วิเคราะห์ข่าวซีเรีย ตอนอิหร่านจะกลับมา

ขณะนี้ประธานาธิบดีโอบามาอยู่ในฐานะที่น่าอึดอัดลำบากใจมากที่สุด เพราะว่าถ้าจะลุยถล่มซีเรีย ก็อาจตายได้ แต่ถ้าไม่ลุยก็ตายได้เหมือนกัน เป็นเรื่องยุ่งอีรุงตุงนัง ยุ่งเหมือนลิงแก้แห !

วิเคราะห์ข่าวซีเรีย ตอน อิหร่านจะกลับมา

ขณะนี้ประธานาธิบดีโอบามาอยู่ในฐานะที่น่าอึดอัดลำบากใจมากที่สุด เพราะว่าถ้าจะลุยถล่มซีเรีย ก็อาจตายได้ แต่ถ้าไม่ลุยก็ตายได้เหมือนกัน เป็นเรื่องยุ่งอีรุงตุงนัง ยุ่งเหมือนลิงแก้แห !!!
ในกรณีของการลุยถล่มซีเรียของสหรัฐฯจะนำไปสู่สงครามที่ขยายวงกว้าง และนี่จะเป็นชนวนให้เกิดสงครามโลกครั้งที่3 ลองหลับตานึกภาพดูนะครับว่าจะดุเดือดเลือดพล่านขนาดไหน ในวันที่สหรัฐฯบุกซีเรีย จะบุกเดี่ยวหรือมีพันธมิตรร่วมวงด้วยก็ตาม จะเกิดมีการถล่มตอบโต้กลับอย่างทันที เพราะเมื่อไม่นานมานี้นายบาชัร อัซซัด ได้กล่าวว่าซีเรียจะมีคำตอบในทุกเสียงระเบิดที่สหรัฐฯยิงมาในซีเรีย นี่ยังไม่รวมคำตอบจากอิหร่าน และคำตอบจากรัสเซีย เป้าหมายของการให้คำตอบของอิหร่านและรัสเซียมีเยอะครับ ทั้งโรงกลั่นน้ำมันของอิรัคและซาอุดิอารเบีย ไหนจะอิสราเอล ไหนจะกาตาร์ มีช้อยส์ให้เลือกเยอะแต่จากที่ผมตามข่าว ประเทศที่น่าจะเป็นตัวเลือกของอิหร่านคืออิสราเอลแน่นอน ไม่ใช่เรื่องแปลกครับเพราะอิหร่านประกาศมาหลายปีก่อนหน้านี้แล้วว่ายังไงอิสราเอลก็ต้องหายไปจากแผนที่โลก! ส่วนประเทศที่เป็นเป้าของรัสเซียคือซาอุดิอารเบีย ทำไมต้องเป็นซาอุฯ? เนื่องจากก่อนหน้านี้เจ้าชายบันดัร บินซุลต่าน หัวหน้าหน่วยข่าวกรองของซาอุฯบินไปพบวลาดิเมียร์ ปูติน เป็นการส่วนตัวที่รัสเซีย เพื่อยื่นข้อเสนอให้รัสเซียยอมรับการโจมตีของสหรัฐฯในซีเรีย และไม่เข้าไปช่วยเหลือซีเรีย โดยแลกกับส่วนแบ่งราคาน้ำมันที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ารายใหญ่ในตลาดโลก แต่ที่ทำให้นายวลาดิเมียร์ ปูติน โกรธเป็นฝืนเป็นไฟคือการที่เจ้าชายบันดัร ดันไปขู่ว่าถ้ารัสเซียไม่ยอมรับข้อเสนอดังกล่าว ในโอลิมปิกหน้าหนาวปี2014ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ อาจจะโดนโจมตีจากกลุ่มก่อการร้ายเชคเช่นได้ แต่สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นถ้ารัสเซียยอมรับข้อเสนอ แล้วมีหรือครับที่คนอย่างปูตินจะยอมให้ใครมาขู่ง่ายๆ หลังจากนั้นข่าวนี้ก็ออกสื่อทุกแขนงในรัสเซีย จากการประชุมลับกลายเป็นไม่หลับรัสเซียทำการหักหน้าซาอุฯแบบไม่เกรงใจ และปูตินก็ออกมาประกาศว่า "รัสเซียไม่มีอะไรที่จะต้องเกรงกลัวใครในโลกใบนี้ และเราจะไม่เปลี่ยนจุดยืนในการให้การสนับสนุนซีเรีย" ปูตินยังบอกว่ารัสเซียสนับสนุนนายอัซซัดดีกว่าสนุบสนุนพวกกินตับคน พลางบอกให้กองทัพเตรียมตัวให้พร้อมสแตนบายด์กับสถานการณ์ หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่าอาวุธเคมีที่ใช้ในซีเรียถูกส่งตรงมาจากเจ้าชายบันดัร บินซุลต่าน ข่าวทั้งสองนี้ทำให้ซาอุฯกระอักไปไม่ถูก ไม่รู้โดนใครดัดหลัง จากมิตรหรือศัตรู

