ฮะดีษจากอิมามริฎอ ตอนที่หนึ่ง

  

ฮะดีษจากอิมามริฎอ ตอนที่หนึ่ง

 1- قَالَ الرِّضَا علیه السلام فِی حَدِیثٍ:

مَنْ لَمْ یقْدِرْ عَلَی مَا یکفِّرُ بِهِ ذُنُوبَهُ فَلْیکثِرْ مِنَ الصَّلاةِ عَلَی مُحَمَّدٍ وَ آلِ مُحَمَّدٍ فَإِنَّهَا تَهْدِمُ الذُّنُوبَ هَدْماً»

 

ผู้ใดที่ไม่สามารถจ่ายกัฟฟาเราะฮ์ในความผิดบาปของเขา ดังนั้นก็จงกล่าวศอลาวาตแด่มุฮัมมัด และวงศ์วานของมุฮัมมัดให้มาก เพราะว่า แท้จริงการกล่าวศอลาวาต จะทำให้ความผิดบาปต่างๆสูญสลายจนหมดสิ้นไป

 

 2- امام رضا (علیه السلام):

من لقی فقیرا مسلما فسلم خلاف سلامه على الأغنیاء لقی الله عز وجل یوم القیامة وهو علیه غضبان


ผู้ใดก็ตามที่พบฟะกีร(คนยากจน)และได้กล่าวสลาม(ทักทาย)แก่เขาซึ่งมีความแตกต่างกับการกล่าวสลามให้กับคนร่ำรวย ดังนั้นเขาจะพบอัลลอฮ์ในวันกิยามะฮ์ ขณะที่พระองค์ทรงกริ้วโกรธต่อเขา

 

 3- عن أبی الصلت الهروی قال: سألت الرضا (علیه السلام) عن الایمان فقال:

«اَلاِيمانُ عَقدٌ بِالقَلبِ وَ لَفظٌ بِاللِّسانِ وَ عَمَلٌ بِالجَوارحِ لايَكوُنُ الاِيمانُ اِلّا هَكَذا»

 

รายงานจาก อะบีซ็อล อัลฮะราวี กล่าวว่า ฉันได้ถามอิมามริฎอ เกี่ยวกับ อีหม่าน  ท่านอิมามได้ตอบว่า อีหม่าน( ความศรัทธา) คือ พันธสัญญาที่เกิดขึ้นด้วยกับหัวใจ และคำพูดด้วยกับลิ้นของมนุษย์ และการกระทำด้วยกับอวัยวะส่วนต่างๆ อีหม่าน (ความศรัทธา)จะไม่เกิดขึ้นนอกจากสิ่งนี้เท่านั้น

 

 4- امام رضا (علیه السلام):

مَن زارَني عَلی بُعدِ دارِي، أتَیتُهُ یَومَ القیامَةِ في ثَلاثِ مَواطِنَ حَتّی أُخَلِّصُهُ مِن أهْوالِها:

 

۱-إذا تَطایَرَتِ الکُتُبُ یَمیناً وشِمالاً،

 

۲-وعِندَ الصِّراطِ،

 

۳- وعِندَ المیزانِ.

ผู้ใดก็ตามที่ได้ไปเยี่ยมเยียนฉัน ในขณะที่ฉันห่างไกลจากบ้าน(สถานที่เกิด)ของฉัน ฉันจะมาพบเขาใน สามสถานที่ด้วยกัน

1.ในขณะที่บัญชีอะมั้ล การกระทำ(ถูกคิดบัญชี) ได้รับด้วยมือขวา และมือซ้าย

2.ในขณะที่เขาเดินผ่านซิรอต( สะพาน)

3.ในขณะที่เขาอยู่ ณ (คิดบัญชีด้วย)ตราชั่

 

5- امام رضا (علیه السلام) قال: لا یجتمع المال الا بخصال خمس:

ببخل شدید، و أمل طویل، و حرص غالب  و قطیعة الرحم  و ایثار الدنیا علی الاخرة.

