หกเดือนแรกก่อนการปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดี
เส้นทางการเคลื่อนไหวของการปรากฏตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.)
หกเดือนแรก ก่อนการปรากฏกาย
ฮะดีษ(วจนะ)ต่างๆ ชี้ให้เห็นว่า ขบวนการต่อสู้และการปฏิวัติอันศักดิ์สิทธิ์ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะบรรลุเป้าหมายภายในสิบหกเดือน ในช่วงหกเดือนแรกท่านอยู่ในสภาพของความหวั่นกลัวและความหวัง ดังนั้นในช่วงนี้ท่านจะทำหน้าที่ชี้นำเหตุการณ์ต่างๆ ในสภาพไม่ปรากฏตัวโดยผ่านบรรดาผู้ช่วยเหลือของท่าน หลังจากนั้นท่านจะไปอยู่ในมักกะฮ์เป็นเวลาสองเดือนหรือมากกว่า ต่อจากนั้นจะไปยังมะดีนะฮ์ และจะอยู่ที่นั่นในช่วงเวลาไม่นานนัก หลังจากท่านจะเดินทางไปยังอิรัก จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังเมืองชามและอัลกุดส์ (เยรูซาเล็ม)
จุดสูงสุดของการทำสงครามกับบรรดาศัตรูของท่านนั้น จะเป็นช่วงเวลาแปดเดือน ซึ่งจะได้รับชัยชนะต่างๆ ที่สำคัญ และโลกอิสลามภายใต้การปกครองของท่านจะเกิดความเป็นปึกแผ่น ต่อจากนั้นด้วยการช่วยเหลือของศาสดาอีซา (อ.) (พระเยซู) จะสร้างสันติภาพกับชาวตะวันตก ประมาณหกเดือน ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่าน จะมีสองเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการบ่งชี้ของพระผู้เป็นเจ้า คือ
เหตุการณ์แรก : การปฏิวัติในดินแดนต่างๆ ของเมืองชาม(ซีเรีย) โดยการนำของอุษมาน ซุฟยานี เกี่ยวกับเรื่องนี้ชาวยิวและชาวตะวันตกต่างคาดคิดว่า ชัยชนะที่สำคัญในการควบคุมพื้นที่ จะสามารถครอบงำเหนือแผ่นดินปาเลสไตน์ได้ และจะตกอยู่ในมือของผู้นำที่มีอำนาจสูง ซึ่งเป็นมิตรสนิทและเป็นฝ่ายสนับสนุนชาวยิวและชาวตะวันตก และเขาจะสามารถต้านทานการคุกคามต่างๆ ของโลกอาหรับและอิหร่านในกรณีเกี่ยวกับอัลกุดส์ได้ แต่ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับฮะดีษต่างๆ ที่เกี่ยวกับซุฟยานีนั้น พวกเขาเชื่อมั่นว่า การปรากฏตัวของซุฟยานีคือจุดเริ่มต้นสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ และพวกเขาจะพูดว่า พระผู้เป็นเจ้าและศาสนทูตของพระองค์ได้กล่าวไว้เป็นจริงแล้ว
وَيَقُولُونَ سُبْحَانَ رَبِّنَا إِنْ كَانَ وَعْدُ رَبِّنَا لَمَفْعُولًا
“และพวกเขาจะกล่าวว่า มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่องค์อภิบาลของเรา แท้จริงสัญญาขององค์อภิบาลของเรานั้น ย่อมถูกกระทำให้ลุล่วงเสมอ” (ซูเราะฮ์อัลอิสรออ์/อายะฮ์ที่ 108)
ดังนั้นพวกเขาจะเตรียมพร้อมเพื่อช่วยเหลือท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)
เหตุการณ์ที่สอง : เสียงประกาศจากฟากฟ้าที่มียังประชาชนทั่วทั้งโลก ทุกคนจะได้ยินมัน แต่ละหมู่ชนจะได้ยินเสียงที่ชัดเจนที่มาจากฟากฟ้าด้วยภาษาของตน คนที่นอนก็จะตื่นขึ้นและคนที่นั่งก็จะยืนขึ้น ทุกคนจะออกมาจากบ้านของพวกเขาเพื่อดูว่ามีสิ่งใดเกิดขึ้น!
