จอมคนแห่งกัลยาณชน ตอนที่ 1

จอมคนแห่งกัลยาณชน ตอนที่ 1

โดย ฮุจญตุลอิสลามวัลมุสลีมีน ซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี


 

การปฏิวัติอิสลามอันรุ่งโรจน์ในอิหร่านนั้น เป็นมหากาพย์ของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่แห่งยุคสมัย เป็นประวัติศาสตร์ที่มุสลิมและชาวโลกต้องตะลึงงัน บทปุจฉาวิสัชนาแห่งมหากาพย์นี้ต้องจารึกไว้เป็นบทเรียนอันล้ำค่าต่อการเปลี่ยนแปลงไปสู่ความสำเร็จ ตามหลักการอิสลามอันบริสุทธิ์

องค์ประกอบที่ทำให้การปฏิวัติครั้งนั้นประสพผลสำเร็จได้ คือ การเสียสละของประชาชนชาวอิหร่าน ในส่วนของผู้นำท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) นั้น คงจะไม่ต้องพูดถึงความยิ่งใหญ่อันใดเพิ่มเติมอีก อุดมการณ์ก็สูงส่งจนไม่มีสิ่งใดที่จะวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ เพิ่มเติมอีก

ทั้งสามองค์ประกอบที่ว่าคือ

ประการแรก การเสียสละของประชาชาติ

ประการที่สอง บุคลิกอันโดดเด่นสูงส่งของผู้นำ

ประการที่สาม อุดมการณ์อันสูงส่งแน่วแน่

เมื่อทั้งสามองค์ประกอบดังว่านี้สอดคล้องกันเมื่อไหร่ การปฏิวัติเพื่อความเปลี่ยนแปลงจึงบังเกิดผล!!!

สังคมอิสลามเคยมีอิมามที่ยิ่งใหญ่กว่าอิมามโคมัยนี (รฎ) แต่การปฏิวัติไม่ได้บังเกิดขึ้น เช่น ยุคสมัยแห่งท่านอิมามฮูเซน (อ.) อิมามริฎอ (อ.) อิมามญะอฺฟัร (อ.) ท่านเหล่านี้ยิ่งใหญ่สูงส่งกว่าท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) เสียอีก แต่ท่านอิมามเหล่านี้ก็ไม่สามารถปฏิวัติเพื่อสถาปนารัฐอิสลามขึ้นมาได้

เหตุผลที่สำคัญ เพราะขาดองค์ประกอบไปข้อหนึ่งนั่นคือ ความไม่พร้อมที่จะเสียสละของประชาชาติ

ผู้นำและผู้ตามจะต้องมีความพร้อมกันทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าหากว่าฝ่ายหนึ่งพร้อมอีกฝ่ายหนึ่งไม่พร้อม การปฏิวัติไปสู่ความสำเร็จก็บังเกิดขึ้นไม่ได้ ถึงจะมีรอซูลที่เป็นรอซูลอุลุลอัศมี ศาสดาเหล่านั้นก็ไม่สามารถนำมนุษย์ไปสู่หลักชัยตามปรารถนาได้ เพราะประชาชาติแห่งยุคสมัยไม่มีคุณภาพที่เพียงพอ

การปฏิวัติอิสลามประสพผลสำเร็จ ด้วยการเสียสละของประชาชาติอิหร่าน

การปฏิวัติอิสลามอันรุ่งโรจน์ในอิหร่าน เมื่อใกล้ถึงจุดแตกหักและใกล้สู่ชัยชนะในหกเดือนสุดท้ายของรัฐบาลชาห์ ปาห์เลวี ได้ตัดสินใจร่วมกับรัฐบาลอิรักให้เนรเทศอิมามโคมัยนี (รฎ) ออกจากประเทศ

อิมามโคมัยนี (รฎ) ตัดสินใจที่จะเดินทางเข้าสู่คูเวต แต่คูเวตไม่อนุญาต และไม่มีประเทศไหนอนุญาตให้อิมามโคมัยนี (รฎ) ลี้ภัยการเมืองเข้าประเทศ

จนสุดท้ายท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) ได้ตัดสินใจลี้ภัยการเมืองไปประเทศฝรั่งเศสแต่ก็ถูกปฏิเสธอีก เพื่อต้องการที่จะกดดันปฏิวัติไม่ให้ประสพความสำเร็จ

จนมีคหบดีชาวอิหร่านคนหนึ่ง ที่ทำธุรกิจบริษัทรถยนต์ในประเทศฝรั่งเศส ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือการปฏิวัติอิสลามอันรุ่งโรจน์ในอิหร่านนี้จึงเป็นหนี้บุญคุณบริษัทรถยนต์เปอโยต์ไปโดยปริยาย เพราะคหบดีท่านนี้บอกว่าถ้าประเทศฝรั่งเศสไม่อนุญาตให้ท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) ลี้ภัยทางการเมือง ตนก็จะถอนหุ้นในบริษัทเปอโยต์ทั้งหมด !!!!!

แน่นอน !!!! ย่อมมีผลกระทบต่อสถานภาพของบริษัทอย่างใหญ่หลวง บริษัทรถยนต์เปอโยต์เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส การที่จะยอมให้บริษัทประสบวิกฤติทางการเงินอย่างร้ายแรงย่อมมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ จึงจำยอมต้องอนุญาตให้อิมามโคมัยนี (รฎ) พำนักที่ชานกรุงปารีส

เมื่อท่านอิมามโคมัยนี (รฎ) พำนักอยู่ในฝรั่งเศสได้ไม่นาน ก็มีคหบดีอีกคนหนึ่งได้บริจาคบ้านหลังหนึ่งของตนใช้เป็นที่พักและกองบัญชาการปฏิวัติที่นั่น อยู่ที่ถนน "ชาโต้' ชานกรุงปารีส

ชื่อถนน "ชาโต้" จึงเป็นประวัติศาสตร์อีกชื่อหนึ่ง ที่ต้องจารึกไว้ร่วมกับความสำเร็จในการปฏิวัตินั้น !!!!

แรงกดดันอันยิ่งใหญ่นำไปสู่การปฏิวัติอันยิ่งใหญ่ คือ คุณภาพของประชาชาติอิหร่านโดยรวม กดดันถึงทำให้ชาห์ ปาห์ลาวี ต้องออกจากอิหร่าน เมื่อผู้นำแห่งทรราชจำยอมหนีออกนอกประเทศ ผู้นำการปฏิวัติก็ต้องกลับสู่ประเทศเพื่อชี้นำประชาชน

แต่ก่อนที่ ชาห์ ปาห์ลาวี จากไป ได้จัดตั้งรัฐบาลหุ่นวางยาเอาไว้ในอิหร่านด้วย โดย ชาห์ปูร์ บัคเตียร์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลหุ่น ส่วนจอมเผด็จการ ชาห์ ปาห์ลาวี ได้หลบหนีไปตั้งหลักเพื่อที่จะวางแผนการร้ายเหมือนกับบรรดาฏอฆูตในโลกอาหรับทั้งหลาย

(โปรดติดตามตอนที่ 2 )

 ที่มา : มหา”ลัย” คมความคิด

แสดงความเห็น