แผนลับของอเมริกาที่จะแยกอิรักออกเป็น 3 ประเทศ
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศรายงาน
ตามการรายงานสำนักข่าวมัชริกนิวส์ : ในรายงานหนึ่งของ Global Research ที่เขียนโดย Prof Michel Chossudovsky ได้กล่าวถึงแผนการต่างๆ ของอเมริกาที่จะแบ่งซอยตะวันออกกลาง
Prof Michel Chossudovsky อาจารย์ด้านเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัยออตตาวา และนักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับปัญหาทางการเมืองและต่างประเทศ จากบทวิเคราะห์ในเว็บไซต์ Global Research เขาได้เขียนเกี่ยวกับเป้าหมายของอเมริกาในการให้การสนับสนุนโดยทางอ้อมแก่กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ในอิรัก โดยกล่าวว่า : ในอิรักนั้นอเมริกามีเป้าหมายระยะยาวอยู่ในหัวที่สำคัญกว่าการสร้างความอ่อนแอหรือการล้มล้างรัฐบาลของนายนูรี อัลมาลิกี และนั่นก็คือการแบ่งย่อยประเทศนี้ออกเป็นสามรัฐปกครองที่เป็นอิสระ
Prof Michel Chossudovsky เชื่อว่า ตรงข้ามกับสิ่งที่สื่อตะวันตกกำลังพยายามที่จะแสดงให้เห็นว่า สถานการณ์ในอิรักนั้นเป็นสงครามกลางเมืองหรือความขัดแย้งระหว่างชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์และชาวชีอะฮ์ แต่ในความเป็นจริงแล้วอเมริกาต่างหากที่เป็นผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังสถานการณ์ความไม่สงบของอิรัก
เขาได้ชี้ถึงอดีตของการเป็นสมุนรับจ้างของกลุ่มอัลกออิดะฮ์และกลุ่มต่างๆ ในเครือ สำหรับอเมริกาและนาโต นับตั้งแต่ช่วงสมัยการยึดครองอัฟกานิสถานโดยสหภาพโซเวียต จวบจนถึงสงครามกับซีเรียในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พร้อมกับเขียนว่า : กลุ่มก่อการร้ายต่างๆ อย่างเช่น กลุ่ม “อัลกออิดะฮ์” และ “ญับฮะตุนนุศเราะฮ์” และกลุ่มอื่นๆ คือทหารราบที่ปฏิบัติการทางทหารให้แก่พวกตะวันตก
Prof Michel Chossudovsky ได้เขียนต่อไปอีกว่า : การจัดตั้งกลุ่มก่อการร้ายที่ปฏิบัติการอยู่ในอิรักและซีเรีย คือส่วนหนึ่งจากแผนการด้านความมั่นคงของอเมริกา ซึ่งตามแผนการนี้อิรักและซีเรียจะถูกเปลี่ยนเป็น 3 รัฐปกครองที่เป็นอิสระคือ
1) รัฐปกครองระบอบกาหลิบ (ค่อลีฟะฮ์) ของมุสลิมชาวอะฮ์ลิซซุนนะฮ์
2) สาธารณรัฐของชีอะฮ์ชาวอาหรับ
3) สาธารณรัฐของชาวเคิร์ก
Prof Michel Chossudovsky ได้เขียนว่า : ในประเด็นเกี่ยวกับยุทโธปกรณ์ต่างๆ ของกองทัพอากาศอิรักนั้น โดยส่วนใหญ่ประกอบจากเครื่องบินรบต่างๆ ของอเมริกา ดังนั้นอเมริกาจึงมีความรู้ที่ครอบคลุมถึงพลังอำนาจทางอากาศของรัฐบาลอิรัก บนพื้นฐานดังกล่าวนี้เองที่อเมริกาจะคอยให้ความช่วยเหลือทางด้านข้อมูลข่าวกรองแก่กลุ่มดาอิช (ISIS) อย่างลับๆ ในการเผชิญหน้ากับการโจมตีทางอากาศของรัฐบาลอิรัก กล่าวอีกสำนวนหนึ่งก็คือ อเมริกากำลังออกแบบสงครามกลางเมืองในอิรัก ในลักษณะของการบริหารจัดการกับทั้งสองฝ่ายโดยทางอ้อม
