รัฐบาลอิหร่านเตรียมลงนามสัญญาซื้อขีปนาวุธรัสเซีย

อิหร่านจะลงนามสัญญาฉบับหนึ่งกับรัสเซียในสัปดาห์หน้า เพื่อซื้อระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศเอส-300 จำนวน 4 ระบบ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมอิหร่านแถลงว่า ระบบขีปนาวุธจะทำให้เตหะรานเข้าใกล้การได้มาซึ่งความสามารถด้านการป้องกันภัยทางอากาศขั้นสูงมากขึ้นอีกก้าว

      สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานจากสำนักข่าวฟาร์สนิวส์รายงาน นายฮุเซน เดห์กอน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมกล่าวว่า “เนื้อหาของสัญญาฉบับดังกล่าวพร้อมแล้วและเพื่อนของเราจะไปยังรัสเซียในสัปดาห์หน้าเพื่อเซ็นสัญญาฉบับนี้”

ซึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา อัลมาซแอนเทย์ บริษัทผู้ผลิตอาวุธของทางการรัสเซีย ระบุว่า พวกเขาจะส่งเอส-300 รุ่นปรับปรุงซึ่งเป็นหนึ่งในระบบป้องกันภัยทางอากาศที่มีประสิทธิภาพที่สุดของโลกให้กับอิหร่าน ทันทีที่ข้อตกลงการค้าได้รับการบรรลุแล้ว       
       รัฐบาลมอสโคระบุว่า พวกเขายกเลิกสัญญาที่จะส่งเอส-300 ให้กับอิหร่านในปี 2010 เพราะถูกกดดันจากตะวันตก แต่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ยกเลิกข้อห้ามดังกล่าวในเดือนเมษายนที่ผ่านมาหลังจากที่อิหร่านและชาติมหาอำนาจบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับชั่วคราว
       การแถลงของนายฮุเซน เดห์กอน รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม มีขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่ นายมูฮัมหมัด ญะวาด ชารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านเยือนกรุงมอสโก เพื่อหารือเรื่องสงครามกลางเมืองในซีเรีย ซึ่งเตหะราน และมอสโกต่างสนับสนุนประธานาธิบดี บาชัร อัล-อัสซาด แต่ชาติตะวันตกและชาติอาหรับส่วนใหญ่เรียกร้องให้อัสซาดลงจากอำนาจในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพ

นายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล หนึ่งในผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์ระหว่างอิหร่านและชาติมหาอำนาจที่บรรลุเมื่อเดือนที่แล้วมากที่สุด ได้แสดง “ความผิดหวัง” ของอิสราเอลต่อการตัดสินใจของรัสเซียที่จะส่งเอส-300 ให้เตหะราน  และกล่าวว่า เดิมทีอิหร่านมีแผนที่จะเครื่องยิงเอส-300 จำนวน 3 กองพัน แต่ต่อมาได้เพิ่มคำสั่งซื้อเป็น 4 กองพัน