"ทรัมป์" จับมือ ผู้นำเกาหลีใต้ ยกระดับป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานจากการเปิดเผยของทำเนียบขาวสหรัฐระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายฮวาง คโย-อันห์ รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ร่วมมือยกระดับการป้องกันภัยคุกคามอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ
ทำเนียบขาว เเถลงว่า ผู้นำของทัั้งสองชาติเห็นพ้องกันที่จะยกระดับความร่วมมือด้านกลาโหมเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ โดยทางประธานาธิบดีทรัมป์ ย้ำถึงพันธสัญญาที่จะป้องกันเกาหลีใต้ผ่านการใช้มาตรการพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร เเม้ก่อนหน้านี้ นายทรัมป์ เคยกล่าวในช่วงหาเสียงว่าสหรัฐอาจจะถอนทหารออกจากเกาหลีใต้และญี่ปุ่น หากประเทศดังกล่าวไม่ให้การสนับสนุนทางการเงินเพิ่ม
ขณะที่รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลจะรอช้าอีกต่อไปไม่ได้ เนื่องจากเกาหลีเหนือกำลังเพิ่มศักยภาพเเละสามารถพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก จึงไม่ใช่เวลาจะมาเจรจาปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือเเล้ว
โดยในช่วงนี้ หน่วยนาวิกโยธินสหรัฐและเกาหลีใต้ กว่า 300 นาย กำลังเข้าร่วมการซ้อมรบเพื่อเตรียมรับมือกับสงครามที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะการถูกโจมตีจากเกาหลีเหนือ ซึ่งการซ้อมรบร่วมครั้งนี้มีขึ้นในเขตพยองชาง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้ โดยเริ่มเปิดฉากมาตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือน ม.ค. ไปจนถึงช่วงต้นเดือน ก.พ.นี้
ด้านนายพลเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมคนใหม่ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา มีแผนเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้ โดยถือเป็นหมายกำหนดการเเรกในการเยือนต่างประเทศของผู้นำกองทัพสหรัฐ หลังเปลี่ยนรัฐบาลใหม่
โดยมีการตั้งข้อสังเกตว่า ภารกิจเยือนประเทศพันธมิตรยักษ์ใหญ่ในเอเชียอย่างเร่งด่วนเช่นนี้ จะมีประเด็นความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง ภายหลังประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามถอดถอนสหรัฐออกจากความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก (ทีพีพี) 12 ชาติ ซึ่งสร้างความผิดหวังให้แก่หลายชาติในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นซึ่งนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เคยยกย่องทีพีพีว่าเป็นส่วนหนึ่งของการคานอำนาจกับจีนที่กำลังผงาดขึ้นมา
ทั้งนี้ กองทัพสหรัฐกำลังจะจับมือกับเกาหลีใต้ ติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD เเต่ยังมีเสียงคัดค้านจากทางการจีน โดยให้เหตุผลว่าจะมีเรดาร์บางส่วนเจาะผ่านเข้ามายังเขตจีนได้ ทางพรรคฝ่ายค้านของเกาหลีใต้หลายคนจึงเสนอให้มีการชะลอหรือยกเลิกการติดตั้ง THAAD ของสหรัฐไว้ก่อน
ที่มา- ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
แสดงความเห็น