ปาเลสไตน์ยื่นคำร้องขอยูเอ็นรับรองสถานะรัฐ


ปาเลสไตน์ยื่นคำร้องขอยูเอ็นรับรองสถานะรัฐ

รัฐบาลปาเลสไตน์เสนอร่างมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ขอรับการพิจารณาและอนุมัติสถานะรัฐ แม้มีความเป็นไปได้สูงว่า สหรัฐซึ่งเป็นสมาชิกถาวรจะใช้สิทธิ์คัดค้านเพื่อคว่ำร่างมตินี้ก็ตาม

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. ว่านางดินา คาวาร์ เอกอัครราชทูตจอร์แดนประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) แถลงเรื่องการยื่นร่างมติต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นเอสซี ) ในนามรัฐบาลปาเลสไตน์ ว่าด้วยการขอรับพิจารณาและอนุมัติสถานะเป็นรัฐ เธอยืนยันด้วยว่า เอกสารฉบับดังกล่าวได้รับความสนับสนุนจากประเทศในกลุ่มอาหรับ 22 ประเทศ และจอร์แดนจะรับหน้าที่เป็นตัวแทนในการติดตามความคืบหน้าและการหารือเรื่องกำหนดการลงมติต่อไป

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. จอร์แดนยื่นเอกสารต่อยูเอ็นเอสซีในนามรัฐบาลปาเลสไตน์มาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเป็นร่างแผนยุทธศาสตร์สร้างสันติภาพในภูมิภาคร่วมกับอิสราเอล ภายในกรอบระยะเวลา 12 เดือน และให้กรุงเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงร่วมระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ อย่างไรก็ตาม สหรัฐซึ่งเป็นพันธมิตรของอิสราเอล และมีสถานะเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของยูเอ็นเอสซี ออกมาคัดค้านด้วยความรวดเร็ว ทำให้ร่างแผนสันติภาพของปาเลสไตน์ยังไม่ได้รับการพิจารณาอย่างเป็นทางการ แต่ทางการจอร์แดนเผยว่า รวมประเด็นนี้เข้าไปในร่างมติฉบับใหม่อีกครั้งแล้ว

ขณะที่ร่างมติฉบับล่าสุดนี้จำเป็นต้องได้รับเสียงเห็นชอบจากที่ประชุมยูเอ็นเอสซีอย่างน้อย 9 จาก 15 เสียง แต่หากมีการคัดค้าน ( วีโต้ ) จากสมาชิกถาวร 5 ประเทศ ได้แก่สหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย และจีน แม้เพียงเสียงเดียวถือว่าร่างมตินั้นต้องเป็นอันตกไป ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่า วอชิงตันน่าจะใช้สิทธิ์นั้น

ทั้งนี้ ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ( ยูเอ็นจีเอ ) มีมติเสียงข้างมากเมื่อปี 2555 ยกระดับสถานะของปาเลสไตน์ให้ขึ้นมาเป็น "รัฐผู้สังเกตการณ์" เทียบเท่านครรัฐวาติกัน ตามคำร้องของประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ผู้นำปาเลสไตน์ สร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับสหรัฐและอิสราเอล

 

แสดงความเห็น