สกู๊ปพิเศษ !!! เปิดโปงซัยยิดยะมานีปลอม ตอนที่ 1

โดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิดสุไลมาน ฮูซัยนี

 

สกู๊ปพิเศษในวันนี้คือ เรื่อง ซัยยิดยะมานี

 

เรื่องซัยยิดยะมานี เป็นประเด็นที่จำเป็นต้องทำการชี้แจง ซึ่งผมถือว่าเป็นหน้าที่ทางศาสนาโดยตรง เป็นหน้าที่ของผู้รู้ เป็นหน้าที่ของนักเรียนศาสนา เป็นหน้าที่ของบุคคลที่มีข้อมูล ที่จะต้องมาเตือนภัยในครั้งนี้

เมื่อก่อนประเด็นเหล่านี้ไม่ได้ถูกนำเสนอเป็นทางการเท่าใดนัก แต่ในวันนี้ มีการขยับขึ้นมาอีกและดูท่าทางแล้วว่า บุคคลผู้หลงทาง ยังไม่ยอมหยุด ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เราจึงต้องฉีดวัคซีนให้กับพี่น้องทุกๆคนและบอกให้เราทุกคนมีหน้าที่ ที่จะต้องปฏิบัติ ซึ่งเราต้องกลับไปในรากฐานของปัญหา ให้รู้ว่า เรื่องมันมีที่ไปที่มาอย่างไร ?

 

รากฐานของปัญหา

 

หลังจากเกิดการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน พวกเราจะรู้หรืออาจไม่รู้แต่บรรดาศัตรูรู้ว่า คลื่นการปฏิวัติอันนี้นั้นยิ่งใหญ่เป็นอย่างมาก คลื่นการปฏิวัติอันนี้นั้น จะเปลี่ยนแปลงโลกอิสลามไปทั้งโลก

นี่คือ สิ่งแรกที่บรรดาศัตรูรู้

ถ้าพี่น้องติดตามคำบรรยายของผม เรื่องการปฏิวัติ พี่น้องจะทราบ ผมเคยบอกพี่น้องว่าช่วงนั้น เรากำลังติดตามข่าวหนึ่งกันอยู่ ผมขออธิบายเสริมอีกนิดหนึ่ง ว่า เมื่อท่านอิมามโคมัยนี(รฎ)กลับไปถึงอิหร่านแล้ว ชนะชาห์แล้ว ทาง BBC ได้ทำสกู๊ปพิเศษขึ้นมาสกู๊ปหนึ่ง แล้วโฆษณาว่า คืนนี้พบกับสกู๊ปพิเศษของสถานีโทรทัศน์ BBC

ซึ่ง ณ วันนั้นสถานีโทรทัศน์นี้ เป็นสถานีที่นับว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เพราะมีคนดูนับเป็นพันล้านคน พวกเขาได้ประกาศว่า เราจะเปิดเผยเบื้องหลังความสำเร็จของการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน ว่า ทำไม…ชายชราผู้นี้จึงประสบความสำเร็จ ซึ่งทั้งโลกต้องเฝ้าจับตามอง

ผมก็เอาสกู๊ปนั้นมาดู เมื่อเริ่มเข้าสู่รายการ สิ่งแรกที่เห็น คือ โดมของท่านอิมามฮูเซน(อ) ซึ่งผมยังจำจนถึงวันนี้ ผมเห็นโดมของท่านอิมามฮูเซน(อ)และผู้บรรยายก็ได้กล่าวว่า….                    

ซึ่งผมได้เกริ่นแล้วว่า ก่อนหน้านี้ เขาเริ่มด้วยการโฆษณา เรื่องเกี่ยวกับการปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน

เขารู้ว่าจะทำอย่างไรให้คนในสังคมได้รับรู้อย่างรวดเร็ว และรู้ด้วยว่าต้องเริ่มด้วยการทำโฆษณาอะไร ก่อนจะเข้ารายการ

เรื่อง การปฏิวัติอิสลามในอิหร่าน มีโฆษณาล่วงหน้ากันหลายวันแล้ว ซึ่งไม่มีใครคาดถึง

นี่คือกัรบาลาอฺ ณ สถานที่แห่งนี้ คือ สถานที่ซึ่งหลานชายของศาสดาได้ถูกสังหาร เกิดการพลีขึ้นที่นี่ จากนั้นจึงบรรยายต่อด้วยเรื่องราวของอิมามฮูเซน(อ) แล้วก็บรรยาย(พล็อต)เค้าโครงเรื่องด้วยกับพลังแห่งการพลีอันนี้ จึงทำให้ชีอะฮ์เป็นนักปฏิวัติ จึงทำให้ชีอะฮ์เป็นกลุ่มชนเดียวที่พร้อมที่จะพลีเพื่อ ‘ศาสนา’ ซึ่งรายละเอียดก็ได้กล่าวไปแล้ว

ใครพูดคำนี้?