 

ทรัพย์สินจะไม่ถูกเก็บรวบรวม นอกจากจะมีคุณลักษณะ 5 ประการดังต่อไปนี้

1.การตระหนี่อย่างมาก

2การมีความหวังที่ยาวไกล

3การมีความโลภอย่างมาก

4.การตัดขาดเครือญาติ

5.การเปลี่ยนโลกนี้เหนือโลกหน้า

 

6- قال (ع):

مِن عَلَاماتِ الفِقهِ الحِلمُ وَ العِلمُ و الصَّمتُ. إنَّ الصَّمتَ بَابٌ مِن أبوابِ الحِکمَةِ إنَّ الصَّمتَ یَکسِبُ المَحَبَّةَ و إنَّهُ دَلیلٌ عَلَی کُلِّ خَیر


สัญลักษณ์ต่างๆของฟิกฮ์(ความคิดเข้าใจ) ก็คือ ความอดทน ความรู้ และการนิ่งเงียบ เพราะว่า แท้จริง การนิ่งเงียบนั้น เป็นประตูหนึ่งแห่งวิทยปัญญา และเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก อีกทั้งเป็นทางนำแห่งความดี

 

 7- قال: إنّ الله عز و جل امر بثلاثة مقرون بها ثلاثة اخری:

 

أمر بالصلاة و الزکاة، فمن صلی و لم یزک لم تقبل منه صلاته،

 

و أمر بالشکر له و للوالدین، فمن لم یشکر والدیه لم یشکر الله،

 

و أمر باتقاء الله و صِلَةِ الرحم، فمن لم یَصِل رَحِمَهُ لم یتق الله عز و جل.


ท่านอิมามริฎอได้กล่าวว่า แท้จริงอัลลอฮ์ทรงบัญชาสิ่งสามสิ่งที่ต้องอยู่คู่กัน

พระองค์ทรงสั่งให้ทำนมาซควบคู่กับการบริจาคทาน(ซะกาต) ดังนั้น ผู้ใดก็ตามที่ทำนมาซแต่ไม่จ่ายซะกาต การนมาซของเขาจะไม่เป็นที่ยอมรับ ณ พระองค์

และพระองค์ทรงสั่งให้ทำการขอบคุณพระองค์ควบคู่กับการขอบคุณบุพการีทั้งสอง แล้วผู้ใดก็ตามที่ไม่ขอบคุณต่อบิดาและมารดาของเขา เขาก็จะไม่รู้จักการขอบคุณต่อพระองค์

และพระองค์ทรงสั่งให้มีความเกรงกลัว(ตักวา)ต่อพระองค์ ควบคู่กับการมีความสัมพันธ์กับเครือญาติ แล้วผู้ใดก็ตามที่ตัดขาดเครือญาติของเขา เขาก็จะไม่มีความหวาดกลัวต่อพระองค์เลย

 

 8- قال علیه السلام:

لا یكون المؤمن مؤمناً حتی تكون فیه ثلاث خصال ، سنة من ربه ، و سنة من نبیه ، و سنة من ولیّه. فأمّا السنة من ربه فكتمان سرّه، و أما السنة من نبیه فمداراة الناس، و اما السنة من ولیه فالصبر فی البأساء و الضرّاء.

 

ผู้ศรัทธาจะยังไม่เป็นผู้ศรัทธาที่สมบูรณ์ จนกว่าจะมี ทั้ง สามคุณประการ ดังต่อไปนี้

ซุนนะฮ์(จริยวัตร) แห่งพระผู้เป็นเจ้า และจริยวัตรจากศาสนทูตของพระองค์ และจริยวัตรจากวะลี(ผู้นำ)ของพระองค์ ส่วนจริยวัตรของพระองค์ คือ การปกปิดความลับ และจริยวัตรของศาสนทูต คือ การไม่เอารัดเอาเปรียบมนุษย์ด้วยกัน สิ่งสุดท้ายคือ จริยวัตรของผู้นำ นั่นคือ การมีความอดทนในอุปสรรคต่างๆ

 

 9- قال:

الصغائر من الذنوب طرق الي الکبائر و من لم يخف الله في القليل لم يخفه في الکثير و لو لم يخوّف الله الناس بجنّة و نار لکان الواجب علیهم أن يطيعوه و لا يعصوه لتفضّله عليهم و احسانه إليهم و ما بَدَأهم به من إنعامه الذي ما استحقّوه؛

