภายในประเทศ" และในอันดับที่สอง ก็คือ "การกำหนดทิศทางในข้อเรียกร้องของประชาชน "และกล่าวเสริมว่า การผลิตแห่งชาติถือว่า เป็นกุญแจหลักที่จะทำให้เกิดความเจริญรุ่งเรืองซึ่งมีผลประโยชน์มากมายในสังคม
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ให้เห็นถึงบางส่วนของผลประโยชน์ของการผลิตแห่งชาติ โดยกล่าวว่า "การสร้างงาน" และ "การลดภาวะว่างงานซึ่งเป็นหนึ่งในปัญหาของประเทศ", "การเบ่งบานของขีดความสามารถและนวัตกรรมของเยาวชน", "การไม่ใช้สกุลเงินของประเทศในการใช้จ่ายสินค้าอุปโภคบริโภค "," การเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่หยุดนิ่ง "" การส่งออกแบบก้าวกระโดด "," การลดน้อยในการแข่งขันกันในตราและแบรนด์ต่างประเทศ ถือว่าเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางสังคม ,ศีลธรรมและวัฒนธรรม "" การกำจัดหรือการลดลงของความผิดปกติทางสังคม "," การสร้างความเบิกบานแห่งชาติ "และ" การใช้ศักยภาพทางแหมืองแร่ในประเทศ "ทั้งหมดนั้น คือประโยชน์ที่สำคัญของความรุ่งเรืองในการผลิตภายในประเทศ
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม หลังจากอธิบายถึงประโยชน์ของความรุ่งเรืองในการผลิตแห่งชาติ ท่านยังชี้ถึงการผลิตภายใน มีความต้องการ "ทรัพยากรมนุษย์ในการลงทุนและเครื่องมือที่ทันสมัย" ที่บางส่วนของกรณีเหล่านี้นั้นมีในประเทศและบางส่วนก็ยังไม่มี
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลามถือว่า มีทรัพยากรที่เป็นเยาวชนกว่า 33 ล้านคน ที่กำลังสรรหางาน และในระหว่างนั้นมีผู้เชี่ยวชาญระดับวิศวกรที่สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความต้องการในการผลิต และท่านเน้นอีกว่า ตรงกันข้ามกับคำกล่าวที่อ้างว่า ไม่มีเงินทุนที่เพียงพอต่อการผลิต แต่เรานั้นมีทุนที่เพียงพออย่างแน่นอน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ในการอธิบายถึงวิธีการลงทุนที่จำเป็นสำหรับความรุ่งเรืองในการผลิตในประเทศโดยการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ และท่านยังชี้โดยกล่าวเสริมว่า กองทุนนี้ ด้วยกับการประกาศนโยบายทั่วไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ในปีแรกของกองทุน 20 % ของรายได้จากน้ำมันถูกนำไปฝากเข้ากองทุนและในปีต่อมาก็ตกลงตามนี้คือ ในแต่ละปีจะเพิ่มขึ้นร้อยละสามใน 20 % ซึ่งหากมีการดำเนินการแล้ว จนบัดนี้ร้อยละ 36จากรายได้ของน้ำมันจะถูกนำเข้าสู่กองทุนพัฒนาแห่งชาติ เพราะว่า กองทุนนี้เป็นวิธีการที่ดีที่สุดจากการพึ่งพารายได้ของน้ำมัน
ท่านผู้นำสูงสุด กล่าวว่า แน่นอนในปี 94 ที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐฯได้กล่าวถึงการลดลงจากรายได้ของน้ำมันและด้วยกับการใช้อำนาจของผู้นำและไม่เพิ่มขึ้นของ 3% จากรายได้ประจำปีของน้ำมันที่ทางกองทุนเพื่อการพัฒนาแห่งชาติได้ร้องขอ และด้วยกับความรู้สึกถึงความจำเป็นในการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ การกระทำนี้ก็ได้มีการดำเนินการไป
ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลาม เน้นว่า กองทุนแห่งการพัฒนาแห่งชาติและการใช้สิ่งอำนวยความสะดวกของภาคเอกชน ในการลงทุนเพื่อสร้างความรุ่งเรืองในการผลิต
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงสิ่งที่จำเป็นต้องมีประการที่สามในความรุ่งเรืองในการผลิต ก็คือ การมีเครื่องมือที่ทันสมัย และท่านกล่าวเสริมว่า บางคนกล่าวอ้างว่า เรานั้นไม่มีเครื่องมือที่ทันสมัยในการสร้างการเจริญรุ่งเรืองในการผลิต แต่ข้าพเจ้าจะบอกว่า นักวิชาการคนหนุ่มชาวอิหร่านที่มีความสามารถในระยะเวลาอันสั้นเพื่อเสริมสมรรถนะยูเรเนียม จากร้อยละ 3/5 ไปจนถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ถือว่าเป็นการทำงานที่ใหญ่และเช่นเดียวกันยังมีการดำเนินการที่น่าทึ่งในการผลิตอุปกรณ์ป้องกันและขีปนาวุธด้วยกับการถูกคว่ำบาตรจากต่างชาติ ซึ่งสร้างความประหลาดใจให้กับไซออนิสต์ ศัตรูของเรา เป็นอย่างยิ่ง และแน่นอนยิ่ง ในการสร้างเครื่องมือที่ทันสมัยนั้น เรามีความสามารถในการผลิต
ท่านผู้นำสูงสุด ยังเน้นว่า ถ้าเราเปิดสนามให้กับเยาวชนคนหนุ่มสาวเข้ามา ปมต่างๆก็จะถูกคลี่ออกและเป็นเวลาหลายปีมาแล้วที่มีความร่วมมือกันของมหาวิทยาลัยกับโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งบางส่วนมีการดำเนินการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามยังชี้ถึงบทสรุปของส่วนนี้ในคำกล่าวของท่าน ว่า สำหรับความเจริญรุ่งเรืองในการผลิตแห่งชาติ จำต้องมีสามองค์ประกอบหลัก ก็คือ ทรัพยากรมนุษย์ , การลงทุน และเครื่องมือที่ทันสมัย แต่การเกิดขึ้นที่สำคัญนี้จะต้องมีความต้องการในความรับผิดชอบของประชาชน รวมทั้งบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้บริหาร ทั้งฝ่ายตุลาการและฝ่ายนิติบัญญัติอีกด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ก่อนที่จะอธิบายถึงหน้าที่ต่างๆยังเน้นถึงจุดสำคัญหนึ่ง โดยกล่าวว่า การอธิบายในประเด็นเหล่านี้ ทุกคนจะต้องรู้ว่า ในประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและปัญหาทางเศรษฐกิจ เรานั้นมิได้พบกับทางตัน แต่เรานั้นมีความสามารถในการก้าวไปข้างหน้าได้อย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุด ยังชี้ให้เห็นถึงหน้าที่ของบรรดาเจ้าหน้าที่ในการสร้างความเจริญรุ่งเรืองในการผลิตในประเทศโดยกล่าวเสริมว่า การคัดเลือกผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพและมีความมุ่งมั่นที่มีพลัง และมีแรงจูงใจและมีความแข็งแกร่งของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศสำหรับส่วนต่างๆของการผลิต คือหนึ่งในหน้าที่ๆสำคัญยิ่งในการผลิต
