ไนจีเรียโจมตีค่ายโบโกฮารัมช่วยเหลือผู้หญิงและเด็ก

กองทัพไนจีเรียออกแถลงการณ์ ล่าสุดสามารถช่วยเหยื่อลักพาตัวผู้หญิงและเด็กจำนวน 241 คนจากค่ายกลุ่มก่อการร้ายโบโกฮารัมใกล้เมืองบันกี (Banki) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ และจับอามีร์แห่งบูลากูรี (Amir of Bulakuri) หนึ่งในแกนนำคนสำคัญของกลุ่มติดอาวุธได้หลังจากสมาชิกญิฮัดใต้บังคับบัญชาทิ้งอาวุธหลบหนี

       
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เหยื่อลักพาตัวที่มีทั้งผู้หญิงและเด็กจำนวน 241 คนถูกช่วยออกมาได้จากค่ายโบโกฮารัมซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านจานกูโรรี (Jangurori) และหมู่บ้านบูลาตอรี (Bulatori) ใกล้กับเมืองบันกี (Banki) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ในปฏิบัติการกวาดล้างก่อการร้ายล่าสุดของกองทัพไนจีเรีย
       โฆษก โฆษกกองทัพไนจีเรียได้ให้สัมภาษณ์ว่า ในขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าคนทั้งหมดที่ได้รับการช่วยเหลืออกมานั้นถูกกลุ่มโบโกฮารัมลักพาตัวมาหรือไม่ โดยในขณะนี้อยู่ในระหว่างการตรวจสอบเหยื่อลักพาตัวทั้งหมด “การสอบสวนกำลังดำเนินไปเพื่อที่ทางเราจะสามารถรู้ถึงที่มาของคนเหล่านี้ บางส่วนเป็นผู้ถูกลักพาตัว บางส่วนเป็นสมาชิกครอบครัวของสมาชิกติดอาวุธ” อุซมานกล่าว
       
       นอกจากนี้ กองทัพไนจีเรียยังสามารถจับกุมสมาชิกติดอาวุธได้ 43 คน รวมไปถึงแกนนำคนสำคัญของโบโกฮารัม บูลามา โมดู (Bulama Modu) หรือรู้จักในชื่อ อามีร์แห่งบูลากูรี (Amir of Bulakuri) ที่อยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการรบระดับสูง       
       และโฆษกกองทัพไนจีเรียยังกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า “กลุ่มกอการร้ายได้ละทิ้งผู้บังคับบัญชา และฝังอาวุธก่อนหลบหนี” และเป็นอีกครั้งที่กองทัพไนจีเรียอ้างว่าโบโกฮารัมอยู่ในสภาพระส่ำระสายอย่างหนัก แต่ทว่า อาบูบาการ์ เชเกา (Abubakar Shekau) หัวหน้ากลุ่มโบโกฮารัมได้ออกมาปฏิเสธโดยกล่าวปัดว่า “เป็นเรื่องโกหกทั้งนั้น”
       
จากรายงานสถิติ องค์การนิรโทษกรรมสากลได้เปิดเผยตัวเลขผู้หญิงและเด็กจำนวนไม่ต่ำกว่า 2,000 คนถูกโบโกฮารัมลักพาตัวไปภายในเพียงแค่ 2 ปี ซึ่งคดีนักเรียนหญิงถูกลักพาตัวเกือบ 300 คนถือเป็นคดีที่ทำให้ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ และกดดันไนจีเรียให้ออกติดตามหา และยังส่งผลต่อการเลือกตั้งไนจีเรียจนทำให้อดีตประธานาธิบดีกู๊ดลัก โจนาทาน ต้องพ่าย
       
       นอกจากจะลักพาตัวแล้ว โบโกฮารัมยังโจมตีทั้งในไนจีเรีย แคเมอรูน ไนเจอร์ และเบนิน ซึ่งประเทศรอบทะเลสาบชาดได้ร่วมส่งกำลังปราบโบโกฮารัมในรูปแบบกองกำลังพันธมิตรขึ้น