American Conservative ได้รายงานวิพากษ์วิจารณ์แนวทางของรัฐบาลทรัมป์ที่มีต่ออิหร่าน

รายงานดังกล่าวมีดังนี้

จุดยืนและท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ที่ได้ต่อต้านอิหร่านนั้นแสดงให้เห็นว่าอเมริกาในยุคสมัยของทรัมป์ก็ไม่สามารถแก้ไขนโยบายที่ล้มเหลวของเขาในตะวันออกกลาง

10 คำนี้เป็นเหตุผลที่ดีสำหรับการนี้: “นับจากวันนี้เราขอเตือนอิหร่านอย่างเป็นทางการ” ถ้อยคำนี้กล่าวโดยไมเคิล ฟลินน์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลทรัมป์หลังจากที่เข้าปฏิบัติหน้าที่สิบสามวัน

แต่ทำไมต้องเป็นอิหร่าน? ในขณะที่ โดนัล ทรัมป์ ให้สัญญาในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งว่า การเอาชนะไอซิสจัดอยู่ในลำดับสำคัญของนโยบายต่างประเทศอเมริกา แต่มาในวันนี้กลับหันหน้าเผชิญหน้าอย่างฉับพลันกับสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านในขณะที่อิหร่านและผู้ก่อการร้ายไอซิสมันอยู่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง

อิหร่าน หากพิจารณาตามเนื้อที่ ประชากรและตัวชี้วัดของการพัฒนาถือเป็นหนึ่งในมหาอำนาจในภูมิภาคที่ไม่ได้เริ่มต้นทำสงครามมานานหลายศตวรรษและใช้อำนาจเย็นของตนในสร้างความสัมพันธ์กับประเทศอื่น ๆ และอุดมไปด้วยมรดกทางวัฒนธรรม ในขณะที่ไอซิสเป็นกลุ่มที่ไม่ใช่ภาครัฐที่กำลังก่อตัวขึ้นด้วยแนวคิดของลัทธิวะฮาบี(Wahhabism) ที่เข้าใจอิสลามแบบผิดๆ ที่จะก่อเหตุด้วยการกระทำการก่อการร้าย ใช้ความรุนแรง ฆ่าหมู่ และการทำลายโบราณวัตถุ

ตอนนี้ดูเหมือนว่าทรัมป์จะดำเนินตามความผิดพลาดของโอบามาและคลินตันในประเด็นตะวันออกกลางและไม่สนใจพื้นฐานแห่งความจริงซึ่งความพยายามต่างๆของโอบามาและคลินตันได้ล้มเหลวและไร้ผลอเมริกาไม่สามารถต่อสู้กับอิหร่านและไอซิสได้และคาดหวังในชัยชนะ

กลุ่มก่อการร้ายต่างๆเช่น ไอซิส อัลกออิดะห์และกลุ่มติดอาวุธเครือข่ายการก่อการร้ายสาลาฟีที่มีฐานที่มั่นของพวกเขาในซีเรียและอิรักต่างถือว่าอิหร่านเป็นศัตรูหลักของพวกเขาในภูมิภาค สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่านเป็นพันธมิตรกับดามัสกัสและแบกแดด บรรดาทหารในประเทศเหล่านี้ด้วยความช่วยเหลือทางทหาร การฝึกอบรม การสนับสนุนและคำแนะนำจากอิหร่านสามารถประสบความสำเร็จในจัดการปราบปรามผู้ก่อการร้าย

ความพยายามของอเมริกาที่จะโดดเดี่ยวอิหร่านหรือลดบทบาทของอิหร่านนั้น มันเป็นเพียงแค่การบั่นทอนกองทัพอิหร่านในภาคพื้นดินในระดับภูมิภาคเพียงเท่านั้นที่มีบทบาทพิเศษในการต่อสู้กับไอซิสและอัลกออิดะห์ ดังนั้นอเมริกาไม่สามารถที่จะจับปลาสองมือได้

ที่มา ญอมนิวส์

Cr: abnewstoday