คำตอบ คือ ศัตรูของศาสนา !!!

แสดงว่า เขาเข้าใจชีอะฮ์ดีกว่าเรา ตั้งแต่ 36 ปีที่แล้ว นี่คือ สกู๊ปที่หนึ่ง

และสกู๊ปต่อมา เขาบอก “การปฏิวัติอันนี้จะเกิด”ศัตรูอิสลามได้พูดไปแล้วว่า การปฏิวัติอันนี้ จะก่อเกิดการเปลี่ยนแปลงโลกมุสลิม ศัตรูรู้ว่าในแผ่นดินอิสลามที่ยิ่งใหญ่ จะเกิดแรงกระเพื่อม ตั้งแต่แอฟริกาเหนือ จนถึง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งประเทศสุดท้ายของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือ อินโดนีเซีย ส่วนแอฟริกาเหนือ คือ ลิเบีย,อัลจีเรีย

การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่านจะนำไปสู่การปฏิวัติโลก

ตามที่เกริ่นนำเบื้องต้น ศัตรูอิสลามยอมรับว่า การปฏิวัตินี้จะนำไปสู่การปฏิวัติโลก พวกเขาได้ทำทุกวิถีทางในการสกัดกั้น เพื่อไม่ให้การปฏิวัตินี้เปลี่ยนไปเป็นการปฏิวัติโลก แต่วันนี้อัลฮัมดุลิลลาฮ์หลังจาก 36 ปีผ่านไป การปฏิวัตินี้ได้พิสูจน์แล้วว่าเป็น “การปฏิวัติโลก”

ถ้าพี่น้องติดตามข่าวสาร เมื่อโลกอาหรับมีการเปลี่ยนแปลง สืบเนื่องจากประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ของรัฐ ก็ยังมีบางกลุ่มที่ต้องการจะบิดเบือนเนื้อหา ‘เกิดการปฏิวัติดอกมะลิ’ ซึ่งเป็นกระบวนการเชิงวาทกรรมกับการใช้สัญลักษณ์ในการเร่งเร้าอารมณ์และระดมผู้คนเข้าร่วมการขับเคลื่อนทางสังคม เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภูมิภาคหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นครั้งแรกที่ประเทศตูนิเซีย ตามด้วย ลิเบีย อิยิปต์ และประเทศอื่นๆทยอยตามมา

เบื้องต้น ทุกคนที่เป็นนักปฏิวัติที่อยู่ร่วมในขบวนการนั้น ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการปฏิวัติอิสลามในอิหร่านเป็น inspiration (อินสไปเรชั่น) เป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้พวกเขาลุกขึ้นต่อสู้

ในช่วงต้น ที่นักปฏิวัติไม่มีการเคลื่อนไหว เป็นเพราะ หนึ่ง มีการสกัดกั้น

สอง ขาดความมั่นใจ ไม่เชื่อมั่นว่า อิสลามจะกลับมายืนหยัดอยู่ได้

แต่จากประสบการณ์ 30 กว่าปีที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาจ้องมองอิหร่าน เขาเห็นอิหร่านอยู่ได้ด้วยความเข้มแข็ง อีกทั้งมีการพัฒนาทุกอย่างภายในประเทศ ก็ยิ่งสร้างแรงบันดาลใจเพิ่มมากขึ้น

แม้แต่ในเยเมน ถ้าพี่น้องได้ติดตามข่าว จะเห็นว่า ในเยเมน “ทั้งเมืองเต็มไปด้วยรูปอิมามโคมัยนี(รฎ)และรูปอิมามคาเมเนอี” ที่เห็นนี้ เกิดจากผลพวงของการปฏิวัติ ซึ่งเราจะบอกว่า ศัตรูรู้ล่วงหน้ามาก่อนแล้ว ศัตรูรู้ล่วงหน้าก่อนที่อิมามโคมัยนี(รฎ)จะปฏิวัติเสียอีก

ศัตรูอิสลามรู้ว่า ชีอะฮ์ คือ ชนชาติที่อันตรายที่สุดสำหรับมัน ศัตรูอิสลามจึงเคลื่อนไหวทุกวิถีทาง เพื่อทำให้ชีอะฮ์ง่อยเปลี้ย พิการ และทำทุกอย่างมิให้มีการเคลื่อนไหว

เมื่อย้อนไปในอดีต จะเห็นว่า บิดาของกษัตริย์ชาห์ ปาเลห์วี ก็เคยห้ามการจัดมัญลิซมูฮัรรอม ห้ามการรำลึกวันอาชูรอ ในอิรักก็เช่นกัน ซัดดัม(ลน.)ก็เคยห้ามในลักษณะนี้อย่างมากมาย เพราะเขาเหล่านี้รู้ว่า ชีอะฮ์ คือ แนวทางที่อันตรายมากที่สุด และจนถึงตอนนี้บทวิเคราะห์นี้ก็ยังไม่มีเปลี่ยนแปลง

