การญิฮาด

ความหมายของการญิฮาด

          คือ การต่อสู้กับศัตรูของอิสลาม และ ฉชีพในหนทางของอิสลาม เพื่อความใกล้ชิดยังพระผู้เป็นเจ้า

จากโองการอัลกุรอ่าน ซูเราะฮ์ อันนิสาอ์ โองการที่ ๗๕ กล่าวว่า :

"มีเหตุใดเกิดขึ้นแก่พวกเจ้ากระนั้นหรือ ที่พวกเจ้าไม่ต่อสู้ในหนทางของอัลลอฮ์ ทั้งๆที่บรรดาผู้อ่อนแอ ไม่ว่าชายและหญิงและเด็กๆ ต่างกล่าวกันว่า โอ้พระเจ้าของเรา โปรดนำพวกเราออกไปจากเมืองนี้ ซึ่งชาวเมืองเป็นผู้กดขี่ข่มเหง และโปรดให้มีขึ้นแก่พวกเราซึ่งผู้คุ้มครองคนหนึ่งจากพระองคื และโปรดให้มีขึ้นแก่พวกเรา ซึ่งผู้ช่วยเหลือคนหนึ่งจากพระองค์"

          การปรากฏของอิสลาม ทำให้ศาสนาต่างๆที่มีอยู่ในโลกนี้ถูกยกเลิก และมนุษย์ทุกคนจะเตรียมพร้อมในการเข้ารับศาสนาอิสลาม การศึกษาและค้นคว้าเพื่อทำความเข้าใจเป็นหน้าที่สำหรับทุกคน แต่การยอมรับนั้นถือว่ามีอิสระในการเลือก ในสมัยของท่านศาสดานั้น ท่านใช้วิธีการเผยแพร่ ดดยการเชิญชวนให้เข้ารับอิสลาม และผู้ที่ขัดขวางการเผยแพร่เขาจะต้องเผชิญกับความกริ้วโกรธของพระผู้เป็นเจ้าและคมดาบของมุสลิม การต่อสู้เพื่อขยายการเผยแพร่ของอิสลาม เรียกว่า "การญิฮาด" โดยมุสลิมเข้าทำสงครามกับกลุ่มชนต่างๆ ที่ขัดขวางการเผยแพร่อิสลาม ซึ่งญิฮาดประเภทนี้เรียกว่า "ญิฮาดอิบติดาอี" ซึ่งจะทำได้เฉพะในสมัยของท่านศาสดา (ซ.ล.) หรือในสมัยของบรรดาอิมามมะอ์ซูม(อ.)และสำหรับสมัยแห่งการเร้นหายของอิมามมะฮ์ดีย์นั้น หน้าที่นี้ถือว่าไม่วาญิบ แต่ยังมี ญิฮาดอีกประเภทหนึ่งซึ่งเป็นหน้าที่ของมุสลิมทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเรียกยิฮาดประเภทนี้ว่า "ญิฮาด ดิฟาอี" (ญิฮาดเพื่อการปกป้อง) ซึ่งเป็นวาญิบสำหรับมุสลิมทุกคนที่จะต้องทำการต่อสู้และปกป้องการรุกรานของศัตรู ไม่ว่าจะเป็นการรุกรานทางศาสนา การรุกรานแผ่นดินอิสลาม หรือการรุกรานพี่น้องมุสลิม และในการญิฮาดดิฟาอี แบ่งออกเป็นสองประเภท คือ การปกป้องอิสลาม และ การปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของมุสลิม

การให้ความสำคัญกับการญิฮาด

การญิฮาดเป็นบทบัญญัติที่มีความสำคัญซึ่งในศาสนาอิสลามได้เน้นย้ำเรื่องนี้ไว้เป็นอย่างมาก หากการญิฮาดไม่ใช่คำสั่งของพระผู้เป็นเจ้าแล้วไซร้ แน่นอนศาสนาอิสลามก็จะตกอยู่ในอันตราย และในพระมหาคัมภีย์อัลกุรอ่านก็ได้กล่าวถึงการญิฮาดและความประเสริฐของการญิฮาดไว้อย่างมากมายเช่นกัน

การญิฮาดในหนทางขอลอัลลออ์จะเป็นเหตุให้มนุษย์พบกับความผาสุก และประสบความสำเร็จทั้งดุนยาและอาคิรัต และเช่นกัน หากมุสลิมคนใดไม่ทำการญิฮาดเปรียบดั่งพวกเขาเป็นกาฟิรและผู้ที่กดขี่ไปยังสังคมของตนเอง และการดำเนินชีวิตอย่างผูกดขี่นั้น เขาจะไม่พบกับสิ่งดีงามในชีวิตอย่างแน่นอน ญิฮาดนั้นจะดำรงไว้ซึ่งความยิ่งใหญ่ของบรรดามุสลิม และ หากบรรดามุสลิม ไม่ให้ความสำคัญไปยังญิฮาด แผนการต่างๆของบรรดาศัตรูของอิสลามก้จะชนะเหนืออิสลาม และบรรดามุสลิมก็จะถูกหลอกล่อจากชัยตอนให้ลุ่มหลงไปในหนทางที่ไม่ถูกต้อง