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า อีกหน้าที่หนึ่งก็คือ การเข้ามามีส่วนร่วมของประชาชนในการผลิตตามนโยบายในมาตราที่ 44 โดยท่านเน้นว่า เหมือนกับในสงครามที่ประชาชนนั้นมีผู้บัญชาการที่เหมาะสมและถูกต้องเข้ามาในสนามของสงครามการป้องกันประเทศอันศักดิ์สิทธิ์ และประเทศชาติก็ได้รับประโยชน์ เมื่อสิ้นสุดสงคราม และในสนามของเศรษฐกิจก็เช่นกันที่จะต้องเปิดสนามให้ประชาชนได้เข้ามาแสดงบทบาท
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า "การส่งเสริมในการส่งออกและพันธมิตรในการส่งออก" คือหนึ่งในหน้าที่ของความรุ่งเรืองจากการผลิตในประเทศ ซึ่งท่านกล่าวว่า รายงานเกี่ยวกับการส่งออกนั้นจำกัดเพียงไม่กี่ประเทศเท่านั้น สิ่งนี้มีความขัดแย้งกับนโยบายของเศรษฐกิจต้านทาน และการแก้ไขปัญหานี้จะต้องใช้เจ้าหน้าที่ขับเคลื่อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านนโยบายต่างประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดยังชี้ถึง "ความปลอดภัยในการลงทุน" จากฝ่ายตุลาการและเจ้าหน้าที่ฝ่ายตุลาการและกองกำลังความมั่นคง และ "ความมั่นคงทางนโยบายและการออกกฎหมายและการกำจัดของกฎระเบียบที่ยุ่งยาก" จากฝ่ายรัฐสภา ก็คืออีกหนึ่งในหน้าที่ของการสร้างความเจริญรุ่งเรืองในการผลิตในประเทศ โดยท่านยังกล่าวเสริมว่า บางส่วนของการลงทุนได้มีการโฆษณาทางสื่อโทรทัศน์และทำให้ประชาชนมาร่วมลงทุน แต่หลังจากนั้นก็พบว่ามีการทุจริตในการลงทุน กรณีเหล่านี้เกิดจากความไม่ปลอดภัยในการลงทุน
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงหน้าที่ของประชาชนในความรุ่งเรืองของการผลิตภายในประเทศ โดยกล่าวเสริมว่า: ข้าพเจ้านั้นอยู่เคียงข้างประชาชนมาโดยตลอด และรับเอาคำร้องเรียนของประชาชน แต่พวกเขาจะต้องมีความรู้สึกรับผิดชอบ ในการผลิตและใช้จ่ายในผลผลิตภายในประเทศ แทนที่จะไปใช้ผลผลิตของต่างชาติถือว่า เป็นสิ่งที่สำคัญกว่า
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า หนึ่งในหน้าที่ของประชาชนก็คือ การทำให้เยาวชนออกห่างจากความเบื่อหน่ายและความเกียจคร้านและการมุ่งสู่การทำงาน โดยเสริมว่า: อีกหนึ่งในหน้าที่ๆสำคัญของประชาชนในความรุ่งเรืองของการผลิตภายในประเทศก็คือ การยืนหยัดทางการปฏิบัติและความถูกต้องในการปฏิบัติจากส่งออกของสินค้าที่มีคุณภาพดี และหลีกเลี่ยงจากการผลิตสินค้าที่คุณภาพไม่ดี
"การป้องกันการนำเข้าที่ผิดกฏหมาย" คือ หน้าที่ประการที่เจ็ดที่ท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติอิสลลามได้เน้นย้ำโดยกล่าวว่า การนำเข้าสินค้าที่เพียงพอต่อการผลิต ซึ่งจะต้องรู้จักถึงการเป็นที่ต้องห้ามตามหลักศาสนบัญญัติ และถูกต้องตามกฏหมายด้วย
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, เครื่องใช้ในบ้านและเครื่องเขียน เป็นความกระดากอายที่มีต่อกับผู้ผลิตและผู้ขายของสินค้าเหล่านี้ในต่างประเทศ และท่านยังกล่าวอีกว่า สินค้าบางชนิดที่ไม่มีการผลิตในประเทศ แต่เรามีความสามารถในการผลิต เพราะฉะนั้น จะต้องขจัดอุปสรรคและทำการผลิต เพื่อป้องกันการนำเข้ามาในประเทศ
