อยาตุลลอฮ์ซัยยิดอาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านตำหนิรบ.ซาอุฯ



อยาตุลลอฮ์ซัยยิดอาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านตำหนิรบ.ซาอุฯ


 

ผู้นำสูงสุดอิหร่านตำหนิ รบ.ซาอุฯ ต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวงต่อโศกนาฏกรรมสลดผู้แสวงบุญชาวมุสลิมเหยียบกันตาย ที่นครเมกกะ ถึง 717 คน เป็นชาวอิหร่านอย่างน้อย 95 คน ขณะที่กษัตริย์ซาอุฯทรงมีรับสั่งให้ทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ ในช่วงผู้แสวงบุญเดินไปประกอบพิธีปาหินใส่เสาที่ทุ่งมีนา ด้านรมต.มหาดไทยชี้หนึ่งในสาเหตุเกิดอุบัติเหตุสลด เพราะผู้แสวงบุญจำนวนมากไม่เคารพตารางเวลาที่ทางการแจ้งไว้

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานความคืบหน้าโศกนาฏกรรมผู้แสวงบุญชาวมุสลิมจำนวนมากกว่า 2 ล้านคนจากทุกสารทิศ ซึ่งเดินทางมาร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ ที่นครมักกะฮ์ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ประสบอุบัติเหตุเหยียบกันตายเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 24 ก.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างเคลื่อนขบวนจะไปทำพิธีปาเสาหิน สัญลักษณ์ของชัยฏอน(ซาตาน) ที่ทุ่งมีนา ซึ่งเป็นวันแรกของวันตรุษอีดิ้ลอัฎฮา จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน่าสลดถึง 717 คน บาดเจ็บ 863 คน  จนถือเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้แสวงบุญเสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 25 ปี

ด้านกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดีอาระเบียทรงมีรับสั่งให้เจ้าหน้าที่ทางการมีการทบทวนมาตรการรักษาความปลอดภัยแก่ผู้แสวงบุญที่มาร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ประจำปี ซึ่งมีจำนวนมหาศาลกว่า 2 ล้านคน โดยกษัตริย์ซัลมานตรัสว่า จำเป็นต้องมีการปรับปรุงระดับของการบริหารจัดการในการเคลื่อนขบวนของผู้แสวงบุญที่มาร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ ขณะที่ทางการได้ตั้งคณะกรรมาธิการขึ้นมาสอบสวนหาสาเหตุอุบัติเหตุสลดเพื่อรายงานต่อรัฐบาล โดยอุบัติเหตุเหยียบกันตาย เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น. ของเช้าวันที่ 24 ก.ย. ขณะที่ผู้แสวงบุญจำนวนมากเดินเพื่อมุ่งหน้าไปทำพิธีปาหินใส่เสา ที่บริเวณทางเดินวงกลมสูง 5 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นล้อมรอบเสาหิน

พลตรีมานซูร์ อัล-ตูร์กี โฆษกประจำกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบีย อธิบายถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสลดเหยียบกันตายในครั้งนี้ว่า เกิดขึ้นเมื่อมีกลุ่มผู้แสวงบุญกลุ่มใหญ่ 2 กลุ่ม ซึ่งเดินมากันบนถนนคนละเส้นทางกันเกิดเดินมาบรรจบกันบนถนนสายหนึ่งที่จะมุ่งหน้าไปยังทุ่งมีนา ที่อยู่ห่างจากนครเมกกะออกไปนอกเมืองประมาณ 5 กม. เป็นเหตุให้ฝูงชนจำนวนมากเกิดการเบียดเสียดผลักดันกันจนนำไปสู่การเหยียบกันและล้มทับกันจนขาดอากาศหายใจ 

แต่ในความเป็นจริงซึ่งทางการซาอุดิอารเบียทำการปิดข่าวคือ ในขณะนั้นมีขบวนคาราวานของ มุฮัมมัด บิน ซัลมาน รองมกุฏราชกุมาร และรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม เดินทางเพื่อเข้ามาร่วมในพิธีกรรมดังกล่าว ในขณะเดินทางกลับได้มีการปิดช่องทางจราจรเหลือเพียงสองช่องทาง ทำให้ฮุจญาดเบียดเสียด แออัดขาดอากาศหายใจ และล้มลงเกิดเหตุการณ์เยียบกันตายดังกล่าว

 

ในจำนวนผู้เสียชีวิตประมาณ900 คน เป็นชาวอิหร่านอย่างน้อย 131 คน อีกทั้งยังประกอบด้วยผู้แสวงบุญอีกหลายชาติ โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าว อยาตุลลอฮ์ซัยยิดอาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่านได้ออกมากล่าวว่า รัฐบาลซาอุดีอาระเบียต้องรับผิดชอบอย่างใหญ่หลวง พร้อมกับตำหนิ การบริหารจัดการที่ผิดพลาด และการปฏิบัติอย่างไม่เหมาะสมต่อฮุจญาดซึ่งเป็นแขกของพระผู้เป็นเจ้า

แสดงความเห็น