ซีเรียยึดคืนป้อมปราการในพัลไมรา



ซีเรียยึดคืนป้อมปราการในพัลไมรา

 

กองทัพซีเรียยึดคืนป้อมปราการเก่าแก่ของพัลไมรา จากการครอบครองของกลุ่มไอในวันศุกร์(25มี.ค.) ที่ผ่านมาตามรายงานของสื่อของรัฐบาลซีเรีย       
       สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่ากองทัพรัฐบาลซีเรียปฏิบัติการการทวงคืนเมืองพัลไมรา ซึ่งถูกกลุ่มไอเอส บุกยึดในปี 2015 จะกลายเป็นชัยชนะที่สำคัญทางภูมิศาสตร์  เมืองพัลไมรา ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่งทะเลทราย เป็นที่ตั้งของซากโบราณสถาน วิหารและสุสานยุคจักรวรรดิโรมันที่มิอาจประเมินค่าได้ แต่โบราณสถานส่วนมากนั้นได้ถูกกลุ่มไอเอสทำลายโดยการใช้ระเบิด และการทุบทำลาย ทั้งตัวอาคารวิหาร รูปปั้น ซึ่งเป็นสิ่งปลูกสร้างทางประวัติศาสตร์ ที่มิอาจประเมินค่าได้ โดยการอ้างของกลุ่มไอเอสว่าวิหารและรูปปั้นเหล่านั้นเป็นการตั้งภาคีต่อพระเจ้า

       เมืองพัลไมรา เป็นเมืองที่ควบคุมเส้นทางต่างๆทางตะวันออกที่มุ่งหน้าสู่แกนกลางดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของไอเอส ซึ่งประกาศสถาปนาการปกครองแบบคอลิฟะฮ์ขึ้นในเพื้นที่ควบคุมทั้งในซีเรียและอิรัก
       
       กองทัพซีเรียเคยปฏิบัติการในการทวงคืนเมืองพัลไมรามาแล้วหนึ่งครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ แต่ครั้งนี้ด้วยกับการเตรียมความพร้อมและการวางยุทธศาสตร์มาเป็นอย่างดี จึงทำให้การทวงคืนเมืองพัลไมราประสบความสำเร็จ โดยการช่วยเหลือของกองกำลังฮิซบุลลอฮ์จากประเทศเลบานอน และนายพลสุไลมานี ที่ถูกส่งมาจากประเทศอิหร่าน เพื่อวางยุทธศาสตร์การรบให้แก่กองทัพซีเรีย สะท้อนให้เห็นว่าเมืองแห่งนี้มีค่าทางยุทธศาสตร์แค่ไหน ด้วยฝ่ายรัฐบาลกระหน่ำโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ และปืนครกภายใต้การสนับสนุนทางอากาศจากเครื่องบินรบ ขณะที่พวกไอเอสตอบโต้ด้วยคาร์บอมบ์
       
       เครื่องบินรบของรัสเซียยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนกองทัพซีเรียและพันธมิตร ในความพยายามจู่โจมยึดคืนเมืองในทะเลทรายแห่งนี้ แม้เมื่อเร็วๆนี้มอสโกเพิ่งแถลงว่ากำลังถอนทหารออกจากซีเรีย
       
       ภาพข่าวของสถานีโทรทัศน์ อัล-มายาดีน ของเบรุต ประเทศเลบานอน ที่รายงานจากชานเมืองพัลไมรา พบเห็นเครื่องบินรบบินในระดับต่ำ ลงมือโจมตีทางอากาศ 3 เที่ยวถล่มนักรบไอเอสที่กำลังล่าถอยจากป้อมปราการ    ต่อมาทหารให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ซีเรียว่าทางกองกำลังใกล้เข้าควบคุมพื้นที่สูงที่มองเห็นได้ทั่วเมืองพัลไมราได้อย่างสมบูรณ์แล้ว       
       อิหร่านและรัสเซียเป็นพันธมิตรสำคัญของรัฐบาลซีเรีย ส่วนสหรัฐฯและประเทศตะวันตกอื่นๆให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏที่พยายามโค่นล้มนายอัซซาดระหว่างสงครามกลางเมือง 5 ปีที่เข่นฆ่าชีวิตผู้คนแล้วมากกว่า 250,0000 ศพและนำมาซึ่งวิกฤตผู้ลี้ภัยครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก
       

แสดงความเห็น