ชีวประวัติของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ตอนที่ 1



ชีวประวัติของท่านหญิงฟาติมะฮ์ (อ.) ตอนที่ 1

 

ชื่อ : ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ

ชื่อบิดา : มุฮัมหมัด (ศ็อลฯ)

ชื่อมารดา : ท่านหญิงคอดิญะฮ์

กำเนิด : วันศุกร์ที่ 20 เดือนญะมาดิษซานี หลังศาสดาถูกแต่งตั้ง 5 ปี

สถานที่เกิด : นครมักกะฮ์ อันทรงเกียรติ

ชะฮาดัต  : 3 เดือนญะมาดิษซานี ฮ.ศ. 11

สถานที่ชะฮาดัต : นครมะดีนะฮ์ อัลมุเนาวาเราะฮ์

สุสาน : ไม่เป็นที่ปรากฏ

 

 

ในอดีตประชาชาติต่างๆ มองสตรีเหมือนกับสัตว์หรือทรัพย์สิน ส่วนตัวที่อยู่ในการครอบครองของบุรุษเพศ ชนชาติอาหรับในสมัยที่ยังไร้อารยธรรมมองว่าสตรีนั้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความอับยศ เพราะฉะนั้นผู้คนในบางเผ่าถึงกับฝังลูกสาวของตนเองทั้งเป็นก็มี

เมื่อแสงสว่างของอิสลามได้ทอประกายขึ้น ก็ได้มีการส่งเสริมสิทธิให้แก่สตรี และกำหนดสิทธิในด้านต่างๆ ของนางขึ้นมา เช่น สิทธิในความเป็นมารดาเป็นภรรยาและบุตร เราทั้งหลายเคยได้รับฟังบันทึกรายงานบทหนึ่งซึ่งมีใจความว่า "สวรรค์อยู่ใต้ฝ่าเท้าของมารดา" และอีกบทหนึ่งมีใจความว่า "ความพึงพอพระทัยของพระผู้เป็นเจ้า อยู่ที่ความพึงพอใจของบิดามารดา"

อิสลามได้ให้ฐานะความเป็นมนุษย์ของสตรี อีกทั้งได้วางระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ เพื่อปกป้องเกียรติยศของสตรี ฉะนั้นการคลุมฮิญาบ จึงมิได้เป็นการลิดรอนสิทธิสตรี แต่เป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศ และศักดิ์ศรีต่างหาก เราจะพบว่าทรัพย์สินที่มีค่าทั้งหลาย ล้วนถูกเก็บรักษาไว้ในสถานที่ที่มั่นคง แม้แต่ผลไม้ก็ยังถูกรักษาไว้ในชะลอม ฉะนั้นสำหรับสตรีมุสลิม พระผู้เป็นเจ้าพระผู้ทรงมหาบริสุทธิ์ยิ่งมีแด่พระองค์ จึงทรงกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นมา เพื่อปกป้องคุ้มครองสตรี นั่นคือการคลุมฮิญาบ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการปกป้องรักษาเกียรติของนางเท่านั้น แต่ยังเพิ่มคุณค่าและความงามให้แก่นางอีกด้วย

ส่วนชาวตะวันตก มักจะมองสตรีดังเช่นวัตถุดิบชนิดหนึ่งสำหรับไว้โฆษณาธุรกิจและแสวงหากำไรทางวัตถุ ทั้งๆที่บุคลิกภาพ และเกียรติยศของสตรีนั้น คือเกียรติยศของมนุษย์คนหนึ่ง ทัศนะเช่นนี้เองที่ทำให้ความตกต่ำเกิดขึ้นแก่สตรี และทำให้สตรีต้องถูกลดเกียรติยศของความเป็นมนุษย์ที่สูงส่งลง

ในปัจจุบัน เราจะเห็นสภาพความล้มเหลวของระบบครอบครัวในสังคมตะวันตกได้เป็นอย่างดี ฉะนั้นสตรีในโลกตะวันตก จึงถูกเปลี่ยนสภาพให้เหลือแต่เรือนร่างที่เป็นมนุษย์ โดยไม่มีคุณค่าใดๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นในหมู่ของเหล่าดาราภาพยนตร์ นางแบบโฆษณาขายสินค้า หรือผู้ที่เข้าประกวดความงาม ต่างเสมอเหมือนกันไปทั้งหมด เราขอนำท่านผู้อ่านมาทำความรู้จักกับสตรีตัวอย่างในอิสลามสักท่านหนึ่ง ท่านหญิงฟาติมะฮ์ อัซ ซะฮ์รอ (อ) บุตรีผู้เลอศักดิ์ของท่านศาสดาแห่งอิสลาม

 

ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ คือบุตรีของศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ)

ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ คือภรรยาของท่านอิมามอะลี (อ)

ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ คือมารดาของอิมามฮาซัน (อ) อิมามฮูเซน (อ) และท่านหญิงซัยนับ (อ)

 

การกำเนิดของท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ)

 