แถมซาอุฯยังโดนรัสเซียขู่กลับว่า ถ้าซีเรียโดนถล่มเมื่อไหร่ ซาอุฯจะโดนถล่มกลับทันทีเป็นประเทศแรก และอิหร่านก็ขู่ว่าอิสราเอลจะโดนถล่มทันทีเหมือนกันในเวลาไล่เลี่ยกัน เพราะก็อยู่เบื้องหลังด้วยกันทั้งหมด

ถ้าเป็นเหมือนข้างต้น สงครามจะขยายวงกว้างจนเราไม่อาจจะแน่ใจได้ว่า สงครามจะทะลักไปยังภูมิภาคอื่นหรือไม่ จากความจำเป็นที่นานาประเทศจำต้องต้องถือหางกันระหว่างค่ายสหรัฐและอังกฤษ และค่ายรัสเซีย จีน เพราะสถานการณ์อย่างนี้จะอยู่เป็นกลางลำบาก เพราะลูกพี่จากทั้งสองค่ายจะกดดันให้ประเทศบริวารเลือกข้าง นี่คือสิ่งที่ทำให้โอบามาเกิดความลังเลในสงครามนี้ทันที

ในกรณีที่โอบามาอยู่เฉยไม่ทำอะไร รัสเซียและจีนจะค่อยๆเข้าไปเปลี่ยนดุลอำนาจของสหรัฐฯและอังกฤษในตะวันออก กลาง ในระยะ10ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ อังกฤษและพันธมิตรตะวันตกถล่มอัฟกานิสถาน อิรัคและลิเบียจนราบเรียบ เป้าที่จะถล่มต่อไปคือซีเรียและอิหร่าน แต่มาสะดุดที่ซีเรีย เพราะว่าทั้งรัสเซีย อิหร่านและจีนหนุนซีเรียเต็มที่ ไม่ยอมให้ล้มเพราะไม่งั้นอิหร่านจะเป็นเป้าต่อไปอันจะนำไปสู่การปิดล้อมรัสเซียทางตอนใต้ อิหร่านเองก็ไม่ได้เกรงกลัวสหรัฐฯแต่ถ้าเกิดสงครามก็ย่อมไม่ดีกับอิหร่านเองเช่นกัน