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ยังชี้ถึงสถิติที่สูงลิ่วของการลักลอบนำเข้าสินค้ามาในประเทศ ซึ่งจะต้องมีการจัดการอย่างเด็ดขาดกับขบวนการค้าขายของหนีภาษีโดยกล่าวเสริมว่า ส่วนมากของการลักลอบนำเข้าสินค้ามาจากเขตปลอดภาษีของประเทศนั่นเอง
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี กล่าววิพากษ์วิจารณ์ถึงความเข้าใจผิดในการปราบปรามกับการค้าขายสินค้าหนีภาษี และการจัดการกับเจ้าของร้านขนาดเล็กหรือผู้ที่อยู่ชายแดนที่ใช้ชีวิตการทำงานในการขนส่งสินค้าจำพวกนี้ โดยกล่าวเสริมว่า จุดประสงค์ในการปราบปรามกับการค้าขายสินค้าหนีภาษี มิได้เกี่ยวข้องกับกรณีเหล่านี้ แต่หมายถึง การจัดการกับขบวนค้าขายสินค้าหนีภาษีต่างหาก
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวในส่วนหนึ่งของคำกล่าวของท่าน เกี่ยวกับประเด็นการเลือกตั้งประธานาธิบดี และสภาต่างๆโดยถือว่า เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากและเน้นว่า : การเลือกตั้งคือ หนึ่งในองค์ประกอบของสองหลักการแห่งประชาธิปไตยทางศาสนาในระบอบรัฐอิสลามและเป็นเหตุทำให้ประชาชาติอิหร่านนั้นมีความภาคภูมิใจในโลกอีกด้วย
ท่านผู้นำสูงสุด ถือว่า ความพยายามของศัตรูในการไม่สนใจหรือกล่าวหาการเลือกตั้งในอิหร่านบ่งบอกถึงความสำคัญของประเด็นนี้ และกล่าวเสริมว่า การเลือกตั้งคือปรากฏการณ์ที่สร้างอำนาจ, เกียรติยศและความภาคภูมิใจในศักดิ์ศรีของประชาชาติให้มากยิ่งขึ้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงความดึงดูดประชาชนและบรรดาผู้เชี่ยวชาญในประเทศทั้งหลายในแนวคิดของท่านอิมามโคมัยนี ผู้สูงส่ง หมายถึง ประชาธิปไตยทางศาสนาก็คือ สาธารณรัฐอิสลาม โดยกล่าวเสริมว่า ประชาธิบไตยทางศาสนาขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งและประชาชาติจะต้องสำแดงออกมาในการเลือกตั้ง
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ถือว่า การเข้าร่วมโดยทั่วไปของประชาชนและผู้ที่มีสิทธิ์ในวันลงคะแนนเสียงคือ ความต้องการหลักและสำคัญของท่านโดยเน้นอีกว่า ประชาชนทั้งหมดทุกคนจะต้องออกมาใช้สิทธิ์ในการเลือกตั้งอย่างแน่นอน
ท่านผู้นำสูงสุดยังเน้นถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตามกฏหมายในการเลือกตั้ง ไม่ว่าผลของการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตาม ถือว่าถูกต้องตามกฏหมาย และท่านยังกล่าวเสริมว่า ข้าพเจ้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการเลือกตั้งและไม่บอกให้ประชาชนลงคะแนนเสียงให้กับผู้ใดและไม่ให้กับผู้ใด แต่ถ้าผู้ใดก็ตามที่ยืนตรงกันข้ามกับคะแนนเสียงของประชาชน และสร้างความน่ารำคาญให้กับพวกเขา ดังนั้นข้าพเจ้าจะเข้ามาและยืนตรงกันข้ามกับพวกนั้น
