กลุ่มกบฏในซีเรียยึดจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจากกองทัพรัฐบาลได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน อ้างการเปิดเผยของกลุ่มสังเกตการณ์สิทธิมนุษยชนในซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) ว่า กลุ่มติดอาวุธ อาห์ราร์ อัล-ชาม และ อัล-นุสรอ สามารถยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดอิดลิบได้แล้วเมื่อวันเสาร์ (28 มี.ค.) หลังจากต่อสู้ดุเดือดติดต่อกัน 4 วัน โดยอิดลิบนับเป็นจังหวัดที่ 2 ที่รัฐบาลซีเรียเสียให้กับฝ่ายกบฏ ต่อจากจังหวัดรักกะ ซึ่งถูกกลุ่มติดอาวุธ รัฐอิสลาม (ไอซิส) ยึดครองเมื่อปี 2013

กลุ่มอาห์ราร์ อัล-ชาม และอัล-นุสรอ ฟรอนต์ โพสต์ภาพนักรบกำลังแสดงความยินดีในจังหวัดอิดลิบลงบนโลกออนไลน์ เพื่อยืนยันว่าพวกเขายึดพื้นที่แห่งนี้ได้แล้วจริงๆ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลซีเรียยังไม่ออกมายืนยันเรื่องการเสียเมืองในครั้งนี้ แต่ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวบีบีซีกล่าวว่า การเสียเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่ถึง 1 แสนคนอย่างจังหวัดอิดลิบ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด

จังหวัดอิดลิบกลายเป็นพื้นที่ปะทะระหว่างกองทัพรัฐบาลซีเรียและกองกำลังกบฏมานานหลายเดือน โดยอิตลิบตั้งอยู่ใกล้เส้นทางหลวงสำคัญที่เชื่อมโยงเมืองหลวงกรุงดามัสกัส เข้ากับจังหวัดอเลปโป เมืองหลวงด้านการพาณิชย์ นอกจากนี้ยังใกล้กับจังหวัด ลาตาเกีย ฐานที่มั่นของประธานาธิบดีอัสซาดบริเวณชายฝั่งทางตะวันตก

อนึ่ง สงครามกลางเมืองในประเทศซีเรียเริ่มขึ้นเมื่อราว 4 ปีก่อน ทำให้มีชาวซีเรียเสียชีวิตแล้วมากกว่า 2 แสนราย และต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นอีกกว่า 11 ล้านคน โดยเมื่อวันเสาร์ บัน คี มูน เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติกล่าวในที่ประชุมสันนิบาตอาหรับในประเทศอียิปต์ว่า เขารู้สึกโกรธและอับอายที่ล้มเหลวในการหยุดยั้งสงครามกลางเมืองซีเรีย และให้คำมั่นว่าจะยกระดับความพยายามทางการทูตเพื่อยุติการต่อสู้ให้จงได้