รัฐบาลกาตาร์ส่งยานหุ้มเกราะเฮลิคอปเตอร์และทหารเข้าเยเมน


รัฐบาลกาตาร์ส่งยานหุ้มเกราะเฮลิคอปเตอร์และทหารเข้าเยเมน


รัฐบาลกาตาร์ได้จัดส่งกองกำลังทหาร 1,000 นาย พร้อมสนับสนุนด้วยยานหุ้มเกราะจำนวน 200 คันและเฮลิคอปเตอร์ขับไล่อาปาเช่อีกไม่ต่ำกว่า 30 ลำเข้าไปยังจ. มาริบ ของเยเมน เพื่อร่วมกับกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยซาอุฯ ขับไล่กลุ่มเฮาซี

       สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า  รัฐบาลกาตาร์ได้ตัดสินใจให้การสนับสนุนกองทัพซาอุดีอาระเบียในการโจมตีกลุ่มเฮาซีในประเทศเยเมน ด้วยการส่งกำลังทหาร 1,000 นาย และสนับสนุนด้วยยานหุ้มเกราะจำนวน 200 คันและเฮลิคอปเตอร์ขับไล่อาปาเช่อีกไม่ต่ำกว่า 30 ลำเข้าไปยังเมือง มาริบของประเทศเยเมน
       ทั้งนี้นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ที่รายงานจากบริเวณพรมแดนในฝั่งซาอุดีอาระเบียติดพรมแดนซีเรียทราบมาว่า ทางกาตาร์อาจส่งกำลังสมทบมากกว่านี้เพื่อเป้าหมายปกป้องเขตปกครองอัลเจาฟ์( Al Jawf) ของเยเมน
       ข่าวการส่งทหารร่วมสมทบปฎิบัติการโจมตีกลุ่มเฮาซี ของกองกำลังพันธมิตรที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นผู้นำ เกิดขึ้นท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วงของกองกำลังชาติพันธมิตรที่กรุงซานาในวันอาทิตย์(7) หลังจากที่ทหารของฝ่ายพันธมิตรร่วม 60 นายต้องจบชีวิตจากระเบิดมิสไซล์ของกบฎฮูตีในวันศุกร์(4)
       ซึ่งทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ประกาศจะทำลายอย่างถึงที่สุดต่อการสูญเสียกองกำลังครั้งใหญ่เป็นประวัติการณ์นี้จากการที่ทหารสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จำนวน 45 นายต้องจบชีวิตในการโจมตีด้วยขีปนาวุธของกบฎฮูตี ที่นอกจากกองกำลังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์แล้ว ยังรวมไปถึงทหารซาอุฯจำนวน 10 นาย กองกำลังบาห์เรนจำนวน 5 นาย และทหารเยเมนอีก 4 นายในวันศุกร์(4)ที่ผ่านมา

แต่ถ้าหากมองในมุมกลับกันฝ่ายกองกำลังผสมของซาอุดิอารเบียได้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ไปเกือบหนึ่งพันคน และบาดเจ็บอีกนับไม่ถ้วน และนี่คือการตอบโต้ของกลุ่มเฮาซี แต่ประเด็นสำคัญตอนนี้ที่ประเทศซาอุดิอารเบียต้องตอบต่อนานาชาติคือเหตุใดชาติอาหรับไม่เปิดพรมแดนให้ความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยจากประเทศซีเรีย ทั้งที่มีพรมแดนติดกัน และนับถือศาสนาเดียวกัน
       

แสดงความเห็น