การปกป้องอิสลามและแผ่นดินอิสลาม

   วาญิบสำหรับมุสลิมที่จะทำการญิฮาด เพื่อการปกป้องอิสลาม และแผ่นดินอิสลาม ทำลายแผนร้ายต่างๆของศัตรูอย่างสุดความสามารถและต่อสู้ในทุกรูปแบบเท่าที่จะกระทำได้เมื่อ

      - ศัตรูรุกรานแผ่นดิน

       - ศัตรูมีแผนร้ายในการรุกรานหรือเขาครอบงำ เศรษฐกิจ การเมือง การปกครองหรือวัฒนผธรรมอิสลาม

การปกป้องชีวิตและสิทธิส่วนบุคคของมุสลิม 

๑. ชีวิตและทรัพย์สินของมุสลิม ถือว่าเป็นสิ่งที่มีเกียรติจะต้องได้รับการปกป้อง ดังนั้นถ้ามีผู้หนึ่งผู้ใดรุกราน จึงเป็นหน้าที่ (วาญิบ) สำหรับมุสลิมที่จะต้องทำการปกป้อง แม้จะเป็นเหตุให้ต้องสังหารผู้รุกรานก็ตาม

๒. การปกป้องเกียรติยศต่างๆ ของมุสลิม ถือว่าเป็นการงานที่จำเป็นจะต้องกระทำ เช่น ปกป้องสตรีมุสลิมจากการถูกลวนลามหรือละเมิด ถึงแม้จะต้องทุบตีหรือถูกทุบตีก็ตาม

การญิฮาดกับฮะวานัฟซฺ(กิเลสตัณหาและอารมณ์ไฝ่ต่ำของตน)

การญิฮาดกับฮะวานัฟซฺของตนนั้น คือ การต่อสู้กิเลสตัณหาของตนเอง ด้วยกับการหักห้ามตนเองให้ออกห่างจากการกระทำที่ไม่ดีต่างๆ และการญิฮาดปะเภทนี้ถือเป็นการญิฮาดที่ยิ่งใหญ่และประเสริฐที่สุด และ ท่านศาสนทูตแห่งอิสลาม (ซ.ล.) ก็ได้เรียกการญิฮาดประเภทนี่ว่า "ญิฮาดุล อักบัร(การญิฮาดที่ยิ่งใหญ่)"

ซึ่งเนื่องจากองค์ประกอบภายในของมนุษย์นั้น ประกอบขึ้นโดย อักลฺ (สติปัญญา) อัคลาก (มารยาท) และ นัฟซฺ (ความต้องการของมนุษย์) ซึ่งเราก็สามารถแบ่ง ๓ องค์ประกอบน้ได้เป็น ๒ ส่วน

ส่วนของ จิตใต้สำนึกที่ดี (สติปัญญา และ อัคลาก) และ ส่วนของความเป็นสัตว์ (นัฟซฺ)

และ สองส่วนนี้ก็มักมีการต่อสู้กันและกันอยู่เสมอ ซึ่งมีตัวของมนุษย์เองที่เป็นผู้ควบคุมสงครามนี้

หากส่วนที่เป็นสติปัญญาและอัคลาก ชนะเหนืออีกส่วน มนษย์ก็จะไปถึงยังความสมบูณ์ของความเป็นมนุษย์ แต่หากส่วนของความเป็นสัตว์ชนะ มนุษย์ก็จะเป็นทาสรับใช้ของชัยตอน และแน่นอนสิ่งนี้เองจะเป็นตัวฉุดมนุษย์ให้ตกลงไปอยู่จุดที่ต่ำที่สุดของความเป็นมนุษย์เช่นกัน และเราไม่สามารถชนะเหนือชัยตอนได้เลย หากเราไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพระองค์อัลลอ (ซ.บ.) และปกิบัติตามคำสั่งต่างๆของอิสลาม

        หากบรรดามุสลิมนั้นปฏิบัติตามบทบัญญัติของอิสลาม แน่นอนมวลมนุษย์ทั้งผอง แม้กระทั่งพวกยิว และ คริสเตียน ก็จะหันมามอง และ ยอมรับศาสนาอิสลาม และจะไม่มีผู้ใดเลยจะสามารถทำลายอิสลาม และพี่น้องมุสลิมได้เลย

        ดังนั้นการญิฮาดกับนัฟซฺของตนเองนั้น ถือเป็นการงานที่ยิ่งใหญ่ และ เป็นสิ่งเหตุให้เรานั้นสามารถมีชัยชนะเหนือศัตรูของอิสลามอีกด้วย