วาซียัตศาสดา(ศ็อลฯ) ตอนที่๔
วาซียัตศาสดา(ศ็อลฯ) ตอนที่๔
๔-จากท่านอิบนุ อับบาสได้กล่าวว่า ”แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้มีบัญชาให้ท่านได้ประกาศตำแหน่งการเป็นผู้นำของท่านอะลี อิบนิ อบีฏอลิบแก่ประชาชาติ แต่ท่านกลัวว่า พวกเขาจะพูดว่า เขา (มุฮัมมัด) ได้มอบตำแหน่งผู้นำแก่ลูกของลุงของเขา และกลัวว่าพวกเขาเหล่านั้นจะติเตียนท่านถึงเรื่องนั้น แต่เมื่อโองการดังกล่าวได้ถูกประทานลงมา ณ ฆ่อดีรคุม ท่านได้จับมือของท่านอะลี อิบนิ อบีฏอลิบชูขึ้น พร้อมกับกล่าวว่า “ใครก็ตามที่ฉันเป็นผู้นำของเขา อะลีก็เป็นผู้นำของเขาด้วย โอ้ พระผู้อภิบาลของฉัน โปรดเป็นมิตรแก่ผู้ที่เป็นมิตรกับเขา และเป็นศัตรูกับผู้ที่เป็นศัตรูต่อเขา[๑๐]
๕-จากอบี ญะอฺฟัร อัลบากิร และท่านอบี อับดิลลาฮฺ ศอดิก (อ.) ได้กล่าวว่า
انّ الله أوحى الى النّبيه ان يستخلف علياً فكان يخاف أن يشق ذ لك على جماعة من اصحابه فأنزل الله هذه الآية تشجيعا له على القيام بما امر الله بأدائه
“แท้จริงพระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ตรัสแก่ศาสนทูตของพระองค์ ให้ทำการแต่งตั้ง อะลี (อ.) เป็นผู้นำ แต่ท่านกลัวว่า จะเป็นการสร้างความไม่พอใจแก่เซาะฮาบะฮฺบางคน ดังนั้นอัลลอฮฺ (ซบ.) จึงได้ประทานโองการนี้ลงมาเพื่อเป็นหลักประกันแก่ท่าน ในการยืนหยัดสิ่งที่พระองค์ได้มีบัญชาให้ปฏิบัติ[๑๑]
๖. จากท่านอะอฺมัช จากท่าน อะฏียะฮฺได้กล่าวว่าโองการนี้ได้ถูกประทานให้กับท่านศาสดา เกี่ยวกับท่านอะลี
يَا أَيُّهَا الرَّسُولُ بَلِّغْ مَا أُنزِلَ إِلَيْكَ مِن رَّبِّكَ
“โอ้ เราะซูล จงประกาศเถิดสิ่งที่ถูกประทานมายังเจ้า จากพระผู้อภิบาลของเจ้า”
และพระองค์ตรัสอีกว่า
الْيَوْمَ أَكْمَلْتُ لَكُمْ دِينَكُمْ وَأَتْمَمْتُ عَلَيْكُمْ نِعْمَتِي وَرَضِيتُ لَكُمُ الإِسْلاَمَ دِينًا
วันนี้ ฉันได้ทำให้ศาสนาของเจ้าสมบูรณ์แล้วสำหรับเจ้า และฉันได้ทำให้ความโปรดปรานของฉันครบบริบูรณ์สำหรับเจ้า และฉันได้เลือกให้อิสลามเป็นศาสนาของเจ้า[๑๒]
๗. จากท่านอิบนุ อับบาส และท่านบัรฺรออฺ บิน อาซิบ ,และมุฮัมมัด บิน อะลี ได้กล่าวว่า โองการดังกล่าวได้ถูกประทานให้แก่ความประเสริฐของท่านอะลี บิน อบีฏอลิบ (อ.) ขณะที่โองการดังกล่าวได้ถูกประทานลงมา ท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ได้จับมือท่านอะลีและกล่าวว่า
من كنت مولاه فعلى مولاه اللهم وال من والاه وعاد من عادا ه
ใครก็ตามที่ฉันเป็นผู้ปกครองเขา ฉะนั้น อะลีก็เป็นผู้ปกครองเขาด้วย โอ้ อัลลอฮฺ โปรดเป็นมิตรกับผู้ที่เป็นมิตรกับเขา และเป็นศัตรูกับผู้ที่เป็นศัตรูกับเขา
หลังนั้นท่านอุมัร อิบนิ คัฏฏอบได้เดินเข้ามาหาท่านอะลี พร้อมกับกล่าวว่า
هنيئا لك يابن ابى طالب اصبحت مولاى ومولى كل مؤمن ومؤمنة
ขอแสดงความยินดีแก่ท่าน โอ้ บุตรของอบีฏอลิบ ท่านได้กลายผู้ปกครองฉัน และผู้ปกครองบรรดาศรัทธาชนชายและหญิงแล้ว[๑๓]
ดังนั้น ไม่เป็นข้อสงสัยเลยว่า หากเราต้องการเข้าใจโองการและคำอธิบายที่ท่องแท้ของมัน เราต้องรู้จักเวลาและสถานที่ลงโองการเสียก่อน เพราะถ้าหากโองการได้ถูกประทานลงมาในช่วงแรกของการแต่งตั้งท่านศาสดา (ซ็อล ฯ) ความหมายของโองการจะถูกอธิบายไปอีกรูปแบบหนึ่ง แต่ถ้าโองการได้ถูกประทานลงมาในช่วงบั้นปลายสุดท้ายแห่งชีวิตอันจำเริญของท่านศาสดา แน่นอนโองการก็จะมีความหมายไปอีกรูปแบบหนึ่ง ฉะนั้นการลงอัล-กุรอานในช่วงแรกของการแต่งตั้งกับช่วงสุดท้ายมีความหมายต่างกันอย่างลิบลิ่ว เพราะเหตุนี้เราจึงต้องพิจารณาให้ละเอียด ถึงความหมายของโองการ พระบัญชาที่พระองค์ลงให้กับท่านศาสดาในช่วงท้าย และทรงประสงค์ให้ท่านประกาศนั้น มีความเทียบเทียมกับการเป็นนุบูวัต และการประกาศสาส์นของท่าน ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีฮะดีซรายงานไว้อย่างมากมาย และฮะดีซเหล่านั้นยังได้อธิบายไว้อย่างชัดเจนถึงสาเหตุของการประทานโองการ จุดประสงค์ และมีความสอดคล้องเป็นหนึ่งเดียวกันของโองการกับเวลาและสถานที่ลงโองการ ตรงกันทั้งตัวบท การบ่งชี้ของโองการและมีความสมบูรณ์ปราศจากความขัดแย้ง
[๑๐] มัจมะอุลบะยาน ฟีตัฟซีรุล กรุอาน ตะบัรฺระซี ๓/๓๔๔, ดารุลมะอฺริฟะฮฺ เบรุต พิมพ์ครั้งแรก ค.ศ. ๑๙๙๕, ตัฟซีรฺมินารฺ ๖/๔๖๔
[๑๑] มัจมะอุลบะยาน ๓/๓๔๔
[๑๒] อัลมีซาน ๖/๕๘, อัลฆ่อดีรฺ ๑/๒๑๔, ซึ่งในหนังสือ อัลฆอดีรได้อ้างอิงแหล่งที่มา ๓๐แห่งที่ยืนยันว่าโองการดังกล่าวได้ถูกประทานลงมาที่ฆ่อดีรฺ
[๑๓] ตัฟซีรฺ อัรฺรอซี ๑๑/๒๓๓
แสดงความเห็น