โบโกฮารัมลักพาตัวสตรีและเด็กหญิงกว่า2,000คน


โบโกฮารัมลักพาตัวสตรีและเด็กหญิงกว่า2,000คน

องค์การนิรโทษกรรมสากล (เอไอ) เผยข้อมูลกลุ่มติดอาวุธ โบโกฮารัมลักพาตัวสตรีและเด็กหญิงอย่างน้อย 2,000 คนตั้งแต่ต้นปี 2014 รวมถึงนักเรียนหญิง 219 คนจากเมืองชีบอคของไนจีเรียที่ถูกพรากไปจากครอบครัวมาแล้ว 1 ปีเต็ม

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหตุนักเรียนหญิงวัยรุ่นกว่า 200 ชีวิตถูกลักพาตัวไปจากโรงเรียนในเมืองชีบอค รัฐบอร์โน เมื่อวันที่ 14 เมษายน ปีที่แล้ว ทำให้พฤติกรรมป่าเถื่อนของกลุ่มโบโกฮารัมกลายเป็นที่รับรู้ทั่วโลกชนิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน  เหตุการณ์ลักพาตัวเกิดขึ้นทั้งสิ้นประมาณ 38 ครั้ง โดยอ้างจากคำบอกเล่าของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ รวมถึงสตรีและเด็กหญิงที่รอดชีวิตมาได้
       การประเมินจำนวนผู้หญิงและเด็กที่ถูกโบโกฮารัมลักพาตัวไปไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่เราคาดว่าตัวเลขน่าจะสูงกว่า 2,000 คน” เอไอ ระบุในรายงาน สำหรับเด็กนักเรียนหญิงจากเมืองชีบอค แหล่งข่าวอาวุโสในกองทัพไนจีเรียบอกกับ เอไอ ว่า พวกเธอถูกแบ่งออกเป็น 3-4 กลุ่ม และถูกส่งไปยังค่ายพักหลายแห่งของโบโกฮารัม เช่น ในป่าซัมบิซา รัฐบอร์โน และรอบๆ ทะเลสาบชาดบนเทือกเขากอร์ซีในแคเมอรูน นอกจากนี้คาดว่าจะมีเด็กหญิงอีกราว 70 คนถูกส่งไปที่ชาด
ด้านกองทัพไนจีเรียระบุว่า ทราบที่อยู่ของนักเรียนหญิงเหล่านี้แล้ว แต่ปฏิเสธที่จะใช้ปฏิบัติการทางทางทหารเข้าช่วยเหลือ เนื่องจากเสี่ยงเกินไป       
       อบูบักร เชเกา หัวหน้าของกลุ่มโบโกฮารัม อ้างว่าเด็กหญิงเหล่านี้ได้เปลี่ยนไปรับอิสลาม และถูกจับ “แต่งงาน” ออกไปหมดแล้ว เหยื่อสาวที่รอดชีวิตมาล้วนบอกตรงกันว่า พวกเธอต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในค่ายของโบโกฮารัม ต้องนอนในคุกที่อัดแน่น ถูกบังคับให้ทำครัว ทำความสะอาด บางคนก็ถูกบังคับให้แต่งงานกับนักรบอิสลามิสต์  เหยื่อกว่า 80 รายที่เคยถูกโบโกฮารัมลักพาตัว ในจำนวนนั้นมีอยู่ 23 คนที่ยอมรับว่า พวกเธอถูกข่มขืนก่อนจะเดินทางไปถึงค่าย หรือไม่ก็หลังจากถูกบังคับแต่งงานแล้ว
นักรบโบโกฮารัมสังหารผู้คนไปมากกว่า 4,000 คนในปี 2014 และในปีนี้คาดว่ามีประมาณ 1500 คนที่โดนกลุ่มโบโกฮารัมสังหาร

                จากทัศนะของนักวิชาการอิสลามนั้น การบังคับให้ผู้อื่นเข้ามานับถือศาสนานั้นไม่ถูกต้องและเป็นความที่ร้ายแรง รวมถึงการข่มขืนตัวประกันตามหลักศาสนาแล้วนั้นเป็นความผิดที่ร้ายแรงยิ่งกว่า

แสดงความเห็น