อิหร่านโอมานบรรลุข้อตกลงท่าเรือส่งออก



อิหร่านโอมานบรรลุข้อตกลงท่าเรือส่งออก

 

รัฐบาลอิหร่านบรรลุข้อตกลงใช้ประโยชน์จากท่าเรือซะลาละห์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศโอมานในวันอังคาร (8 มี.ค.) รองรับการขยายตัวของการส่งออกสินค้า-น้ำมันสู่ตลาดโลก
       
       ข้อตกลงที่มีต่อท่าเรือซะลาละห์ในประเทศโอมานถูกระบุว่า จะเป็นการแก้ปัญหาเชิงยุทธศาสตร์ให้กับอิหร่าน ที่ในปัจจุบันยังคงถูกปิดล้อมและคว่ำบาตรจากบรรดารัฐอาหรับแถบอ่าวเปอร์เซียที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จากผลพวงของวิกฤตในเยเมน ที่อิหร่านถูกกล่าวหาว่าให้การหนุนหลังกลุ่มกบฏเฮาซี
       
       ผลพวงจากการถูกปิดล้อมดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าทางเรือ โดยเฉพาะน้ำมันของอิหร่านออกสู่ตลาดโลก ถึงแม้อิหร่านจะเพิ่งได้รับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งปวงจากโลกตะวันตกและสหประชาชาติไปเมื่อเดือนมกราคม จากความสำเร็จของการบรรลุข้อตกลงด้านโครงการนิวเคลียร์ของรัฐบาลอิหร่านก็ตาม
       รายงานข่าวระบุว่า ท่าเรือซะลาละห์ของโอมานถือเป็นหนึ่งในท่าเรือเชิงพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยในปีที่แล้วท่าเรือแห่งนี้รองรับการขนส่งสินค้าได้มากถึง 12.6 ล้านตัน       
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดมีขึ้นในจังหวะเวลาเดียวกับที่บรรดาผู้นำรัฐบาลและภาคเอกชนจากทั่วโลกกำลังให้ความสนใจในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับประเทศอิหร่านที่กลายเป็น “โอกาสใหม่” ด้านการค้าและการลงทุน หลังพ้นยุคแห่งการคว่ำบาตร       
       ทั้งนี้ อิหร่านและมหาอำนาจทั้ง 6 ชาติ (กลุ่ม P5+1) สามารถบรรลุความตกลงประวัติศาสตร์ทางด้านนิวเคลียร์กันได้เมื่อ 14 ก.ค.ปีที่แล้ว ถือเป็นการปิดฉากการเจรจาแบบมาราธอนที่ใช้เวลายาวนานกว่า 1 ทศวรรษ และถือเป็นข้อตกลงซึ่งพลิกโฉมการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลางครั้งใหญ่       
       ภายใต้ข้อตกลงนี้ มาตรการลงโทษคว่ำบาตรอิหร่านทั้งหลายทั้งปวงของสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) และสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่บังคับใช้มายาวนานได้ถูกยกเลิกเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่รัฐบาลเตหะรานยอมตกลงตัดทอนโครงการนิวเคลียร์ของตนซึ่งสหรัฐฯ และชาติตะวันตกสงสัยมาโดยตลอดว่ามีเป้าหมายในการสร้าง “ระเบิดนิวเคลียร์” ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่เตหะรานยืนกรานปฏิเสธมาโดยตลอด
              
       ด้านสำนักข่าวไออาร์เอ็นเอของทางการอิหร่านรายงานว่า ผลของข้อตกลงนี้จะทำให้อิหร่านได้รับเงินนับหมื่นล้านดอลลาร์ที่ถูกอายัดไว้กลับคืนมา ขณะที่บรรดามาตรการคว่ำบาตรที่มีต่อธนาคารกลาง บริษัทน้ำมันแห่งชาติ บริษัทชิปปิ้ง และสายการบินของอิหร่านได้ถูกยกเลิก ถึงแม้มาตรการขององค์การสหประชาชาติในเรื่องการคว่ำบาตร ห้ามซื้อขายอาวุธกับอิหร่านจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปอีก 5 ปี และห้ามอิหร่านจัดซื้อเทคโนโลยีด้านขีปนาวุธอีกนาน 8 ปี
              ในอีกด้านหนึ่งการยุติมาตรการคว่ำบาตรจะช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจอิหร่านเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากอิหร่านสามารถกลับเข้าสู่ “ตลาดน้ำมัน” ได้อีกครั้ง แม้ในความเป็นจริงแล้วกว่าที่น้ำมันจากอิหร่านจะกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดโลกได้อย่างเต็มรูปแบบนั้นอาจต้องรอถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2016 ก็ตาม
       ว่ากันว่าผลประโยชน์ที่อิหร่านจะได้รับจากข้อตกลงคราวนี้อาจสร้างความกังวลต่อชาติพันธมิตรอาหรับของสหรัฐฯ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในกรณีของซาอุดีอาระเบีย ที่ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ โดยมีนิกายวะฮาบี สุดโต่งควบคุม ซึ่งเชื่อว่าอิหร่านซึ่งเปรียบเหมือนผู้นำของฝ่ายมุสลิมนิกายชีอะห์ให้การสนับสนุนต่อศัตรูของตน ทั้งในสมรภูมิที่ซีเรีย เยเมน และประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค จนซาอุดิอารเบียไม่สามารถเอาชนะในสนามรบได้
       

แสดงความเห็น