การขัดเกลาและยกระดับจิตใจ ตอนที่3
การขัดเกลาและยกระดับจิตใจ ตอนที่3
ขั้นตอนของการขัดเกลา
แน่นอนไม่มีความสงสัยใดที่ว่าไม่มีเป้าหมายใดจะบรรลุมรรคผลได้ถ้าปราศจากการปฏิบัติไปตามขั้นตอน ดังนั้น การขัดเกลาตนเองก็เช่นเดียวกันต้องปฏิบัติไปตามขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1) ขั้นตอนที่หนึ่ง การปล่อยวางเพื่อให้เกิดความว่างเปล่า ขั้นตอนนี้เมื่อมนุษย์ ก้าวไปสู่การขัดเกลาเขาจำเป็นต้องปล่อยวางสิ่งที่สั่งสมไว้ภายในให้หมดสิ้น เขาต้องปล่อยวางความเคยชิน และความประพฤติไม่ดีของตนให้หมดสิ้น
2) ขั้นตอนที่สองคือ การสำแดงหรือการให้ปรากฏ เมื่อมนุษย์ผ่านขั้นตอนแรกซึ่งถือเป็นขั้นตอนของการตรวจสอบและกำจัดไวรัสที่อันตรายให้หมดไป หลังจากนั้นเป็นการปรุงแต่งให้เกิดความสวยงาม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือ เป็นการแสกนเชื้อไว้รัสใหม่ ดังนั้น ถ้ายังมีเชื้อไวรัสคั่งค้างอยู่ จะต้องถูกขจัดให้หมดสิ้นในขันตอนนี้ เพื่อให้รัศมีของแห่งความสงบมั่นของศีลธรรมฉายส่องในจิตใจของตน ดังนั้น ภายนอกของตนจึงต้องใส่ใจต่อมารยาทและหลักการของคำสอน หมายถึงว่าต้องเคร่งครัดในการปฏิบัติตามคำสอนและละสิ่งที่ฮะรามโดยสิ้นเชิง หรือเลือกปฏิบัติสิ่งที่เป็น มุสตะฮับ และละทิ้งสิ่งที่เป็นมักรูฮฺ
3) ขั้นตอนที่สามคือ การสังเคราะห์หรือการวิจัย เมื่อผ่านขั้นตอนที่สองแล้วจิตใจของมนุษย์จะสะอาดบริสุทธิ์ในระดับหนึ่ง จากความสกปรกโสมม การไปถึงขั้นตอนนี้มนุษย์ได้ไปถึงโดยผ่านขบวนการอิบาดะฮฺ และการชี้นำ ดังนั้น หลังจากนี้ความสำรวมตน การหลีกเลี่ยงจากความผิดต่างๆ จะเป็นสาเหตุสำคัญในการพัฒนาของตน และทำให้เขาสามารถจำแนกแนวทางสะอาดกับแนวทางโสโครกได้อย่างง่ายดาย
4) ขั้นตอนที่สี่ คือ การสูญสลายตน ณ อัลลอฮฺ หรือการนิพพาน ที่ทางศาสนาพุทธกล่าวถึง ดังนั้น บุคลใดก็ตามที่สามารถก้าวไปถึงขั้นตอนนี้ได้โลกจะไม่มีความหมายสำหรับตนอีกต่อไป
แนวทางของการขัดเกลา
สำหรับการขัดเกลาตนเองมีแนวทางและวิธีการที่แตกต่างกันมากมาย เช่น นักจิตวิทยาได้นำเสนอแนวทางด้านประสบการเป็นหลัก ส่วนบรรดาอาริฟ นำเสนอการค้นหาจิตของตน การหลีกเลี่ยงจากบาป และการดำรงมั่นต่ออิบาดะฮฺ ซึ่งแนวทางต่างๆ เหล่านั้นล้วนมีเป้าหมายที่แน่นอนของตน นั้นคือการไปถึงยัง การขัดเกลาจิตให้สะอาด ท่านอิมามโคมัยนี้ (รฎ.) ได้นำเสนอแนวทางในการขัดเกลาตนเองไว้ดังนี้
1) ขั้นตอนแรกคือ การต่อสู้กับจิตใจของตนเอง และค่อยเปลี่ยนเส้นทางเดินโดยมุ่งหน้าสู่อัลลอฮฺ (ซบ.) ซึ่งสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้คือ การคิดใคร่ครวญ ซึ่งการคิดในชั้นนี้ถือเป็น อิบาดะฮฺ วันหนึ่งย่างน้อยสุดคนเราควรจะตั้งสติแล้วคิดในสิ่งที่ทำไปแล้ว หรือสิ่งที่กำลังจะทำต่อไปในอนาคต แม้ว่าจะเป็นการคิดเพียงเล็กน้อยก็ตาม
2) หลังจากคิดใคร่ครวญ คือ การตัดสินใจ หรือการตั้งเจตนามั่น ท่านกล่าวว่า เมื่อเราคิดได้แล้วว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้อง ควรตัดสินใจหรือตั้งมั่นว่าเราจะละทิ้งสิ่งนั้นอย่างแน่นอน จะไม่ทำความผิดอีก จะไม่ฝ่าฝืนอีกต่อไป จะไม่ทำสิ่งฮะรอมทั้งด้วยใจ คำพูด และการกระทำ และพยายามชดใช้สิ่งที่เป็นวาญิบต่างๆ ที่ละทิ้งมา ตลอดจนการกล่าวขอขมา หรือกล่าวขออโหสิกรรมต่อคนอื่นที่เราเคยล่วงเกินทั้งกายวาจาและใจ หมายถึง ใส่ใจต่อฮักกุลนาซให้มากยิ่งขึ้น
3) การวางเงือนไข (มุชาริเฎาะฮฺ) หมายถึง ให้วางเงือนไขหรือสัญญากับตัวเองทุกวันว่า วันนี้เราจะไม่ขอกระทำสิ่งที่ขัดต่อพระบัญชาของอัลลอฮฺ และคำสอนของเราะซูลของพระองค์อย่างเด็ดขาด ให้สัญญากับตนทุกวัน
สำหรับการรักษาสัญญาของตนให้ดำรงสืบไป ควรมั่นรำลึกถึงความโปรดปรานของอัลลฮฺ และพึงสังวรเสมอว่า พระองค์ทรงมองเห็นสิ่งที่เรากระทำ อะลัก / 14
«أَ لَمْ يَعْلَمْ بِأَنَّ اللَّهَ يَري
4) มุรอกิบะฮฺ หมายถึง เงือนไขและสัญญาที่ให้กับตัวเอง ตลอดระยะเวลาที่อยู่ในสัญญาให้ระวังตัวเองอย่างละเมิดในสัญญาเด็ดขาด
5) มุฮาซิบะฮฺ หมายถึง หลังเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวันแล้ว ให้เราตรวจสอบการกระทำของเราให้ละเอียด และดูซิว่าเรารักษาคำมั่นสัญญากับตัวเองได้มากน้อยเพียงใด เราซื่อสัตย์กับสัญญาหรือไม่
และทุกครั้งที่ตรวจสอบการกระทำของตนทุกความสำเร็จให้กล่าวของคุณต่อพระองค์ และทุกความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ให้กล่าวลุแก่โทษต่อพระองค์ และหลีกเลี่ยงการสิ้นหวังในความเมตตาของพระองค์อย่างสิ้นเชิง ดังนั้น ถ้าเรายิ่งตรวจสอบให้ละเอียดมากเท่าใด การงานของเราก็จะละเอียดมากขึ้นเท่านั้น
แสดงความเห็น