สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศรายงาน

ตามสำนักข่าวเอบีนิวส์ทูเดย์ รายงาน

คำให้การล่าสุดจาก อดีตนักรบรุ่นเยาว์ ไอซิส ได้เผยข้อมูลเชิงลึกในกระบวนการฝึกอบรมอันผิดปกติ ที่กลุ่มก่อการร้ายใช้เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเด็กกว่าร้อยคนที่เข้าร่วม กองกำลังทหาร และตำรวจของกลุ่ม โดยนักรบรุ่นเยาว์คนดังกล่าว ยังเผย ถึงการที่เด็กถูกทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยม ครั้งได้เข้าร่วมการฝึกอบรบกับ ไอซิส อย่างเต็มรูปแบบ

ดั่งที่ ไอซิส มีการโพสต์ คุยโวอย่างมากมาย ในบัญชีโซเชียลมีเดีย ต่างๆ ถึงการฝึกหัด ‘เหล่าลูกเจี๊ยบ’ ของ ไอซิส อย่างไรก็ดี อดีตนักรบพลีชีพ ‘ญิฮาดี’ รุ่นเยาว์ วัย 15 ปี นามแฝง ‘ยาซีร’ได้เผยกับ CNN เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้า โดยเล่าว่า การฝึกหัดนักรบเด็กของ ไอซิส เหล่านี้นั้น มีความโหดอย่างมาก มีคำสั่งให้ เด็กที่เข้าร่วมการฝึก พลัดพรากจากคนครอบครัว เป็นระยะเวลา 1 เดือนเต็ม รวมทั้งกำชับให้มีความเคร่งครัดในศาสนา มีการปลูกฝังแนวความเชื่อ และการฝึกฝนทางทหารที่หฤโหดอย่างมาก

นอกจากนี้ คำให้การของยาซีร ยังได้ระบุ ถึงวิธีการที่ไอซิส จัดวางให้เหล่านักรบรุ่นเยาว์ประจำการอยู่ในจุดรบที่มีความเสี่ยงโดยตรง ทันทีที่พวกเขาผ่านการฝึกอบรบและเข้าร่วมกองกำลังเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยได้ทำการบังคับให้พวกเขาสวมเสื้อกั๊กติดระเบิดพลีชีพ ขณะทำหน้าที่เป็นหน่วยรักษาความปลอดภัยให้แก่กองกำลัง

ตัวยาซีรเอง เดิมก็เคยมีส่วนร่วมในความขัดแย้งนี้ด้วยเช่นกัน ครั้งที่เขาและพ่อของเขาเข้าร่วมกองกำลัง ไอซิส ในสังกัดแนวรบ อัลนุศเราะฮ์ ช่วงที่ ไอซิส เข้าควบคุมเมือง Deir Ezzor ของซีเรีย ยาซีร กล่าวว่า เขาและพ่อของเขาได้ทำการสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อ ไอซิส

นอกจากคำปฏิญาณจะขอจงรักภักดีต่อไอซิส ของตน ยาซีร ได้รับคำสั่งให้ปลีกตัวออกจากพ่อของเขา และถูกนำตัวไปที่ค่ายฝึกอบรบ เพื่อทำการฝึกฝนเป็นนักรบพลีชีพอย่างเต็มรูปแบบ โดยยาซีรไม่ได้รับอนุญาตให้พบปะหรือพูดคุยกับเพื่อน หรือ สมาชิกครอบครัวคนใดเลย ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนเต็มนั้น

“ผมใช้เวลาหนึ่งเดือนเต็ม โดยไม่ได้เจอหน้า ครอบครัว หรือ ใครก็ตามที่ผมรู้จักเลย” ยาซีรกล่าว “มันเป็นคำสั่งห้าม ไม่ให้มีการพบปะหรือพูดคุยกับใครๆทั้งสิ้น”

ยาซีรกกล่าวว่า เขาได้เข้าร่วมการฝึกอบรบ พร้อมกับเด็กคนอื่นๆ จำนวน 100 คน และพวกเขาต่างถูกปลูกฝังให้มีความเชื่อที่เคร่งครัด ที่ถูกออกแบบมาให้พวกเขา ซึมซับความเป็นคนหัวรุนแรง และโหดเหี้ยมตามแบบฉบับของ ไอซิส ฝังเข้าไปในจิตใจที่ไร้เดียงสาของเยาวชนอย่างพวกเขา

ที่มา abnewstoday.comz