 

ทฤษฎีของฟราน ซิส ฟูกูยามา

ถ้ายังจำกันได้ ผมก็เคยนำเสนอทฤษฎีของฟราน ซิส ฟูกูยามา

ฟราสซิส ฟูกูยามา ได้กล่าวว่า…

“หากเปรียบชีอะห์ดั่งนก นกตัวนี้จะบินอยู่สูงกว่าวิถีการทำลายล้างของพวกเรา เพราะนกตัวนี้นั้น มีปีกอันทรงพลังสองข้าง ข้างหนึ่งปีกสีเขียว และอีกข้างปีกสีแดง”

หลังจากนั้นเขาก็ได้อธิบายอย่างละเอียดว่า ปีกสีเขียวและสีแดงที่ชีอะห์มีคืออะไร?

“ปีกสีเขียว คือการมีความเชื่อและความหวังต่อการมาปรากฏกายของท่านอิมามมะห์ดี (อ.) ผู้สืบเชื้อสายของศาสดามุฮัมมัด(ศ็อลฯ) และจะมาสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นบนโลกนี้ ชีอะห์มีความเชื่อและมีความหวังต่อการเกิดขึ้นของความยุติธรรม และมนุษย์ที่มีความหวัง คือมนุษย์ที่จะไม่พบกับความพ่ายแพ้ เราไม่สามารถพิชิตประชาชาติหนึ่งประชาชาติใดที่พวกเขาเชื่อว่าจะมีบุคคล หนึ่งปรากฏกายขึ้นเพื่อมาพิชิตผู้กดขี่ และสร้างความยุติธรรมให้เกิดขึ้นทั่วโลกได้”

“ปีกสีแดง คือการปลูกฝังเรื่องราวการพลีและการเสียสละ มีความรักความปรารถนาต่อการเป็นชะฮีด (พลีชีพในหนทางของพระผู้เป็นเจ้า) ที่ได้รับอิทธิพลมาจากการพลีของอิมามฮูเซน (อ) ณ แผ่นดินกัรบาลาอฺ

ปีกสีแดง คือ การปลูกฝังเรื่องราวแห่งอาชูรอ ปีกสองข้างนี้จะปกป้องชีอะห์จากการถูกทำลายในทุกๆ มิติ”

ดังนั้น ทฤษฎีของฟราน ซิส ฟูกูยามา จึงมุ่งเป้าไปที่ปีกเขียวปีกแดงเพื่อทำลาย

นี่คือ แผนงานของศัตรู เขาสร้างทุกรูปแบบ เก็บรายละเอียดทุกอย่าง ถ้าสามารถดึงขนหนึ่งเส้นของนกตัวนี้ได้ ก็จะต้องดึงมา

แม้โอกาสมีเพียงการดึงขนอุยของนกเพียงหนึ่งเส้นพวกเขาก็จะทำ

เราอย่าได้ประมาทและอย่าคิดว่า ดึงขนนกเพียงหนึ่งเส้น นกคงไม่เป็นไร จริงอยู่นกยังบินต่อได้ แต่ถ้าช่วยกันดึงขนนก คนละเส้น คนละเส้น วันหนึ่งก็อาจจะหมด

เขาทำทุกอย่างเพื่อสร้างแนวทางต่อต้านวิลายะตุลฟากีห์ ต่อต้านการปฏิวัติ สร้างแนวทางแบ่งแยกอิสลามอิหร่านออกจากอิสลามอาหรับ สร้างเรื่องราวสร้างกลุ่มชน แยกชีอะฮ์ออกจากอิหร่าน เขาสร้างชีอะฮ์อิรัก เขาสร้างชีอะฮ์อิหร่าน สร้างอะไรต่อมิอะไรอย่างมากมาย

นี่คือ สิ่งหนึ่งที่เราจะต้องรู้ไว้เป็นพื้นฐานว่า ต้นตอของปัญหานั้นเกิดมาจากที่ไหน?

