ทำอย่างไรให้เยาวชนมีความรักต่อศาสนาอิสลาม

ทำอย่างไรให้เยาวชนมุสลิม มีความรักต่อศาสนา

สาเหตุที่ทำให้เยาวชนไม่ใสใจต่อศาสนาอาจจะเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้ กล่าวคือ

 

 1. เพราะพวกเขาไม่รู้จักศาสนา

 เป็นธรรมดาที่ว่าถ้ามนุษย์รู้จักสิ่งใดมากไม่ว่าจะเป็นคุณค่าหรือความสำคัญของสิ่งนั้น มนุษย์ก็จะสนใจสิ่งนั้นมากเป็นพิเศษ การที่มนุษย์ไม่สนใจต่อศาสนาและหลักคำสอนนั้น เป็นเพราะว่ามนุษย์ไม่รู้จักศาสนาดีพอ

ซึ่ง ท่านอิมามริฎอ (ขอพระเจ้าทรงประสาทพรและความสันติแด่ท่าน) กล่าวว่า ถ้าหากมนุษย์ได้รับรู้ถึงความสวยงามแห่งวจนะของเรา พวกเขาจะปฏิบัติตามเราอย่างไม่มีเงื่อนไข..

 

 บางครั้งจะเห็นว่าบางคนไม่ปฏิบัติตามคำสอนของศาสนา เช่น ไม่นมาซ เมื่อถามว่าเพราะเหตุใดจึงไม่นมาซ จะได้รับคำตอบในเชิงว่าพวกเขาไม่รู้จักนมาซ โดยมักกล่าวว่า พระเจ้าทรงประสงค์นมาซเพื่อการใด แน่นอน พวกเขาไม่รู้ว่ามิใช่นมาซเพียงอย่างเดียวที่พระองค์ไม่ทรงปรารถนาจากเรา แม้กระทั่งตัวเราพระองค์ก็มิทรงปรารถนา ทว่าสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายก็มิได้ปรารถนาเรา พื้นดินต้องการสิ่งใดจากมนุษย์หรือ ผึ้งและแมลงต่าง ๆ ต้องการสิ่งใดจากเราหรือ ออกซิเจน ดวงตะวัน และดวงเดือนต้องการสิ่งใดจากเราหรือ

 

 ถ้าหากกล่าวว่าจงสร้างบ้านให้ตรงกับดวงตะวัน มิได้หมายความว่าดวงตะวันต้องการเราหรือบ้านของเตา ทว่ามนุษย์ต่างหากที่ต้องการแสงตะวันให้ฉายส่องเพื่อความร้อน และฆ่าเชื้อไวรัสต่าง ๆ ในบ้าน

บทขอพรบทหนึ่งกล่าวว่า ...

โอ้ ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้าเนื่องจากความโง่เขลาเบาปัญญาของข้าฯ ข้าฯจึงมิได้ปฏิบัติตามพระบัญชาของพระองค์

 ถ้าหากมนุษย์ล่วงรู้ถึงผลรับของการประกอบคุณงามความดี หรือล่วงรู้ถึงบทลงโทษการกระทำความชั่วต่าง ๆ แล้ว แน่นอน มนุษย์จะมุมานะปฏิบัติคุณงามความดีอย่างไม่ลดละแม้ว่าจะลำบากสักปรานใดก็ตาม

 

ขณะเดียวกันเขาจะออกห่างจากความชั่วโดยสิ้นเชิง เช่น ผู้ที่สูบบุหรี่และไม่นมาซนั่นเป็นเพราะว่าเขาไม่เชื่อผลที่เลวร้ายของบุหรี่ และไม่รู้ถึงผลที่เร้นลับของนมาซ

 

 ดั้งนั้น เพื่อสร้างความดึงดูดให้ประชาชนสนใจศาสนา จำเป็นต้องสร้างความเข้าใจและให้ความรู้ที่เพียงพอเกี่ยวกับศาสนาให้แก่ประชาชนและเยาวชน ไม่ว่าจะเป็นศาสนาใดก็ตามเนื่องจากถ้าคำสอนของศาสนาหนึ่งถูกละเลยศาสนาอื่น ๆ ก็จะถูกละเลยตามไปด้วย และจำเป็นต้องมีผู้รู้ที่สามารถวิเคราะห์วิจัยสิ่งถูกต้องในศาสนาได้อย่างถูกต้องด้วย