อเมริกาพยายามที่จะติดอาวุธสงครามที่ทันสมัยให้แก่ทั้งสองฝ่ายที่เป็นคู่ขัดแย้งกัน เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายทำสงครามกัน และทำให้สงครามกลางเมืองที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่วอชิงตันต้องการ
อเมริกามีบทบาทสำคัญในการจัดหากองกำลัง การฝึกอบรมและการระดมเงินทุนสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS) และแม้แต่กองกำลังพิเศษต่างๆ ของตะวันตกเองก็ปรากฏตัวอยู่ในระดับเบื้องบนของกลุ่มดาอิช (ISIS)
ตามข้อเขียนของ “เดลี่เมล์” ซึ่งตีพิมพ์ในลอนดอนกล่าวว่า : ความช่วยเหลือต่างๆ ทางการเงินและยุทโธปกรณ์ของอเมริกาและนาโต จะถูกส่งไปให้กลุ่มดาอิช (ISIS) โดยผ่านกาตาร์และซาอุดีอาระเบีย
เป้าหมายของอเมริกาจากการสร้างสงครามกลางเมือง คือการทำลายโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของอิรัก เพื่อจะได้สามารถบรรลุสู่เป้าหมายหลัก ซึ่งนั่นก็คือ การแบ่งซอยประเทศนี้
อเมริกามีความพยายามที่จะเบี่ยงเบนความคิดเห็นของประชาชนชาวอิรักไปสู่ทิศทางที่ทำให้พวกเขาเชื่อว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศขณะนี้ เป็นสงครามระหว่างชาวซุนนีกับชีอะฮ์ แทนที่พวกเขาจะคิดว่าเกิดจากอเมริกาผู้ทำการยึดครอง พวกเขาจะได้คิดว่า เป็นเพราะบรรดากลุ่มที่แสวงหาอำนาจภายในประเทศที่เป็นผู้กระหายเลือดยิ่งกว่า โดยวิธีการดังกล่าวนี้เองที่อเมริกาผู้ยึดครองจะสามารถเล่นบทบาทของเทวดาผู้พิทักษ์อิรักได้อย่างแนบเนียน
กลยุทธ์นี้ของอเมริกาเคยถูกใช้มาแล้วในอดีต อเมริกาในรูปโฉมของการทำสงครามกับลัทธิการก่อการร้าย ในด้านหนึ่งได้สร้างกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ขึ้นมา อย่างเช่นกลุ่มอัลกออิดะฮ์ และในอีกด้านหนึ่งในรูปลักษณ์ภายนอก ทำทีว่าเป็นผู้ช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่ตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีของกลุ่มอัลกออิดะฮ์ให้ได้รับความปลอดภัย กลยุทธ์เหล่านี้จะถูกใช้เป็นเหตุผลและข้ออ้างของอเมริกาในการเข้ามาแทรกแซงในประเทศต่างๆ
อเมริกาจะใช้ประโยชน์จากกลุ่มดาอิช (ISIS) เป็นเครื่องมือในการดำเนินแผนการจัดตั้งประเทศอิสลามที่เป็นซุนนีขึ้น
การสนับสนุนโดยทางลับอย่างต่อเนื่องแก่กลุ่มดาอิช (ISIS) และการแสดงการต่อต้านทางภายนอกต่อกลุ่มเหล่านี้ ยังจะทำให้อเมริกาบรรลุสู่เป้าหมายอื่นๆ อีกด้วย ซึ่งนั่นก็คือ การสร้างความอ่อนแอต่อประเทศและขบวนการต้านทาน (มุกอวะมะฮ์)
การจัดตั้งรัฐปกครองอิสลามแบบกาหลิบ (ค่อลีฟะฮ์) ได้รับการสนับสนุนอย่างลับๆ โดยหน่วยสืบราชการลับของอเมริกา (ซีไอเอ) และหน่วยงานด้านความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ ตุรกีและอิสราเอล
Cr.islamicstudiesth
แสดงความเห็น