การสร้างแนวคิดแปลกปลอม เพื่อให้ชีอะฮ์ห้ำหั่นกันเอง

หลังจากที่ซัดดัม(ลน.)ถูกโค่นล้ม ชีอะฮ์ในอิรักเริ่มมีการขยับขึ้น เริ่มมีสิทธิมีเสียงในเรื่องนี้ มีอิสระทางการเมือง มีอิสระในการแสดงความคิด และทิศทางก็เริ่มขยับมาที่อิหร่าน ถึงแม้จะมีการสกัดกั้นในรูปแบบใดก็ตาม ความหวังในเรื่องของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)ก็เริ่มเข้มข้นขึ้นมาในรูปแบบต่างๆขึ้นมา

ศัตรูอิสลามวางแผน คิดการอยู่ตลอดเวลา ว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้ชีอะฮ์ในอิรัก ง่อยเปลี้ย เสียขา ห้ำหั่นฟาดฟันกันเอง ทะเลาะกันเองอย่างเอาเป็นเอาตาย อีกทั้งสร้างแนวคิดแปลกปลอมขึ้นมาอย่างมากมาย

ดังนั้น มิใช่เรื่องของซัยยิดยะมานีเพียงเรื่องเดียว แต่มีมากมายหลายรูปแบบ ซึ่งจะยังไม่พูดถึง รอให้ปรากฏก่อนแล้ว ผมจะอธิบายให้พี่น้องได้รับรู้ในโอกาสหน้า วันนี้เรื่องนี้ปรากฏขึ้นมาแล้ว และรู้สึกว่า เริ่มจะออกหน้าออกตา ไปไกล เริ่มจะไม่เกรงกลัว เริ่มไม่เกรงขามสิ่งใดแล้ว

การสร้างแนวคิดแปลกปลอม คือ เป้าหมายของศัตรู

หนึ่ง ในแผนร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมา มีเป้าหมายหลัก คือ การทำลายพี่น้องในอิรัก

สอง คือ การทำลายความหวังของการรอคอยท่านอิมามมะฮ์ดี(อ)ไปยังชีอะฮ์ทั่วทั้งโลก โดยได้สร้างแนวคิดซัยยิดยะมานี(ปลอม)ขึ้นมา

 เบื้องหลัง ซัยยิดยะมานีปลอม

ซึ่งในตอนนี้โดยหลักแล้ว นักวิชาการอิหร่านได้พิสูจน์ที่ไปที่มาอย่างสมบูรณ์แล้วว่า เบื้องหลังของซัยยิดยะมานีนี้เป็นกลุ่มที่ถูกสร้างโดย ‘มอสสาด’ เขามีความสัมพันธ์กัน เพราะคนที่อ้างตัวเป็น “ซัยยิดอะหมัด อัล ยะมานี” ถูกพิสูจน์ได้ว่า เคยทำงานลับ กับ ‘มอสสาด’

ฉะนั้น เป็นชีอะฮ์ต้องรู้จักคำแบบนี้ด้วย

คำว่า ‘มอสสาด’คือ องค์กรราชการลับ มีหน้าที่เป็นหน่วยปฏิบัติการ ที่ทำการรวบรวมข่าวกรอง และประเมินข่าว ทุกข่าวที่ต้องสงสัย และยังรวมถึงเป็นหน่วยงานทางทหารออกปฏิบัติการการสังหารและปฏิบัติการพิเศษของอิสราเอล ของไซออนิสต์ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสร้างความปั่นป่วน

เป้าหมายของศัตรูมีมากมาย เมื่อปรากฏตัวออกมา สิ่งแรกที่ขบวนการนี้ทำ คือ ประณามและทำลายระบบมัรเญียะอฺทั้งหมด โดยกล่าวหาว่า เรื่อง มัรเญียะอฺเป็นระบบแปลกปลอมที่ชีอะฮ์สร้างขึ้นมา

จริงๆแล้วจะต้องมีตัวแทนของท่านอิมามมะฮ์ดี(อ) ซึ่งรายละเอียดนี้พี่น้องจำเป็นต้องรู้ทั้งหมด เพียงแต่ในเบื้องต้นให้รู้ก่อนว่า ศัตรูเข้ามาทำลายระบบมัรเญียะอฺก่อน

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งใช้วิธียอมรับระบบมัรเญียะอฺ แล้วเอาระบบมัรเญียะอฺมาทำลายวิลายะตุลฟากีห์ ศัตรูเก็บรายละเอียดทุกเม็ด แม้แต่ถ้าถอนขนอุยวันละเส้นได้มันก็ถอน แต่ถ้านกถูกถอนขนทุกวัน มันก็ไม่อาจบินได้

 

การทำลายอิสลามด้วยการทำลายระบบมัรเญียะอฺ

 

โดยสรุปแล้ว มุมหนึ่งศัตรูทำลายอิสลาม ด้วยวิธีเอาระบบมัรเญียะอฺมาทำลายวิลายะตุลฟากีย์ คือ กลุ่มหนึ่งสร้าง อีกกลุ่มหนึ่งทำลายระบบมัรเญียะอฺ เพราะระบบมัรเญียะอฺในชีอะฮ์ มีความเข้มแข็งที่ไม่สามารถที่จะทำให้ชีอะฮ์หลงทางได้ นอกจากคนบ้า

 

(โปรดติดตาม ตอนที่ 2 )

ที่มา เว็บไซต์ syedsulaiman.com