วิกฤติเศรษฐกิจในซาอุฯ จำต้องขายหุ้นครึ่งหนึ่งจากบริษัทน้ำมันของรัฐ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ
หนังสือพิมพ์ "อัลอิกติซอดียะฮ์" ตีพิมพ์ในกรุงริยาด ได้เขียนโดยอ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ทางการของซาอุฯ ซึ่งไม่ได้เปิดเผยชื่อระบุว่า : ร้อยละ 49 หุ้นของบริษัทอารัมโก จะถูกขายออกไปภายในเวลา 10 ปี และเงินที่ได้จากการขายนี้จะนำไปใช้จ่าย ภายในและภายนอกประเทศ
จากคำพูดของ “มุฮัมมัด บินซัลมาน” รองมกุฎราชกุมารของซาอุฯ การเสนอขายหุ้นครั้งแรกของอารัมโกจะเริ่มต้นในปี 2018 โดยมียอดขายประมาณร้อยละ 5 ของหุ้นทั้งหมด
“อามีน นาซิร” ประธานบริษัทซาอุดิอารัมโกกล่าวว่า ในเร็วๆ นี้ บริษัทจะนำเสนอผลการรายงานในช่วงสามเดือนของความพยายามต่างๆ เพื่อที่จะดึงดูดการลงทุน
การประมาณการต่างๆ ของรัฐบาลซาอุฯ แสดงให้เห็นว่า การขาดดุลงบประมาณของประเทศนี้ในปีหน้าจะอยู่ที่ประมาณ 53 พันล้านดอลลาร์ แต่ขณะเดียวกันรัฐบาลริยาดจะเพิ่มงบประมาณทางการทหารสำหรับปีหน้าขึ้นประมาณร้อยละ 6.7
“มุฮัมมัด อัลญุดอาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของประเทศซาอุฯ ได้ยอมรับว่าในเดือนที่ผ่านมา ประเทศมีหนี้สินสูงขึ้นหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนี้บริษัทก่อสร้างอาคารเอกชนต่างๆ และแรงงานต่างชาติ
รายได้ของซาอุฯ 3 ใน 4 ได้มาจากการขายน้ำมัน นอกเหนือจากการลดลงของราคาน้ำมันในตลาดโลกในช่วงสองปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายทางทหารของซาอุฯ ในการรุกรานทางทหารต่อประเทศเยเมน ทำให้ริยาดต้องเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณครั้งใหญ่
ในช่วงต้นของปีนี้ “มุฮัมมัด บินซัลมาน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรองมกุฎราชกุมารของซาอุฯ ได้เสนอแผนที่เรียกกว่า "วิสัยทัศน์ 2030 ของซาอุดิอาระเบีย" โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐานในระบบเศรษฐกิจ เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน แม้ว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญจะได้แสดงความคลางแคลงสงสัยในความสำเร็จของการดำเนินแผนนี้ก็ตาม
บริษัทจัดอันดับเครดิต "มูดี้ส์" ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของซาอุดิอาระเบียลง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของความเสี่ยงด้านเครดิตของการลงทุนในประเทศนี้
ก่อนหน้านี้ สถาบันสินเชื่อ "สแตนดาร์ดแอนด์พัวร์" (Standard & Poor's หรือ S&P) และ "ฟิทช์" (Fitch Ratings) ก็ได้ลดอันดับเครดิตของซาอุดิอาระเบียลงเช่นกัน
ที่มา : Press TV
แสดงความเห็น