อิสราเอลชี้ ข้อตกลงนิวเคลียร์กับ อิหร่าน เป็นความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในขณะที่สหรัฐและสหภาพยุโรปแสดงความยินดีที่ 6 ชาติมหาอำนาจของโลกและอิหร่านสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันในการจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่อิสราเอลแสดงความเห็นคัดค้าน โดยบอกว่าเป็นความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์

นายกรัฐมนตรีเบนยามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล บอกภายหลังการประชุมร่วมกับคณะรัฐมนตรีเมื่อวานว่า ข้อตกลงระหว่างอิหร่าน และ 6 ชาติมหาอำนาจ ที่บรรลุผลในการเจรจาที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์เมื่อคืนวันเสาร์ ไม่ใช่ข้อตกลงครั้งประวัติศาสตร์ แต่เป็นความผิดพลาดครั้งประวัติศาสตร์ และไม่ได้ช่วยให้โลกปลอดภัยขึ้น ยิ่งกว่านั้นยังทำให้โลกอันตรายมากยิ่งขึ้น

ตามข้อตกลงสำคัญกำหนดว่าอิหร่านจะระงับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมที่ระดับความบริสุทธิ์เกิน 5% ขึ้นไปในช่วง 6 เดือนนี้ และกำจัดสต็อกยูเรเนียมที่มีการเสริมสมรรถนะให้มีระดับความบริสุทธิ์ 20% นอกจากนี้อิหร่านจะต้องยุติการพัฒนาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อารัค ที่เชื่อว่าสามารถผลิตพลูโตเนียมได้ และเปิดทางให้ผู้ตรวจสอบอาวุธนานาชาติเข้าไปตรวจรายวันที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่นาทานซ์และฟอร์โดได้ ขณะที่อิหร่านจะได้รับการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรรวมมูลค่าเกือบ 7,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2 แสน 1 หมื่นล้านบาท และละเว้นการออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ๆ เป็นเวลา 6 เดือน หากอิหร่านยอมปฏิบัติตามข้อตกลง

ผู้นำอิสราเอล บอกว่า ที่ผ่านมาประชาคมโลกพยายามกดดันให้อิหร่านหยุดเสริมสมรรถนะยูเรเนียม แต่ครั้งนี้กลับยอมรับให้อิหร่านดำเนินการต่อได้ และเตือนด้วยว่าหากไม่ใช้มาตรการกดดันแล้ว อิหร่านจะยอมปฏิบัติตามข้อตกลงเพื่อทำลายศักยภาพในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของตัวเองได้จริงหรือ

แต่ทำเนียขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐได้โทรศัพท์สนทนากับเนทันยาฮู เพื่อย้ำให้ความมั่นใจว่า สหรัฐยังคงยึดมั่นในพันธสัญญาที่มีต่ออิสราเอล และยืนยันมีเป้าหมายร่วมกันกับอิสราเอล คือ ป้องกันไม่ให้อิหร่านสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ นอกจากนี้นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ย้ำด้วยว่า ข้อตกลงนี้จะทำให้อิสราเอลปลอดภัยขึ้น

ส่วนชาวอิหร่านหลายร้อยคนรอต้อนรับคณะผู้แทนเจรจานิวเคลียร์อิหร่านที่สนามบินกรุงเตหะรานเมื่อวานด้วยความยินดี ฝูงชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาเรียกนาย จาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านและหัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์ว่าเป็นเอกอัครราชทูตเพื่อสันติภาพ