ภาพสุสาน "ญันนะตุลบากิอฺ" ก่อนที่จะถูกทำลาย
ภาพสุสาน "ญันนะตุลบากิอฺ" ก่อนที่จะถูกทำลายโดยน้ำมือโสมมของวะฮาบีย์ซาอุดี้ฯ
ในอดีต ชนชาติที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด
คือชนชาติบนีอิสรออีล ที่เข่นฆ่าบรรดาศาสดานับร้อยนับพันท่าน
ในปัจจุบัน ชนชาติที่เลวทรามต่ำช้าที่สุด
คือชนชาติที่พยายามเข่นฆ่า
และทำลายลูกหลานวงศ์วานท่านศาสนทูตสุดท้าย (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวาอาลิฮฺ)
ทั้งที่มีชีวิตอยู่ และทั้งที่ได้ตายด้วยการถูกทำชะฮาดัตไปแล้ว
นั่นคือการบ่อนทำลายสุสานหรือหะร็อม
สถานที่ฝังร่างอันจำเริญของท่านผู้บริสุทธิ์เหล่านั้น
และชนชาติอัปรีย์ที่ว่านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้
นอกจากพวกอันธพาลมารศาสนาวะฮาบีย์ สะละฟีย์ ตักฟีรีย์ อัปรีย์ชน
ที่เป็นลูกสมุนบริวารทั้งทางสายเลือดและอุดมการณ์มาจากพวกยะฮูดีย์บนีอิสรออีล
ข้าขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ
ให้พ้นจากชัยฏอนวะฮาบีย์สะละฟีย์ตักฟีรีย์ซาอุดี้ที่ถูกสาปแช่ง
أعوذ بالله من الشيطان الوهابي السلفي التكفيري الرجيم
8 Shawal1344 คือ วัน เดือน ปี ที่ "กษัตริย์อับดุลอะซีซ อิบนุสะอูด"
(กล่าวคือประมาณ 240 ปีที่ผ่านมา)
ทรราชอัปรีย์วะฮาบีย์ซาอุดี้ทำลาย "สุสานญันนะตุลบากิอฺ"
หลังจากที่มันได้ยกกองทัพเข้าล้อมนครมักกะฮฺแล้ว
มันได้ยาตราทัพที่เต็มไปด้วยทหารลูกซินาเข้าปิดล้อมนครมะดีนะฮฺ
และหลังจากได้เผชิญหน้าทำศึกสงครามกับชาวเมือง
ในที่สุดกองทัพของมันก็สามารถยึดเมืองมะดีนะฮฺเป็นผลสำเร็จ
และได้อัปเปหิผู้ปกครองจากอุษมานียะฮฺออกจากเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองทันที
หลังจากนั้น มันได้จัดการทำลายกุโบรฺหรือสุสาน "ญันนะตุลบากิอฺ"
อันเป็นสถานที่ฝังร่างอันจำเริญของ
1. ท่านอับดุลลอฮฺ บินอับดิลมุฏเฏาะลิบ
บิดาของท่านศาสดา (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
2. "อิบรอฮีม บินมุหัมมัด เราะสูลิลลาฮฺ"
บุตรชายของท่านศาสนทูตอิสลาม (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
3. ท่านหญิงฟาฏิมะฮฺ หรือ "อุมมุลบะนีน"
ภรรยาของท่านอมีรุลมุอ์มินีน อะลี อิบนุอบีฏอลิบ (อลัยฮิสลาม)
มารดาของท่านอบัลฟัฎล์ อัลอับบาส (อลัยฮิสลาม)
4. ท่านอิมามหะซัน อัลมุจญ์ตะบา (อลัยฮิสลาม)
หลานรักของท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
อิมามท่านที่ 2 แห่งวงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์นบี (อลัยฮิมุสลาม)
5. ท่านอิมามอะลี บินหุซัยน์ ซัยนุลอาบิดีน อัสสัจญาด
อิมามท่านที่ 4 แห่งวงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์นบี (อลัยฮิมุสลาม)
เหลนของท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
6. อิมามมุหัมมัด บินอะลีซัยนุลอาบิดีน อัลบากิรฺ (อลัยฮิสลาม)
โหลนของท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
อิมามท่านที่ 5 แห่งวงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์นบี (อลัยฮิมุสลาม)
7. อิมามญะอฺฟัรฺ อัศศอดิก บินมุหัมมัด อัลบากิรฺ (อลัยฮิสลาม)
ทายาทลำดับที่ 6 ของท่านเราะสูลุลลอฮฺ (ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
อิมามท่านที่ 6 แห่งวงศ์วานอะฮฺลุลบัยต์นบี (อลัยฮิมุสลาม)
8. ท่านอิสมาอีล บุตรของท่านอิมามญะอฺฟัรฺ ศอดิก (อลัยฮิสลาม)
ฯลฯ
มุสลิมผู้ที่มี "อักล์" มีสติสัมปชัญญะ
เค้าจะต้องคิดพิจารณาได้ว่า
ทำไมสุสาน "ญันนะตุลบากิอฺ" ในนครมะดีนะฮฺ มุเนาวะเราะฮฺ
ที่มีทั้งบิดา ทั้งบุตร ทั้งเครือญาติสนิทของท่านศาสดา (ศ)
จึงไม่สามารถที่จะดำรงคงอยู่ได้
แต่ทำไมสุสานของคนที่แทบจะไม่มีส่วนสัมพันธ์กับท่านนบี (ศ)
เช่น สุสานของอิมามมาลิกีย์ อิมามชาฟิอีย์
หรือแม้แต่สุสานของมุอาวิยะฮฺ (ในบางริวายะฮฺ)จึงสามารถดำรงคงอยู่ได้
เมื่อย้อนยุครำลึกไปถึงเมื่อครั้งที่ท่าน Imam Husain Bin Ali
จะนำร่างของท่าน Imam Hasan Al - Mujtaba
หลานรักคนแรกของท่านศาสดา (ศ)
ไปฝังใกล้ ๆ กับสุสานหรือกุโบรฺของท่านตา
(ท่านเราะสูลุลลอฮฺ ศ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะอาลิฮฺ)
แต่ "มัลอูนะฮฺ" ได้บัญชาให้ "มัรฺวาน บินหะกัม" สมุนทรราชคู่ใจ
สั่งให้ไพร่พลยิงดอกธนูสกัดกั้นไม่ให้ท่านอิมามหุซัยน์ (อลัยฮิสลาม)
นำมัยยิตของพี่ชายเข้าไปในมัสญิดุนนบี (ศ) ได้
และจากพฤติกรรมโฉดชั่วนั้น นั่นเองที่ส่งผลให้
พวกอันธพาลที่นิยมลัทธิวะฮาบีย์สะละฟีย์ตักฟีรีย์
ลอกเลียนแบบอย่างมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้
ที่มา Risalah Qomi
แสดงความเห็น