เงินดอลลาร์โลกอาหรับ กับ ชะตากรรมของเด็กๆ ซีเรีย และปาเลสไตน์
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานจาก สำนักข่าวอัลอาลัม Alalam News Network รายงานว่า บรรดาเด็กๆ ชาวซีเรีย และชาวปาเลสไตน์ต้องทนทุกข์ทรมานภายใต้อากาศที่เหน็บหนาวอย่างแสนสาหัส ในขณะที่รัฐบาลต่างๆ แห่งโลกอาหรับ กล่าวอ้างว่าตนเองคือมิตรแท้ของปาเลสไตน์และซีเรีย แต่กลับปล่อยให้โศกนาฏกรรมอันเลวร้ายกำลังคร่าชีวิตของเด็กๆ เหล่านั้น ดูเหมือนว่าไม่ต้องการที่จะรับรู้ต่อความทุกข์ทรมานของเด็กๆ
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ raialyoum และอดีตบรรณาธิการหนังสือพิมพ์รายวันอัล-กุดส์ อัล-อารอบีย์ นักคิดนักเขียนบทความ นักวิเคราะห์สถานการณ์โลกชาวปาเลสไตน์ ได้เขียนบทความในเว็บไซต์สำนักข่าว www.raialyoum.com ว่า “บรรดาเด็กๆ ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่ากำลังถูกความเหน็บหนาวคร่าชีวิต ภายใต้การปิดล้อมของรัฐบาลเถื่อนอิสราเอลและรัฐบาลต่างๆ ของโลกอาหรับ เด็กๆเหล่านี้กำลังใช้ชีวิตอย่างหมดหวังและด้วยความกระวนกระวายใจยิ่ง ยิ่งนึกถึงความช่วยเหลือจากโลกอาหรับ ก็ยิ่งหมดหวังจากการช่วยเหลือเหล่านั้น”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “ฮามาสซึ่งกำลังทำหน้าที่ดูแลประชาชาติปาเลสไตน์ในฉนวนกาซ่า ก็น้อยประสบการณ์ในสถานการณ์คับขันเช่นนี้ บวกกับขาดแคลนทั้งเงินทุนและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทำให้ฮามาสต้องแก้ไขวิกฤติไปตามความสามารถเท่าที่มี เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวปาเลสไตน์ที่กำลังใช้ชีวิตอย่างเหน็บหนาว
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “กลุ่มเพื่อนประชาชนซีเรีย” กว่า 150 ประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่ม และส่วนมากของประเทศที่เป็นสมาชิกของกลุ่มเพื่อนประชาชนซีเรีย คือประเทศต่างๆ แห่งสหภาพยุโรปและตะวันออกกลางที่มีฐานะร่ำรวยมหาศาล ในขณะที่ประชาชนชาวซีเรียกว่าสี่ล้านคนที่พวกเขาอ้างว่าคือเพื่อนมนุษย์ของพวกเขา ต้องหนีอพยพสงครามกลางเมืองไปตามสถานที่ต่างๆ ตามแนวชาวแดนทั้งในและนอกประเทศซีเรีย กำลังอดอาหาร เจ็บไข้ได้ป่วย จิตหลอน กำลังระทมทุกข์ทรมานอย่างรุนแรงกับสถานการณ์วิกฤติในประเทศซีเรีย”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “รัฐบาลชาติอาหรับต่างๆ กำลังให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏต่างๆ ที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในซีเรียด้วยเงินดอลลาร์จำนวนมหาศาลเพื่อก่อตั้ง “อุตสาหกรรมแห่งความตาย” ในซีเรีย เงินดอลลาร์จำนวนมหาศาลเหล่านั้นได้ถูกแจกจ่ายไปในกลุ่มต่างๆ ฝ่ายกบฏซีเรียเพื่อการจัดซื้อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ทางการทหารที่ทันสมัยที่สุด”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “แต่ทว่าเมื่อบรรดาเด็กๆ ชาวซีเรียที่ต้องพลัดถิ่นไปใช้ชีวิตอยู่ตามค่ายผู้ลี้ภัยกำลังหิวกระหายไม่มีแม้อาหารจะประทังชีวิต ต้องหลับนอนอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยภายใต้อากาศที่เหน็บหนาว เด็กๆหลายคนกำลังจะสิ้นลมเนื่องจากอากาศที่เหน็บหนาวนั้น บรรดานานาประเทศ “กลุ่มเพื่อนซีเรีย” เหล่านั้นกลับเมินหน้าหนีและมองไม่เห็นชะตากรรมที่แสนปวดร้าวของเด็กๆ เหล่านั้น ถ้าถามว่า “ทำไม?” คำตอบก็คือ “เงินดอลลาร์เหล่านั้นถูกส่งเข้าไปในซีเรียเพื่อ “ความตาย” ของประชาชนชาวซีเรีย ไม่ใช่เพื่อ “การดำรงชีพ” ของชาวซีเรีย
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “สติปัญญาของมนุษย์ ไม่อาจจะปฏิเสธได้ว่า บุคคลที่มีความสามารถส่งเงินทุน อาวุธยุทโธปกรณ์ไปช่วยเหลือกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เขาก็จะต้องมีความสามารถส่งความช่วยเหลือในด้านต่างๆ อาหารและยารักษาโรค ผ้าห่ม ไปให้เด็กๆ ชาวซีเรียในเมืองต่างๆ ที่มีแต่ซากปรักหักพังของตึกราบ้านช่องในซีเรีย และตามค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ ที่เด็กๆ ชาวซีเรียอาศัยอยู่ได้ด้วย แต่ด้วยเหตุใดพวกเขาจึงไร้ความสามารถในการช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านั้น?”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “หรือพวกเขาไร้ซึ่งความสามารถที่จะหยิบยื่นความช่วยเหลือด้านมนุษยชนแก่บรรดาเด็กๆ ชาวซีเรียเหล่านั้น? เป็นไปได้อย่างไร? น่าฉงนใจยิ่งนัก แม้กระทั่งสิ่งอำนวยความสะดวกเบื้องต้นในการช่วยเหลือเด็กๆ เหล่านั้นจากความเหน็บหนาว อาทิเช่น การส่งเครื่องทำความร้อนไปตามค่ายผู้ลี้ภัยต่างๆ ตามแนวชายแดนประเทศจอร์แดน และตุรกี ซึ่งไม่มีสงคราม ไม่ต้องเสี่ยงกับกับดักระเบิดใดๆ”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “องค์การนิรโทษกรรมสากลได้มีการวิพากษ์เรื่องนี้ต่อนานาประเทศแห่งโลกตะวันตกที่ไม่ได้เป็นประเทศมุสลิม แต่นานาประเทศแห่งโลกอาหรับที่เป็นมุสลิมละมีบทบาทอะไรบ้างในเรื่องนี้? โดยเฉพาะอาหรับบางประเทศที่ออกมากล่าวอ้างอย่างไม่อายว่า “จะสร้างประชาธิปไตย และนำสิทธิมนุษยชนกลับคืนสู่ประเทศซีเรีย” ขอถามว่าประเทศอาหรับประเทศเหล่านั้นได้หยิบยื่นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ประชาชนชาวซีเรียที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม และบรรดาเด็กๆ ชาวซีเรียตาดำๆ บ้างหรือยัง?”
“อัลดุลบารีย์ อัฏวาน” ได้เขียนต่อไปอีกว่า “ล่าสุดที่ประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียได้หยิบยื่นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่อียิปต์กรณีขาดแคลนน้ำมัน เป็นมาตรการที่คู่ควรแก่การยกย่องยิ่ง ทว่าถ้าหากประเทศอาหรับในอ่าวเปอร์เซียเหล่านั้นขออนุญาตต่อท่อน้ำมันเชื้อเพลิงจากอียิปต์ไปให้โรงงานผลิตไฟฟ้าในเขตฉนวนกาซ่า เพื่อผลิตไฟฟ้าให้มุสลิมชาวปาเลสไตน์สุนนี่กว่าสองล้านคนได้มีไฟฟ้าใช้อย่างสะดวกไม่ดีกว่าหรือ?”
ที่มา www.immjournal.com
แสดงความเห็น