เลขาธิการสมาพันธ์อุละมา(นักวิชาการศาสนา)อัลมุกอวิมัตได้มีปฏิกริยาตอบโต้ต่อเหตุการณ์ที่มินา ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่
เลขาธิการสมาพันธ์อุละมา(นักวิชาการศาสนา)อัลมุกอวิมัตได้มีปฏิกริยาตอบโต้ต่อเหตุการณ์ที่มินา ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่
อัลอาลัม – ชัยค์ มาฮิร ฮะมูด เลขาธิการสมาพันธ์อุละมา (นักวิชาการศาสนา) อัลมุกอวิมัตได้มีปฏิกริยาตอบโต้ต่อเหตุการณ์ที่มินา กล่าวว่า โศกนาฏกรรมที่มินา ถือว่า เป็นโศกนาฏกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของการประกอบพิธีฮัจญ์ใน ปัจจุบัน
เลขาธิการของสมาพันธ์อุละมา(นักวิชาการศาสนา) อัลมุกอวิมัต ได้กล่าวและเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการจัดตั้งเจรจาคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยว กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มินาและเปิดเผยต่อผลลัพท์ในการตรวจสอบนั้นอย่าง โปร่งใส และกล่าวว่า ในความเป็นจริงซึ่งมีการเคารพต่อเกียรติของบรรดานักวิชาการโดยเฉพาะ เหตุการณ์มินา กล่าวได้ว่า ในเหตุการณ์นี้ ถือว่าเป็นโศกนาฏกรรมที่มาจากความเขลาและความล้มเหลวในการบริหารจัดการของซา อุดิอาระเบีย
ชัยค์ มูฮัมหมัด คอลิล นักวิชาการชาวตูนิเซีย กล่าวเช่นกันว่า เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่หลังจากผ่านไปหนึ่งสัปดาห์ สาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโศกนาฏกรรมจะต้องเป็นที่ประจักษ์อย่างชัดเจนโดย เฉพาะอย่างยิ่ง ที่เรารู้กันดีว่า ซาอุดีอาระเบียนั้น มีการติดตั้งกล้องวงจรปิดหลายร้อย หลายพันตัวในสถานที่แห่งนี้
เขากล่าวเสริมว่า เจ้าหน้าที่ของซาอุฯ มิอาจจะยอมรับถึงความไร้ความสามารถและความล้มเหลวของตนในการบริหารจัดการ พิธีฮัจย์ของชาวมุสลิม เพราะว่าบรรดามุสลิม ตลอดระยะเวลาใน 14 ศตวรรษที่ผ่านมา เนื่องด้วยกับการขาดแคลนด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่ยังมีโครงสร้างที่เหมาะสมในการบริหารจัดการพิธีฮัจญ์
นักวิชาการชาวตูนิเซีย ได้กล่าวว่า การไม่สนใจต่อชะตากรรมของบรรดาผู้แสวงบุญที่เสียชีวิต เป็นการไม่ให้ความสำคัญต่อโศกนาฏกรรมนี้ที่ซาอุดิอาระเบียได้ก่อทำไว้
เขากล่าวอีกว่า หากมองในพฤติกรรมที่น่าเกลียดของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย หลังจากเกิดโศกนาฏกรรม จะเห็นได้อย่างชัดเจน และกล่าวว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในพิธีฮัจญ์ในปีนี้มาจากความประมาทและไร้ประสิทธิภาพ ในการบริหารจัดการ อีกทั้งยังไร้ซึ่งความสามารถของเจ้าหน้าที่ซาอุฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการตั้งใจซ่อนศพของบรรดาผู้แสวงบุญ มีการโกหก เกิดความสงสัยต่อความรับผิดชอบของการบริหารจัดการในพิธีฮัจญ์
โศกนาฏกรรมที่มินา เกิดขึ้นเมื่อวันฟฤหัสที่ 24 กันยายน 2015 ซึ่งตรงกับวันอีด อัลอัฎฮา ที่เป็นสาเหตุให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4 พัน คน ที่พวกเขาเหล่านั้น คือผู้เป็นอาคันตุกะแห่งอัลลอฮ์ ด้วยกับการบกพร่องในการบริหารจัดการของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาอุดิอาระ เบีย ซึ่งมีบรรดาฮุจญาจชาวอิหร่านที่เสียชีวิตในโศกนาฏกรรมนี้ ประมาณ 464 คน
ที่มา : http://fa.alalam.ir/news/1745132
แสดงความเห็น