 

 2. การเพิ่มเติมสิ่งเหลวไหลในศาสนา

 

 ประชาชนบางกลุ่มหลีกหนีจากศาสนา เนื่องจากการเพิ่มเติมสิ่งเหลวไหลไปในคำสอนของศาสนา โดยนักวิชาการที่ไม่ใช่ผู้รู้ทางศาสนา หรือเหล่าศาสนิกที่โง่เขลา หรือบรรดาศัตรูที่คิดร้ายต่อศาสนาได้พยายามเพิ่มเติมสิ่งแปลกปลอมเข้ามาในคำสอนศาสนา

 

 ถ้าส่งน้ำให้กับผู้ศรัทธาที่หิวกระหายน้ำอย่างหนัก 1 แก้ว แล้วบอกกับเขาว่าในน้ำนั้นมีสุราผสมอยู่หยดสองหยด ไม่ว่าเขาจะกระหายน้ำมากเพียงใดเขาก็สามารถเทน้ำทิ้งได้เนื่องจากน้ำสกปรก ทำนองเดียวกันบุคคลที่เคร่งครัดศาสนาถ้าเขารู้ว่าหลักการนั้นไม่ถูกต้อง เขาก็สามารถยอมทิ้งหลักการได้และยึดเอาเฉพาะแก่นของศาสนาเพียงประการเดียว บางครั้งเขาก็ยึดถือในลักษณะสุดโต่งที่ว่า ทำสิ่งที่อนุมัติให้กลายเป็นสิ่งไม่อนุมัติสำหรับตน และบางคนยึดถือเอาเฉพาะจากรีตประเพณีและกล่าวอ้าวว่า นั่นคือหลักการของศาสนา ด้วยเหตุนี้ บางครั้งการกระทำสุดโต่งของศาสนิกบางคนเป็นสาเหตุให้ผู้คนหันเหออกจากศาสนา ซึ่งสิ่งนี้กลายเป็นปัญหาสำคัญอีกเช่นกัน

 

 3. การวิเคราะห์วิจารณ์ที่ไม่ถูกต้อง

 

 หรือบางครั้งวิเคราะห์วิจารณ์หลักการไปในทางที่ผิด และบางครั้งได้รับข้อมูลผิดเกี่ยวกับหลักการ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิดอย่างรุนแรงแต่กล่าวอ้างว่าสิ่งนั้นเป็นคำสอนของศาสนาและนำไปเผยแผ่แก่ผู้คน เจ้าของคำวิจารณ์ที่ได้วิเคราะห์เช่นนี้เนื่องจากเชื่อว่า ทุกคนที่มีศาสนาต้องคิดและปฏิบัติเช่นนั้น แน่นอน ว่าความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักการศาสนา ความผิดพลาดในการสอน และการเผยแผ่ในทางที่ผิดในนามของศาสนาเป็นอุปสรรคสำคัญ อันเป็นสาเหตุทำให้บุคคลอื่นไม่ใส่ใจต่อศาสนา ดังนั้น แผนการในการเผยแผ่ศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง การเผยแผ่ศาสนามิใช่ว่ามีความรู้เพียงอย่างเดียวก็สามารถเผยแผ่ศาสนาได้ ทว่านักเผยแผ่ยังต้องการความรู้ด้านจิตวิทยา บุคลิกภาพที่ดี และมีความรักในการเผยแผ่

 4. การปฏิบัติอย่างสุดโต่งของผู้มีความสำรวมตน

 บางครั้งความประพฤติและการปฏิบัติของผู้มีความสำรวมตนบางคน ก็เป็นสาเหตุทำให้ผู้อื่นเบี่ยงเบนความคิดออกจากศาสนา เช่น

การแจกจ่ายอาหารที่สะอาดให้แก่ผู้หิวโหยโดยบุคคลที่สกปรก

แสดงความเห็น