เสียงประกาศนั้นจะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนให้ยุติและจำกัดขอบเขตความอธรรม สงครามและการหลั่งเลือด และจะออกคำสั่งให้พวกเขาปฏิบัติตามอิมามมะฮ์ดี (อ.) โดยกล่าวถึงชื่อของท่านและบิดาของท่าน
และในช่วงเวลานี้เอง การตีความ (ตะอ์วีล) พระดำรัสของพระผู้เป็นเจ้าก็จะเป็นจริงขึ้น ที่ทรงตรัสว่า
إِنْ نَشَأْ نُنَزِّلْ عَلَيْهِمْ مِنَ السَّمَاءِ آيَةً فَظَلَّتْ أَعْنَاقُهُمْ لَهَا خَاضِعِينَ
“หากเราประสงค์ เราจะให้สัญลักษณ์หนึ่งจากฟากฟ้าลงมายังพวกเขา แล้วคอของพวกเขาก็ก้มลงอย่างนบนอบต่อมัน”
(ซูเราะฮ์อัชชุอะรออ์/อายะฮ์ที่ 4)
มนุษยชาติจะยอมนบนอบต่อสัญลักษณ์แห่งพระผู้เป็นเจ้าและยอมจำนนต่อมัน ประชาชนทั่วทุกมุมโลกจะพากันถามว่า “มะฮ์ดีเป็นใครและอยู่ที่ไหน!” แต่ชัยฏอน (มารร้าย) จะไม่ยอมปล่อยผู้ปฏิบัติตามของมันไปอย่างง่ายดายโดยไม่ทำอะไร มันจะทำให้ประชาชนเกิดความคลางแคลงสงสัยเกี่ยวกับปาฏิหาริย์ (มุอ์ญิซาต) ของเสียงป่าวประกาศนั้น และมันจะเริ่มปฏิบัติการเพื่อการสังหารท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในขณะที่บรรดาผู้ศรัทธาจะเชื่อมั่นว่าเสียงประกาศนั้นเป็นสัจธรรมความจริงเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าทรงสัญญาไว้ และความศรัทธาของพวกเขาจะเพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น พวกเขาเหล่านี้จะมารวมตัวกันเพื่อช่วยเหลือท่านอิมาม (อ.) ในเวลานี้เองที่เป็นช่วงเวลาของการปรากฏกาย (ซุฮูร) ของท่านอิมาม ซึ่งจะค่อยๆ เริ่มต้นขึ้น
ท่านอมีรุ้ลมุอ์มินีนอะลี (อ.) ได้อธิบายไว้เช่นนี้ว่า
“เขาจะปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความคลางแคลงสงสัย เพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนขึ้น เขาจะกลายเป็นผู้มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก และกิจการของเขาจะเป็นที่ชัดเจน” (บิฮารุ้ลอันวาร, เล่มที่ 53, หน้าที่ 3) กล่าวคือ ท่านจะทำให้ภารกิจของท่านเป็นที่ประจักษ์และชัดเจนสำหรับประชาชน หรือท่านต้องการจะทดสอบประชาชนว่าจะยอมรับคำเรียกร้องเชิญชวนของท่านหรือไม่ เพื่อว่าภารกิจนี้จะได้มีความชัดเจน
ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า “กออิม (มะฮ์ดี) จะยังไม่ยืนหยัดขึ้น จนกว่าหลังจากที่บุรุษจำนวนสิบสองคนจะยืนหยัดขึ้นเสียก่อน และทุกคนจะกล่าวอ้างตรงกันว่า พวกเขาได้เห็นกออิม แต่ประชาชนจะปฏิเสธพวกเขา” (อัลฆ็อยบะฮ์, นุอ์มานี, หน้าที่ 277)
ดูเหมือนว่าบุคคลเหล่านี้จะกล่าวอ้างในสิ่งที่เป็นความจริง เนื่องจากพวกเขาแสดงความประหลาดใจต่อการปฏิเสธของประชาชน และการเห็น (อิมามมะฮ์ดี) ของพวกเขาในช่วงเวลานั้นคือวิกฤตที่เปราะบาง (ฮะดีษได้กล่าวว่า : เขาจะปรากฏตัวขึ้นในช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความคลางแคลงสงสัย เพื่อที่จะทำให้ทุกอย่างเกิดความชัดเจนขึ้น) ในช่วงเวลานี้ท่านอิมาม (อ.) จะชี้นำรัฐบาลของชาวเยเมนและชาวอิหร่าน ซึ่งเป็นรัฐบาลที่เตรียมพื้นฐานสำหรับรัฐบาลของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และในพื้นที่ต่างๆ ของมุสลิม ท่านจะติดต่อสัมพันธ์กับผู้ช่วยเหลือของท่าน
