สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงาน

ตามการรายงานสำนักข่าวอิคนาออนไลน์  :

 เชคคอลิด อัลมุลลากล่าวว่า กลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ (ISIS. ISIL) คือมะเร็งร้ายของโลกอิสลาม ขอเตือนให้ทุกคนห่างไกลจากมัน พวกเขากล่าวแอบอ้างตนเองว่าเป็นมุสลิมสุนนี่ โดยมีเป้าหมายสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชาติมุสลิม บางกลุ่มกล่าวว่าเป็นกลุ่มขบวนการที่ถูกสร้างขึ้นโดยซาอุดิอาระเบีย บางกลุ่มกล่าวว่าถูกสร้างโดยยิวไซออนิสต์”

สำนักข่าว Quran News Agency รายงาน เมื่อวันอาทิตย์ 15/6/57 เชคคอลิด อัลมุลลา ประธานสมาพันธ์นักการศาสนามุสลิมสุนนี่อิรัก ได้เรียกร้องให้มีการประกาศคำสั่งทางศาสนา (ฟัตวา) “การเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ ISIS. ISIL เป็นสิ่งต้องห้ามในศาสนา” ในอิรัก โดยได้กล่าวว่า “บรรดาลูกหลานชาวอิรักทุกคนต่างขานรับคำประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ของอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดซิซตานี ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะฮ์ในอิรัก โดยขณะนี้มีผู้อาสาสมัครเข้าร่วมต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลอิรักจากพื้นที่ต่างๆ ทั่วกรุงแบกแดดแล้ว”

เชคคอลิด อัลมุลลา ประธานสมาพันธ์นักการศาสนามุสลิมสุนนี่อิรักได้กล่าวอีกว่า “การมีคำสั่งทางศาสนาประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ของอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดซิซตานี ผู้นำมุสลิมนิกายชีอะฮ์อิรักให้ประชาชาติอิรักลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS. ISIL) ในครั้งนี้ เป็นการประกาศที่ทันต่อเหตุการณ์อย่างทันท่วงที ซึ่งทำให้ประชาชาติอิรักได้เห็นภัยอันตรายอันใหญ่หลวงที่กำลังย่างกรายเข้ามาหาพวกเรา

เชคคอลิด อัลมุลลา ได้กล่าวอีกว่า “กลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ (ISIS. ISIL) คือมะเร็งร้ายของโลกอิสลาม ขอเตือนให้ทุกคนห่างไกลจากมัน พวกเขากล่าวแอบอ้างตนเองว่าเป็นมุสลิมสุนนี่ โดยมีเป้าหมายสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชาติมุสลิม บางกลุ่มกล่าวว่าเป็นกลุ่มขบวนการที่ถูกสร้างขึ้นโดยซาอุดิอาระเบีย บางกลุ่มกล่าวว่าถูกสร้างโดยยิวไซออนิสต์”

เชคคอลิด อัลมุลลา ได้กล่าวอีกว่า “กลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ (ISIS. ISIL) ไมว่าจะปรากฏกาย ณ แห่งหนใดในโลกนี้ ก็จะเป็นภัยคุกคามที่อันตรายยิ่ง โดยเฉพาะในประเทศอิรักเวลานี้ นอกจากมุสลิมชีอะฮ์แล้ว มุสลิมสุนนี่ก็เป็นอันตรายมากด้วย เนื่องจากเขากำลังอ้างตนเป็นมุสลิมสุนนี่ ประชาชนชาวอิรักต้องร่วมมือกันตัดเนื้อร้ายนี้ออกจากแผ่นดินอิรัก รวมถึงกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ที่เป็นแนวร่วมของดาอิช”

เชคคอลิด อัลมุลลา ได้กล่าวอีกว่า “ล่าสุด “ดารุ้ลอิฟตาอ์แห่งอียิปต์” ได้มีคำสั่งทางศาสนา (ฟัตวา) สั่งห้ามการเข้าร่วม หรือมีส่วนร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายดาอิช (ISIS. ISIL) แล้ว”

ทางด้านนายกรัฐมนตรีนูรี มาลิกี ได้ออกมาเรียกร้องไปยังประชาชนชาวอิรักว่า “อย่าได้ตกเป็นเหยื่อของผู้ไม่หวังดี ที่มีความพยายามนำปัญหาความขัดแย้งระหว่างสุนนี่-ชีอะฮ์มาจุดประเด็น เพื่อต้องการให้ชาวมุสลิมสุนนี่เห็นว่านี่เป็นสงครามระหว่างสุนนี่และชีอะฮ์ พวกเราทุกคนคือลูกหลานของแผ่นดินนี้ เรามีศาสนาเดียวกัน มีเป้าหมายเดียวกัน และชัยชนะของพวกเราทุกคนคือชัยชนะของแผ่นดินอิรัก”

ทางด้านรองนายกรัฐมนตรีอิรักได้กล่าวว่า “ขณะนี้มีการโฆษณาชวนเชื่อและบิดเบือนว่า การออกคำสั่งทางศาสนาของอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดซิซตานี ผู้นำมุสลิมชีอะฮ์ในอิรักล่าสุดให้ลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธดาอิช (ISIS. ISIL) นั้น คือการมีคำสั่งทางศาสนาให้เข่นฆ่าสังหารมุสลิมสุนนี่อิรัก ขออย่าให้ชาวอิรักหลงเชื่อการโฆษณาชวนเชื่อเหล่านั้นอย่างเด็ดขาด”

นายอาเดล อัลมะฮ์ดี อดีตรองนายกรัฐมนตรีอิรักได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “คำสั่งทางศาสนาของท่านอายะตุลลอฮ์ ซัยยิดซิซตานี ผู้นำมุสลิมชีอะฮ์ในอิรัก ให้ประชาชาชนชาวอิรักทุกศาสนา นิกาย ร่วมกันต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธดาอิช (ISIS. ISIL) เป็นคุณประโยชน์อย่างใหญ่หลวงสำหรับแผ่นดินอิรัก สำหรับมวลมุสลิมชาวอิรัก แม้กระทั่งชาวคริสเตียน ชาวอาหรับ ชาวเคิร์ด และชาวเติร์กในอิรักทั้งหมด”

นายอาเดล อัลมะฮ์ดี ได้กล่าวอีกว่า “กลุ่มติดอาวุธดาอิช หรือ (ISIS. ISIL) คือกลุ่มขบวนการก่อการร้ายที่เต็มไปด้วยภัยอันตรายยิ่ง ถ้าหากประชาชาติอิรักนิ่งนอนใจไม่ร่วมมือกันต่อสู้ทำลาย พวกมันจะทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มวลประชาชาติอิรักทั้งหมดไม่มีเหลือ”

ที่มา www.immjournal.com