ผู้บัญชาการฐานป้องกันภัยทางอากาศเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม
ผู้บัญชาการฐานป้องกันภัยทางอากาศเข้าพบท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวการปฏิวัติอิสลาม รายงานจากกรุงเตหะราน
เมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ( 28 สิงหาคม 2016) บรรดาผู้บัญชาการและเจ้าหน้าที่ศูนย์ป้องกันภัยทางอากาศคอตะมุลอัมบิยาอ์ ได้เข้าพบท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลาม ซึ่ง ฯพณฯ ได้ชี้ถึงความสำคัญของการป้องกันภัยในฐานะ "แนวหน้าในการเผชิญหน้ากับทุกๆการรุกราน" และถือว่า แนวรบของฝ่ายตรงกันข้ามของสาธารณรัฐอิสลามนั้นคือ แนวรบแห่ง "ความชั่วร้าย ,เล่ห์เหลี่ยมกลอุบาย และต่อต้านความเป็นอิสระของประเทศ" พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในการเผชิญกับศัตรูที่พยายามจะทำลายขีดความสามารถในการป้องกันประเทศนั้น ควรเพิ่มความพร้อมของกองกำลังติดอาวุธโดยที่อย่าปล่อยโอกาสให้ศัตรูแม้แต่คิดที่จะรุกราน
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า ความมุ่งมั่น ความปรารถนาและศักยภาพของมนุษย์ "เป็นปัจจัยสำคัญในการขจัดอุปสรรคและจุดอ่อนต่างๆ และกล่าวเสริมว่า ฐานป้องกันภัยทางอากาศคือองค์ประกอบหลักในชั้นแนวหน้า และควรชื่นชมต่อตำแหน่งที่สำคัญนี้ด้วยการสำแดงความมุ่งมั่นและความแน่วแน่อย่างแท้จริงในการบั่นทอนความมุ่งมั่นในการรุกรานของศัตรูให้อ่อนแอลง
ท่านผู้นำการปฏิวัติอิสลามถือว่า ประเด็นการเป็นศัตรูกับประชาชาติอิหร่านและระบอบอิสลามนั้นมันนอกเหนือจากความเป็นศัตรูแบบทั่วๆไปที่เกิดขึ้นในโลก และกล่าวเสริมว่า แนวรบที่อยู่ตรงกันข้ามกับเรานั้นเราเรียกพวกเขาด้วยชื่อต่างๆเช่น “ระบอบล่าอานานิคม” และ “ระบอบยิวไซออนิสต์สากล” เป็นแนวรบที่มีความสกปรก ความคิดชั่วร้ายเล่ห์เหลี่ยมกลอุบายและมีความคิดกดขี่ ซึ่งมีความเป็นศัตรูและปฏิปักษ์กับหลักความเชื่อทางศาสนา ความเป็นอิสระและประชาชาติอิหร่านที่ไม่ยอมอยู่ใต้การบังคับของศัตรู
ท่านผู้นำสูงสุดถือว่า แนวร่วมของศัตรูที่เป็นปฏิปักษ์ได้แสดงรูปแบบและใบหน้าต่างๆในการต่อต้าน และกล่าวเสริมว่า ซึ่งในวันหนึ่งใบหน้าของศัตรูจะปรากฏในรูปแบบของระบอบการปกครองสหรัฐอเมริกา และในวันอื่นๆ จะปรากฏในใบหน้าของระบอบเผด็จการซัดดัม แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องใช้ทรัพยากรและความสามารถของประเทศที่มากมาย และตระหนักถึงจุดยืนและการวางแผนของศัตรู เพื่อสามารถกำหนดการตัดสินใจที่เหมาะสมและถูกต้องในดำเนินการ
ท่านอยาตุลลอฮ์ คาเมเนอี ถือว่า การต่อต้านอย่างกว้างขวางและการโต้เถียงเกี่ยวกับระบบขีปนาวุธ S-300 หรือการคุ้มกันสถานประกอบการเฟรโดนั้น คือตัวอย่างแห่งความสกปรกของศัตรูของประชาชาติอิหร่าน และกล่าวเสริมว่า ระบบขีปนาวุธ S-300 เป็นเครื่องมือป้องกันและไม่ได้เป็นเครื่องมือเชิงรุกแต่อเมริกาใช้ความพยายามของพวกเขาทั้งหมดที่จะไม่ให้สาธารณรัฐอิสลามได้ครอบครองและใช้ประโยชน์จากเครื่องมือเหล่านี้
ท่านผู้นำสูงสุดกล่าวเสริมว่า เรากำลังเผชิญหน้ากับศัตรูเช่นนี้ ที่ไม่ยอมให้สิทธิสำหรับการป้องกันประเทศของเรา และความจริงสามารถกล่าวได้ว่าไม่ให้มีระบบการป้องกันอยู่ในระเทศ เพื่อว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาต้องการที่จะบุกประเทศของเราก็สามารถที่จะบุกรุกได้ในทันที
ผู้บัญชาการสูงสุดของสามเหล่าทัพ ได้ย้ำถึงในประเด็นการระมัดระวังให้ การดำเนินการให้ทันเวลาและนำเครื่องมือและวิธีการต่างๆมาใช้และเครื่องมือในการป้องกันภัยทางอากาศขั้นสูง และย้ำว่า ศัตรูจงรู้ว่าหากเกิดการรุกรานใดๆขึ้น เราจะตอบโต้อย่างหนักหน่วง และการป้องกันของเรารวมถึงการตอบโต้จากเราด้วย
ที่มา เว็บไซต์สำนักผู้นำสูงสุด
แสดงความเห็น