“กบฏซีเรีย” เริ่มกวาดล้างพวก “อิสลามิสต์”

 กลุ่ม“อิสลามิสต์”

เกิดการต่อสู้กันเองในหมู่นักรบฝ่ายกบฏในซีเรียโดยการต่อสู้อย่างหนักหน่วงที่ดำเนินมาตลอด 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือเป็นความพยายามของนักรบฝ่ายกบฏในซีเรียในการกำจัดพวกอิสลามิสต์ที่มีแนว คิดสุดโต่ง และมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์
       
       สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ตลอด 2 วันที่ผ่านมา บรรดานักรบฝ่ายกบฏในซีเรียกลุ่มต่างๆที่มิใช่พวกอิสลามิสต์ได้ผนึกกำลังกัน เปิดฉากกวาดล้างพวกนักรบอิสลามิสต์ที่นำโดยกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “Islamic State of Iraq and the Levant” รวมถึงแนวร่วม “อัล นุสรา” ที่ล้วนมีสายสัมพันธ์กับเครือข่ายก่อการร้ายอัลกออิดะห์

       โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฝ่ายกบฏในซีเรียถูกมองว่าเป็นความ พยายามเฮือกสุดท้าย เพื่อฟื้นฟูภาพลักษณ์ของตนในหมู่ชาติมหาอำนาจตะวันตกที่ยุติการสนับสนุนฝ่าย กบฏในซีเรียไปแล้วทั้งทางการเงินและด้านอาวุธ เพราะหวั่นเกรงภัยคุกคามจากพวกนักรบหัวรุนแรงที่แฝงตัวอยู่ในฝ่ายกบฏซีเรีย ที่อาจทำให้ซีเรียกลายสภาพเป็น “หลุมดำแห่งการก่อการร้าย” หากสิ้นยุคการปกครองของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด       

รายงานระบุว่า นักรบฝ่ายกบฏในซีเรียที่มิใช่พวกอิสลามิสต์ได้ผนึกกำลังกันบุกเข้ายึดจุด ตรวจหลายแห่ง รวมถึงฐานปฏิบัติการและอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมากจากพวกอิสลามิสต์ทั้งใน พื้นที่จังหวัดอเลปโป และอิดลิบตลอดช่วงสุดสัปดาห์ ขณะเดียวกันก็มีรายงานว่า พวกนักรบอิสลามิสต์จำนวนไม่น้อยถูกลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย หรือไม่ก็ถูกนักรบฝ่ายกบฏด้วยกันจับตัวไปประหารชีวิต
       ด้านนักรบฝ่ายกบฏในซีเรียกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กองทัพแห่งมูจาฮิดีน” ได้ออกคำแถลงซึ่งระบุว่า กลุ่มของตนจะทำสงครามเต็มรูปแบบเพื่อกวาดล้างพวกอิสลามิสต์ที่แฝงตัวเข้ามา อยู่ในฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอัสซาด โดยระบุว่าการกวาดล้างพวกสุดโต่งดังกล่าวมีขึ้นเพื่อปกป้องตนเองและปกป้องเกียรติภูมิ เนื่องจากที่ผ่านมาพบหลักฐานว่าพวกนักรบหัวรุนแรงเหล่านี้ได้ฉวยโอกาสบังคับ ใช้ข้อกำหนดสุดโต่งต่างๆ ในพื้นที่ที่พวกตนยึดครองได้ และมีการจับประชาชนซึ่งรวมถึงเด็กๆจำนวนมากไปประหารชีวิตจากข้อกล่าวหาว่า พลเรือนผู้บริสุทธิ์เหล่านี้เป็น “พวกนอกรีต”
       ความเคลื่อนไหวล่าสุดในซีเรียที่เกิดการต่อสู้กันเองของนักรบฝ่ายกบฏ เพื่อกำจัดพวกอิสลามิสต์ กลายเป็นการตอกย้ำท่าทีของรัฐบาลซีเรียและรัสเซียในช่วงก่อนหน้านี้ที่ยืน ยันว่า มี “กลุ่มก่อการร้าย” แฝงตัวเข้ามาอยู่ในฝ่ายกบฏนับตั้งแต่ที่ความขัดแย้งและสงครามกลางเมืองใน ซีเรียปะทุขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2011