ไอซิสรับก่อเหตุสะเทือนขวัญในตูนิเซีย -คูเวต รวมแล้วตายกว่า 60

กลุ่มไอซิสอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงสุดเหี้ยมที่ชายหาดโรงแรมในตูนิเซีย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 39 ศพ รวมทั้งเหตุระเบิดถล่มมัสยิด นิกายชีอะห์ในคูเวต ดับอนาถ 25 ศพ เจ็บกว่า 200 ราย

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า กลุ่มมุสลิมติดอาวุธนิกายวาฮาบี ‘รัฐอิสลาม’ หรือไอซิส ที่เคลื่อนไหวก่อเหตุรุนแรงในซีเรียและอิรัก ออกโรงอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ มือปืนบุกกราดยิงนักท่องเที่ยวอย่างเหี้ยมโหดบริเวณชายหาดหาดเมืองซูสซ์ เมืองตากอากาศชื่อดัง ในประเทศตูนิเซียเมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา และล่าสุด ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 27 ราย เป็นอย่างน้อย 39ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกประมาณ 36 คน จนถือเป็นเหตุโจมตีครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของตูนิเซีย

ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงครั้งนี้ ที่ชายหาดของโรงแรม อิมพีเรียล มาร์ฮาบา ในเมืองซูสซ์ ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงตูนิสเมืองหลวงไปทางใต้ประมาณ 140 กม.นั้น มีทั้ง ชาวตูนิเซีย แต่ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยกลุ่มไอซิส นอกจากจะออกมาอ้างความรับผิดชอบแล้ว ยังเรียกร้องให้สมาชิกกลุ่มไอซิสยกระดับการโจมตีในเดือนถือศีลอด หรือเดือนรอมฎอนของชาวมุสลิมทั่วโลกด้วย

ขณะเดียวกัน สื่อต่างประเทศได้มีการเผยแพร่ภาพ ชายผู้ก่อการร้ายสวมเสื้อยืดและกางเกงขาสั้นสีดำเดินอยู่กลางถนน ถือปืนกล ซึ่งคาดว่าเป็นปืนกล Kalashnikov ขณะกำลังเดินไปก่อเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวอย่างเลือดเย็น โดยซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างการเปิดเผยของโฆษกกระทรวงมหาดไทยตูนิเซีย คาดว่ากลุ่มมือปืนที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้ มาด้วยกัน 3 คน ซึ่งหนึ่งใน 3 ถูกตำรวจยิงตายไปแล้ว อีกคนโดนจับกุมและอีกคนยังหลบหนีไปได้ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ขณะที่เกิด ‘ฝันร้าย’ ในตูนิเซีย ประเทศในทวีปแอฟริกาทางตอนเหนือ ปรากฏว่า วันเดียวกันนั้น ยังเกิดเหตุก่อการร้ายสะเทือนขวัญในอีก 2 ทวีป รวมเป็น 3 ทวีปเลยทีเดียว เพราะยังได้เกิดเหตุสะเทือนขวัญ ผู้ก่อการร้ายเครือข่ายกลุ่มไอซิสได้บุกฆ่าตัดศีรษะชายคนหนึ่งที่โรงงานแก๊ส ใกล้เมืองลียงในประเทศฝรั่งเศส ในทวีปยุโรป และยังเกิดเหตุวางระเบิดโจมตีมัสยิดอัล-ซอดิก ของชาวมุสลิมนิกายชีอะห์ ในกรุงคูเวตซิตี้ เมืองหลวงของประเทศคูเวต ในทวีปเอเชีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 25 ศพ บาดเจ็บกว่า 200 ราย และต่อมา กลุ่มไอซิสออกมาอ้างความรับผิดชอบอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุโจมตมัสยิดในคูเวตแล้ว  เป็นที่คาดกันว่าการก่ออาชญษกรรมของกลุ่มไอซิสจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากการปลุกระดมคนให้ร่วมก่อเหตุโดยเฉพาะการก่อเหตุในเดือนอันศักดิ์สิทธ์ คือเดือนรอมฎอนนั้นเอง