ในช่วงเวลานั้น สายตาของชาวโลกจะจดจ่อไปที่ฮิญาซ และเฝ้ารอคอยการมาของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขารู้ว่าท่านเป็นชาวเมืองมะดีนะฮ์ การเคลื่อนไหวของท่านจะเริ่มต้นขึ้นจากมักกะฮ์ กองทัพของซุฟยานีจะจับกุมบนีฮาชิมจำนวนมากโดยคาดหวังว่าท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะอยู่ในหมู่พวกเขา หลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ กระแสคลื่นของประชาชนมุสลิมจะอื้ออึงไปด้วยการกล่าวขานถึงท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) และปาฏิหาริย์ (กะรอมัต) ต่างๆ ของท่าน
รวมทั้งเสียงป่าวประกาศของญิบรออีลที่กล่าวถึงนามชื่อของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) สถานการณ์เช่นนี้เอง ที่จะจัดเตรียมพื้นฐานที่เหมาะสมสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่าน แต่ขณะเดียวกันก็จะเป็นโอกาสดีสำหรับบรรดาพวกโกหกและพวกหลอกลวง โดยที่พวกเขาจะกล่าวอ้างตนเป็นอิมามมะฮ์ดี และทำให้ประชาชนหลงทาง
ในริวายะฮ์ (คำรายงาน) บทหนึ่งได้กล่าวว่า : ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.) จะมีบุคคลจำนวนหนึ่งกล่าวอ้างตนเป็นอิมามมะฮ์ดี และบุคคลจำนวนสิบสองคนจากเชื้อสายของอบีฏอลิบจะเรียกร้องเชิญชวนประชาชนให้มายังตน แต่พวกเขาทั้งหมดถือธงแห่งความหลงผิด และพยายามจะแสวงหาผลประโยชน์จากการเฝ้ารอคอยของชาวโลกเกี่ยวกับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.)
ท่านอิมามซอดิก (อ.) กล่าวว่า “พวกท่านจงระวังอย่าได้เอ่ยชื่ออิมาม ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! ทั้งนี้เนื่องจากเขาจะเร้นกาย (ฆ็อยบะฮ์) ไปชั่วเวลาหนึ่ง และพวกท่านจะถูกทดสอบ จนกระทั่งจะมีผู้กล่าวว่า มะฮ์ดีเสียชีวิตไปแล้ว หรือถูกฆ่าไปแล้ว หรือลงไปอยู่ในหุบเหวแล้ว บรรดาผู้ศรัทธาจะร้องไห้ให้กับเขา และพวกท่านจะเผชิญกับความวุ่นวายและความทุกข์ทรมานใจเหมือนกับเรือที่เต็มไปด้วยความปั่นป่วนอยู่ในคลื่นกลางทะเล แต่ผู้ที่จะปลอดภัยนั้นมีเพียงผู้ที่พระผู้เป็นเจ้าได้ยอมรับคำมั่นสัญญาของพวกเขา และทรงทำให้ความศรัทธามั่นคงอยู่ในหัวใจของพวกเขาเท่านั้น พระองค์จะทรงช่วยเหลือพวกเขาโดยผ่านทวยเทพของพระองค์ ธงสิบสองธงที่มีความคล้ายกันจะโบกสะบัดขึ้น ซึ่งยากต่อการจำแนกแยกแยะออกจากกันได้”
มุฟัฎฎ็อล กล่าวว่า “(เมื่อฉันได้ยินคำพูดนี้) ฉันได้ร้องไห้” ท่านอิมามกล่าวว่า “โอ้อบูอับดุลลอฮ์เอ๋ย! เจ้าร้องไห้ทำไมหรือ” ฉันกล่าวว่า “จะไม่ให้ข้าพเจ้าร้องไห้ได้อย่างไรเล่า ในเมื่อท่านกล่าวว่า จะมีสิบสองธงโบกสะบัดขึ้น โดยที่ไม่สามารถจะแยกแยะออกจากกันได้ ถ้าเป็นเช่นนี้แล้วพวกเราจะทำอย่างไร” ผู้รายงานกล่าวว่า: ท่านอิมามมองไปยังดวงอาทิตย์ซึ่งกำลังซ่อนตัวอยู่ในเงาเมฆ และกล่าวว่า “โอ้อบูอับดุลลอฮ์เอ๋ย! เจ้าเห็นแสงของดวงอาทิตย์ไหม” ฉันกล่าวว่า “ใช่แล้ว ข้าพเจ้าเห็นมัน” ท่านจึงกล่าวว่า “ขอสาบานต่อพระผู้เป็นเจ้า! กิจการของเรานั้นจะสว่างชัดเจนยิ่งกว่าแสงของดวงอาทิตย์”
ที่มา เว็บไซต์ซอฮิบซะมาน
แสดงความเห็น