ท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) ถือกำเนิดหลังจากที่บิดาของนางได้รับการแต่งตั้งให้เป็นศาสดาจากพระผู้เป็นเจ้าอย่างเป็นทางการ 5 ปี และหลังจากเหตุการณ์อัลอิสรออ์ และมิอ์รอจ 3 ปี ท่านญิบรออีลได้นำข่าวดีเกี่ยวกับเรื่องการถือกำเนิดของนางมาแจ้งให้ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้รับทราบ นางถือกำเนิดที่นครมักกะฮ์ เมื่อวันศุกร์ที่ 20 เดือนญะมาดิษซานี

 

บ้านซึ่งวะฮ์ยูถูกประทานลงมา

 

ท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) ได้ถูกเลี้ยงดูอบรมเจริญวัยมาในบรรยากาศแห่งกลิ่นไอของวะฮ์ยู และสภาวะการเป็นศาสดาของผู้เป็นบิดา ซึ่งอยู่ภายในบ้านที่เต็มไปด้วยพจนารถแห่งพระองค์อัลลอฮ์ พระมหาคัมภีร์อัลกุรอานอันไพโรจน์ วันหนึ่ง ท่านหญิงอาอิชะฮ์ได้ถามท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ว่า "เพราะเหตุใดท่านศาสดา (ศ็อลฯ) จึงมีความรักต่อท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) มากเช่นนี้? เพราะทุกครั้งท่านศาสดา (ศ็อลฯ) จะลุกขึ้นยืนต้อนรับท่านหญิงฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ  (อ) เสมอในยามที่นางเข้าพบท่าน และท่านจะจุมพิตศีรษะและมือของนางทุกครั้งอีกด้วย"

ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) จึงได้กล่าวตอบแก่ท่านหญิงอาอิชะฮ์ว่า "โอ้ อาอิชะฮ์ แน่นอนที่สุดถ้าหากเธอได้รู้ในสิ่งที่ฉันรู้ เธอก็จะต้องรักนางเหมือนกับที่ฉันรัก ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ นั้นเป็นเลือดเนื้อก้อนหนึ่งของฉัน ผู้ใดที่ทำให้นางโกรธ แน่นอนเท่ากับเขาทำให้นางโกรธ และผู้ใดทำให้นางมีความพึงพอใจก็เท่ากับเขาได้ทำให้ฉันพอใจ"

บรรดามุสลิมต่างเคยได้ยินได้ฟังท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) มีวจนะไว้ว่า "การที่ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ ได้ถูกขนานนามว่า"ฟาติมะฮ์"ก็เพราะเนื่องจากพระองค์อัลลอฮ์ผู้ทรงเกียงไกร จะทรงปกป้องคุ้มกันบุคคลที่ให้ความรักแก่นาง รอดพ้นจากไฟนรก"

ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) มีลักษณะคล้ายคลึงกับศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ทั้งในด้านบุคลิกและจริยธรรม อุมมุสะลามะฮ์ภรรยาของท่านศาสดาได้กล่าวไว้ว่า "ฟาติมะฮ์ เป็นผู้ที่คล้ายคลึงกับท่านศาสดา (ศ็อลฯ) มากที่สุด" ท่านหญิงอาอิชะอ์ก็ได้กล่าวเช่นกันว่า "แท้จริงฟาติมะฮ์เป็นผู้ที่คล้ายกับท่านศาสดามากที่สุด ทั้งในด้านการใช้คำพูดและการเจรจาพาที"

ท่านหญิง ฟาติมะฮ์ ซะฮ์รอ (อ) ไม่เคยรักใครเท่ากับบิดาของนาง

นางเป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลบิดาของนางตั้งแต่มีอายุได้เพียง 6 ขวบ เพราะนับตั้งแต่มารดาของนางคือ ท่านหญิงคอดีญะฮ์ (อ)  ได้เสียชีวิตไปแล้ว นางได้ทำหน้าที่เติมช่องว่างที่เกิดขึ้นให้แก่ครอบครัวอันเนื่องจากความสูญเสียมารดาของนางแก่บิดาของนางอย่างสมบูรณ์แบบ

ท่านหญิงได้ร่วมทำงานประกาศอิสลามกับบิดาตั้งแต่อายุยังน้อย นั่นคือการเผชิญหน้ากับภัยอันตรายต่างๆ จากพวกผู้ตั้งภาคีในนครมักกะฮ์เวลานั้น ท่านหญิงทำหน้าที่รักษาบาดแผลของบิดา และชำระล้างสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่บรรดาคนโง่เขลาในหมู่ชาวกุเรชกระทำให้บิดาแปดเปื้อน

ท่านหญิงได้พูดปลอบโยนบิดาของท่านในยามทุกข์ เพื่อที่จะได้นำความสุขเข้าสู่จิตใจของบิดา ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ขนานนามเรียกท่านอีกนามหนึ่งว่า "ผู้เป็นมารดาแห่งบิดาของนาง" ทั้งนี้ก็เพราะท่านได้ทุ่มเทความห่วงหาอาทร และความห่วงใยต่อบิดาเฉกเช่นมารดาที่แสดงต่อบุตรอย่างสมบูรณ์แบบนั่นเอง

แสดงความเห็น