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ยังชี้ถึงความพยายามของบางคนที่จะทำลายผลการออกเสียงลงคะแนนในการเลือกตั้งในปี 1388, 1384, 1376 และ 1392 โดยกล่าวเสริมว่า: ยกเว้นในปี 1388 ที่บางคนด้วยกับการจัดตั้งกองกำลังเพื่อพยายามที่จะทำลายผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ และในปีอื่นๆบางคนก็พยายามที่ทำลายผลการเลือกตั้งของประชาชาติเหมือนกัน แต่ข้าพเจ้าได้ยืนหยัดและเน้นว่าไม่ว่าผลของการเลือกตั้งจะออกมาอย่างไรก็ตามถือว่าการเลือกตั้งนั้นถูกต้องแล้ว
ท่านผู้นำสูงสุดของการปฏิวัติอิสลาม ได้กล่าวเชิญชวนประชาชนในการกำหนดและเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้ง โดยกล่าวว่า ด้วยกับเตาฟีกแห่งพระเจ้า การเลือกตั้งในเดือนที่สองนี้ จะเป็นการเลือกตั้งที่ประชาชนส่วนมากเข้ามาร่วมอย่างมากและหากพระองค์ทรงประสงค์ ผลของการเลือกตั้งทั้งสองก็จะได้รับความพึงพอใจจากพระองค์อย่างแน่นอน
ในช่วงท้ายของการปราศรัยของท่านผู้นำสูงสุดการปฏิวัติ ยังเน้นถึง ประชาชาติอิหร่านด้วยกับการเลือกตั้งที่ดีจะได้รับความภาคภูมิใจอีกครั้ง และมีความก้าวหน้าที่บรรดาศัตรูเหมือนในอดีตที่ผ่านมาไม่สามารถที่ทำผิดพลาดใดๆกับอิหร่านได้หรอก
ก่อนการปราศรัยของท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ฮุจญตุลอิสลาม วัลมุสลิมีน ระอีซี ผู้อำนวยการดูแลฮะรัมอิมามริฎอ ได้กล่าวแสดงความยินดีเนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 1396 โดยกล่าวรายงานผลสรุปภารกิจต่างๆของฮะรัมอิมามริฎอ ภายใต้คำชี้แนะเจ็ดประการของท่านผู้นำสูงสุด
ผู้อำนวยการดูแลฮะรัมอิมามริฎอ ถือว่า การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการเผยแพร่วิถีชีวิตของอิมามริฎอ คือ ภารกิจที่สำคัญของฮะรัม และยังกล่าวถึงมีการดำเนินการตามขั้นตอนที่สำคัญในเรื่องนี้และยังกล่าวเสริมว่า การใช้ศักยภาพทั้งหมดในการเพิ่มประสิทธิภาพทางความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง , การจัดตั้งค่ายวัฒนธรรมและการอบรม และการส่งนักเผยแพร่ไปในสถานที่ต่างๆ ทั้งหมดคือกิจกรรมที่มีการดำเนินไปแล้วของฮะรัม
ฮุจญตุลอิสลาม ระอีซี ยังกล่าวถึง ความพยายามในการอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางมาซิยารัตของประชาชนทั่วประเทศ ยังเมืองมัชฮัด มุก็อดดัส โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บรรดาคนยากจน และการคลี่คลายปมของปัญหาของประเทศ ในการผลิตและการสร้างงาน ก็คือ อีกโครงการหนึ่งของฮะรัม และยังเน้นอีกว่า การขับเคลื่อนของฮะรัมไปในทิศทางของการแก้ไขปัญหาและขจัดอุปสรรคของชนชั้นล่างและผู้ด้อยโอกาสในสังคม โดยหวังว่า ปีนี้ จะเป็นปีที่ดีเกี่ยวกับการยืนหยัดต้านทานด้านเศรษฐกิจของประเทศ
ที่มา – เว็บไซต์สำนักผู้นำสูงสุด
แสดงความเห็น