ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์เรียกร้องกบฏมุสลิมวางอาวุธ

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ รายงาน เมืองซัมบวก  วิกฤตการณ์กบฎมุสลิมแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ใกล้ยุติแล้ว โดยประธานาธิบดีอาคีโน่เรียกร้องให้กบฎ ที่เหลือวางอาวุธ ยอมจำนนเพื่อยุติเหตุนองเลือด

ประธานาธิบดี เบนิโญ่ อาคีโน่ ซึ่งลงมาบัญชาการเหตุการณ์กบฎมุสลิมแบ่งแยกดินแดนโมโรจับชาวบ้านเป็นตัวประกันและยิงต่อสู้กับทหารในเมืองซัมบวงกา เกาะมินดาเนา ทางภาคใต้ของฟิลิปปินส์ตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน ได้เรียกร้องให้กบฎที่ยังเหลืออยู่เลิกต่อสู้ และว่ายังไม่สายจนเกินไป เพื่อหยุดยั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของกลุ่มกบฏเอง การปะทะในช่วง 12 วันที่ผ่านมา กองทัพสามารถสังหารฝ่ายกบฎ 86 คน และกบฎอีกราว 100 คนได้ยอมวางอาวุธ หรือถูกจับกุม ขณะนี้เหลือกบฎ ที่ยังไม่ยอมแพ้อีกเพียง 70 คน ผู้นำฟิลิปปินส์ระบุว่า ขณะนี้มีชาวบ้านที่ยังคงถูกจับเป็นตัวประกันเหลืออยู่เพียง 20 คน และการยิงปะทะถูกจำกัดอยู่ภายใน 2 พื้นที่ โดยการยิงปะทะทำให้ชาวบ้านราว 112,000 คน ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย ประธานาธิบดีอาคีโน่กล่าวว่า เขาจะอยู่ในเมืองซัมบวงก้าจนกว่าวิกฤตการณ์จะยุติลงพร้อมกับให้คำมั่นจัดสรรงบประมาณ เพื่อฟื้นฟูความเสีย ซึ่งรวมทั้งบ้านเรือนหลายร้อยหลังที่พังเสียหายในการปะทะ จำนวน 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 2,790 ล้านบาท

สถานการณ์ตึงเครียดในเมืองซัมบวงก้าเริ่มคลี่คลายและประชาชนเริ่มกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติ โดยธนาคารและร้านค้าบางแห่งกลับมาเปิดให้บริการ เที่ยวบิน 2 เที่ยวจากกรุงมะนิลาบินลงที่สนามบินในเมือง โดยเที่ยวบินหนึ่งมีผู้โดยสารเพียง 18 คน

แสดงความเห็น