ฟาร์สนิวส์ รายงานว่า : ในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง กองทัพพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน ได้ประณามอย่างรุนแรงต่ออาชญากรรมที่เกิดขึ้นในกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน และถือว่า อาชญากรรมครั้งนี้ เป็นผลมาจากแผนสมคบคิดร่วมกันระหว่างสหรัฐอเมริกา ระบอบไซออนิสต์และราชวงศ์ซะอูด

ตามรายงานนี้ ในเนื้อหาส่วนหนึ่งของแถลงการณ์ฉบับนี้ได้กล่าวว่า : นโยบายต่างๆ ของสหรัฐอเมริกาในโลกอิสลามนั้น กำลังจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสาเหตุการเข่นฆ่าและการสังหารหมู่ประชาชนชาวมุสลิม และสายโซ่ของอาชญากรรมต่างๆ ของทำเนียบขาวได้เริ่มต้นจากอัฟกานิสถาน อิรัก เลบานอน ปาเลสไตน์ ซีเรีย ลิเบียและบาห์เรน และล่าสุดไม่กี่ปีมานี้ ในสนามอันเป็นโศกนาฏกรรมแห่งมินาและมักกะฮ์ และขณะนี้ก็เช่นกัน พวกเขาได้ทำการสังหารหมู่ประชาชนผู้ถูกกดขี่และไร้การปกป้องขึ้นในเยเมน ในรูปลักษณ์ที่โหดร้ายป่าเถื่อนที่สุด

แถลงการณ์นี้ได้กล่าวเสริมว่า : ประมาณหนึ่งปีครึ่งแล้วที่รัฐบาลกระหายเลือดของราชวงศ์ซะอูด เพื่อที่จะชดเชยความปราชัยต่างๆ ทางด้านการเมืองของตนในภูมิภาคของโลกอิสลาม พวกเขาได้เข่นฆ่าประชาชนผู้ถูกกดขี่และมุสลิมชาวเยเมน พร้อมกับมุสลิมชาวซีเรียและอิรัก และไม่เป็นที่สงสัยเลยว่า อาชญากรรมการทิ้งระเบิดในพิธีไว้อาลัยในกรุงซานาซึ่งมีชาวมุสลิมที่ไร้การปกป้องชาวอาหรับเข้าร่วมกว่า 1,500 คนนั้น ได้นำพารัฐบาลซาอุฯ ไปสู่การล่มสลายอีกย่างก้าวหนึ่ง

แถลงการณ์นี้ถือว่า ความเหมือนกันของการเข่นฆ่าเด็กๆ ในฉนวนกาซ่าและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของราชวงศ์ซะอูดในเยเมน คือเครื่องบ่งชี้ถึงเจตนา (เนียต) แห่งซาตาน (ชัยฏอน) เทลอาวีฟและริยาดที่จะทำลายล้างประชาชนชาวอาหรับมุสลิมในภูมิภาคนี้ และกล่าวว่า : ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อาชญากรรมที่บ้าคลั่งเยี่ยงยุคกลางนี้กำลังนำราชวงศ์ซะอูดที่ไร้ความชอบธรรมทางการเมือง ที่ปราศจากการยอมรับของประชาชนในภูมิภาคและนานาชาติโดยสิ้นเชิง ไปสู่การล่มสลาย และกำลังนำพาชะตากรรมของบรรดาผู้ปกครองทรราชที่ถูกเกลียดชังของภูมิภาคและโลกอาหรับ เข้าใกล้กับชะตากรรมของซัดดัมและกัดดาฟีมากยิ่งขึ้น

ในแถลงการณ์ฉบับนี้ได้ย้ำว่า : เรามั่นใจว่า ประชาชนนักปฏิวัติและมุสลิมชาวเยเมน โดยการบัญชาการของกลุ่มอันซอรุลลอฮ์ อันเป็นที่รักและมีความแข็งแกร่งนั้น จะชูดาบแห่งการแก้แค้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง และจงสอนบทเรียนที่ไม่อาจลืมเลือนได้ให้แก่ระบอบราชวงศ์ซะอูดและบรรดาผู้สนับสนุนจอมสกปรกของมัน

แถลงการณ์ฉบับนี้ได้กล่าวในช่วงท้าย ถึงความจำเป็นในการระแวดระวังและการรู้เท่าทันของประชาชาติมุสลิมต่อแผนสมคบคิดต่างๆ และแผนการร้ายของเครือข่ายที่ชั่วร้ายของมหาอำนาจและไซออนิสต์สากล ซึ่งซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ปฏิบัติมัน พร้อมกับกล่าวว่า : ประชาชนผู้มีเกียรติและกล้าหาญของอิหร่านจะยังคงให้การสนับสนุนแกนต้านทาน (มุกอวะมะฮ์) และประเทศมุสลิมทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนผู้ถูกกดขี่ของเยเมน ในการต่อต้านและเผชิญหน้ากับอาชญากรรมต่างๆ ของไซออนิสต์แห่งราชวงศ์ซะอูด และเรียกร้องประชาชาติมุสลิมทั้งมวลให้ประณามอาชญากรรมครั้งร้ายแรงและโหดเหี้ยมในกรุงซานา และการเปิดโปงโฉมหน้าของบรรดาผู้กลับกลอก (มุนาฟิกีน) ที่อ้างตนเป็นผู้รับใช้แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ทั้งสอง (คือมักกะฮ์และมะดีนะฮ์)

ที่มา : http://www.islamicstudiesth.com/