 

การทำความผิดบาปสักเล็กน้อยเป็นบ่อเกิดแห่งความผิดบาปอันใหญ่หลวง และผู้ใดก็ตามที่ไม่มีความหวาดกลัวพระองค์อัลลอฮ์ในบาปเล็กเขาก็ไม่กลัวพระองค์ในบาปใหญ่ และหากว่าพระองค์ไม่ประทานรางวัลด้วยสวรรค์และลงโทษด้วยกับนรก ก็จำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามพระองค์ และไม่ฝ่าฝืนพระองค์ ด้วยกับความโปรดปรานแห่งพระองค์ และความดีของพระองค์ และพระองค์ทรงประทานเนี้ยะมัตทั้งหลายในขณะที่เขาไม่มีความเหมาะสมที่จะได้รับมันอีกเลย

 

 10- قال علیه السلام:

«لا يَتِمُّ عَقْلُ امْرِء مُسْلِم حَتّى تَكُونَ فيهِ عَشْرُ خِصال: أَلْخَيْرُ مِنْهُ مَأمُولٌ. وَ الشَّرُّ مِنْهُ مَأْمُونٌ. يَسْتَكْثِرُ قَليلَ الْخَيْرِ مِنْ غَيْرِهِ، وَ يَسْتَقِلُّ كَثيرَ الْخَيْرِ مِنْ نَفْسِهِ. لا يَسْأَمُ مِنْ طَلَبِ الْحَوائِجِ إِلَيْهِ، وَ لا يَمَلُّ مِنْ طَلَبِ الْعِلْمِ طُولَ دَهْرِهِ. أَلْفَقْرُ فِى اللّهِ أَحَبُّ إِلَيْهِ مِنَ الْغِنى. وَ الذُّلُّ فىِ اللّهِ أَحَبُّ إِلَيْهِ مِنَ الْعِزِّ فى عَدُوِّهِ. وَ الْخُمُولُ أَشْهى إِلَيْهِ مِنَ الشُّهْرَةِ. ثُمَّ قالَ(عليه السلام): أَلْعاشِرَةُ وَ مَا الْعاشِرَةُ؟ قيلَ لَهُ: ما هِىَ؟ قالَ(عليه السلام): لا يَرى أَحَدًا إِلاّ قالَ: هُوَ خَيْرٌ مِنّى وَ أَتْقى

 

สติปัญญาของมนุษย์จะไม่สมบูรณ์จนกว่า จะมีคุณลักษณะ 10 ประการ ดังต่อไปนี้

 กล่าวคือ ความดีจากเขาก็คือ สิ่งที่เขามีความหวัง ความชั่วจากเขา ก็คือ สิ่งที่เขามีความปลอดภัย การทำให้มีจำนวนมากในสิ่งที่ผู้อื่นได้กระทำให้เขาน้อย และการทำให้มีจำนวนน้อยในสิ่งที่เขาได้กระทำมาก ดังนั้น ก็จงคิดว่ามีจำนวนน้อยสำหรับเขา และจงอย่าได้หยุดนิ่งจากการวิงวอนต่อพระองค์ อีกทั้ง ก็จงอย่าได้เหน็ดเหนื่อยจากการศึกษาหาความรู้ และความยากจนในหนทางแห่งอัลลอฮ์ นั้นเป็นที่รักมากกว่าการร่ำรวย และการต่ำต้อย ณ พระองค์นั้น มีเกียรติมากว่า การร่วมอยู่กับศัตรูของพระองค์ อีกทั้งการไร้นามก็ ดีกว่าการมีชื่อเสียง” หลังจากนั้นท่านอิมามกล่าวขึ้นว่า “คุณลักษณะที่สิบ อะไรหรือคือคุณลักษณะที่สิบ ? และมีผู้ถามว่า อะไรคือ คุณลักษณะที่สิบ? ท่านอิมามได้ตอบว่า “อย่าเห็นผู้อื่นใด นอกจากกล่าวว่า เขานั้นดีกว่าฉัน และมีตักวามากกว่าฉันอีก 

 

แสดงความเห็น