พวกกองทัพต่อต้านรัฐบาลซีเรียได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส ซาอุดิอารเบีย และการ์ต้ามาแล้วสองปี แต่ดูแล้วยังห่างไกล ไม่สามารถจะล้มรัฐบาลของนายอัซซัดได้ ถ้าโอบามาไม่สั่งถล่มซีเรีย พวกกองทัพต่อต้านรัฐบาลจะถูกปิดประตูตีแมว หลังจากนั้นสเถียรภาพของรัฐบาลซาอุฯ การ์ต้า คูเวต ยูเออี บาห์เรนที่ฝักใฝ่ทางค่ายตะวันตกจะถูกสั่นคลอน เพราะการรุกคืบของมหาอำนาจใหม่ ที่ต้องการเปลี่ยนดุลมหาอำนาจเดิม
เหตุการณ์ โจมตีด้วยอาวุธเคมีในวันที่ 21 สิงหาคมจึงเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อดึงเอามหาอำนาจให้เข้ามามีส่วนร่วมในสงครามซีเรียโดยตรง ทางยูเอ็นยังกล้าๆกลัวๆไม่กล้าฟันธงในเรื่องอาวุธเคมี โดยที่รัสเซียและจีนพร้อมวีโต้ทุกเรื่อง ที่จริงแล้วประธานาธิบดีโอบามาไม่อยากจะส่งทหารไปลุยซีเรีย ถ้าจะทำก็คงจะทำนานแล้วไม่ตีกรรเชียงจนป่านนี้ จึงบ่ายเบี่ยงซื้อเวลาให้สภาคอนเกรซลงมติเรื่องการทำสงครามกับซีเรีย และถ้าโอบามาต้องการทำสงครามจริงๆ เราคงได้เห็นการล๊อบบี้ หรือการโชว์ฟอร์มอย่างสุดๆของโอบามาเพื่อแสดงความเป็นผู้นำ กลายเป็นว่าโอบามาแค่ทำทีแสร้งพูดขึงขังเท่านั้นเองว่าการฆ่าประชาชนโดยแก๊ซ พิษเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้และต้องมีการลงโทษ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการพูดไปสองไพเบี๊ย

ตอนนี้คงต้องรออย่างเดียวว่าทางสภาคอนเกรซจะเอายังไงกันแน่กับมติให้อำนาจโอบา มาในการก่อสงครามอย่างเป็นทางการกับซีเรีย พวกซีกอยากทำสงครามในสหรัฐฯไม่ว่าจะเป็นรมว.ต่างประเทศ พวกทหาร พวกหน่วยงานความมั่นคงต่างหนุนเต็มที่ ซึ่งวุฒิสภาสหรัฐฯโหวตมติให้อำนาจประธานาธิบดีสหรัฐฯทำสงครามซีเรีย ตามร่างมติที่คณะกรรมาธิการการต่างประเทศของวุฒิสภาได้ลงคะแนน10-7ให้มีการ ทำสงครามในกรอบที่จำกัดและมีเวลาสิ้นสุดที่แน่นอน

การพบปะระหว่างโอบามาและหมีขาวรัสเซีย นายปูตินที่ประชุมG-20ที่เซนต์ปีเตอร์เบิร์กระหว่างวันที่5-6กันยายนที่ผ่านมา ค่อนข้างจะตรึงเครียด เพราะว่าคงจะต้องมีการบลัฟกลับกันไปมาระหว่างสองมหาอำนาจ ที่กำลังงัดข้อกันเพื่อชิงความเป็นใหญ่ในซีเรียและตะวันออกกลางที่มีบ่อน้ำมันมหาศาลทั้งหมด ซีเรียจะเป็นจุดชี้ชะตาภูมิทัศน์การเมืองโลกที่จะพลิกโฉมต่อไปหรือไม่ ขึ้นอยู่กับท่าทีและการตัดสินใจของโอบามา แต่ในชั่วโมงนี้ทั้งหมีขาวและจีนไม่ได้มีความเกรงกลังอะไรสหรัฐฯ เพราะรู้ว่าสถานการณ์การเงินและเศรษฐกิจของสหรัฐฯเปราะบางมากใกล้ล้มละลายเต็มทน ทั้งคู่กำลังมุ่งมั่นก้าวขึ้นไปท้าชกแล้ว เพื่อทวงเข็มขัดแชมป์จากสหรัฐฯและอังกฤษเพื่อความเป็นผู้นำโลกและเขียนระเบียบโลกใหม่ต่อไป และเชื่อว่าถ้าหากเป็นไปตามรูปนี้ประเทศที่สหรัฐฯทั้งเกลียดทั้งกลัวอย่างอิหร่านจะกลับมาผงาดในเวทีโลกอย่างแน่นอน

by. zarulloh

แสดงความเห็น