สนทนาวิชาการระหว่างอิมามมฺุฮัมมัด อัลญะวาดกับยะฮ์ยา บินอักซัม
จากหลักฐานที่มีรายงานมาทั้ง ฮะดีษ และบันทึกประวัติศาสตร์ คอลีฟะฮ์ จากตระกูล
บนีอับบาส ( ราชวงศ์ อับบาซียะฮ์ ) นั้นได้ทำการทารุณกรรม กดขี่ขมเหง และสังหาร อะฮ์ลุลบัยต์ วงศ์วานของท่านศาสดาผู้บริสุทธิ์มากมายกว่าราชวงศ์บนีอุมัยยะฮ์ เสียอีก
บนีอุมัยยะฮ์ นั้นได้ใช้กำลังอาวุธและความรุนแรงป่าเถื่อนสร้างความชอบธรรมในการปกครองให้กับตนเอง จึงทำให้
ทุกคนนั้นเห็นเด่นชัดในอันตรายของพวกนี้ แต่ทว่าพวก บนีอับบาส นั้นใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงเป็นตัวนำ โดยใช้นโยบาย “ใบมีดอาบน้ำผึ้ง ” ขจัดฝ่ายตรงข้าม ดังนั้น ความรู้สึกและในสายตาประชาชนจึงเห็นว่าพวกนี้เป็นอันตรายไม่มากนัก
หนึ่งในนั้นก็คือ คอลีฟะฮ์ อัลมะอฺมูน จาก บนีอับบาส ซึ่งเป็นผู้ที่ได้สังหาร ท่านอิมาม อลี อัลริฏอ (อ.) - อิมามที่ 8 ด้วยการวางยาพิษ และหลังจากนั้นก็ได้วางแผนชั่วร้ายด้วยการอภิเษกสมรส อุมมุล ฟัฏล์ ลูกสาวของตนให้กับท่าน อิมาม มุฮัมมัด อัลญะวาด(ฮ) - อิมามที่เก้า บุตรของท่านอิมาม ริฏอ (อ.) แต่อีกด้านหนึ่งก็พยายามที่จะทำลายภาพลักษณ์ของท่านอิมาม ญะวาด (อ.) ตลอดเวลา ซึ่งในแต่ละครั้งผลลัพธ์ของมันก็กลับตาลปัตรทุกครั้ง
ครั้งหนึ่ง คอลีฟะฮ์ มะอฺมูน ต้องการที่จะทำลายความเชื่อมั่นของเหล่า ชีอะฮ์ ในตัวของท่านอิมาม ญะวาด(อ.) ซึ่ง
ในขณะนั้นท่านอิมามมีอายุได้เพียง 9 ขวบเท่านั้น และถือเป็นเริ่มต้นยุคของการมีอิมามที่เป็นเด็ก ด้วยเหตุนี้ จึงได้จัดให้มีการถกประลองความรู้ในเรื่องศาสนาขึ้น และได้เชิญเหล่า อาลิมอุลามาอ์ ผู้รู้ จากทุกสารทิศมาในงานนี้อย่างมากมาย หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือ กอฏี ยะฮ์ยา บินอักษัม ผู้คงแก่เรียน ซึ่งได้ถูกเตรียมไว้สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ
หลังจากที่ทุกคนมาพร้อมกันแล้ว กอฏี ยะฮ์ยา บินอักษัม กล่าวกับ คอลีฟะฮ์ อัลมะอฺมูน ว่า : -
“โอ้ อะมีรุลมุอฺมินีน อนุญาตให้ถาม อะบูญะอฺฟัร มุฮัมมัด ญะวาดหรือไม่”
คอลิฟะฮ์ อัลมะอฺมูน กล่าวว่า : “เจ้าจงขออนุญาตจากตัวเขาเอง”
ยะฮ์ยา บิน อักษัม จึงหันไปทางท่านอิมามแล้วถามว่า :
“อนุญาตให้ฉันถามได้หรือไม่”
ท่านอิมาม ญะวาด (อ.) กล่าวว่า : “จงถามมาในสิ่งที่ท่านอยากถาม”
กอฏี ยะฮ์ยา จึงถามว่า : “ฮุกุ่มของผู้ที่อยู่ใน เอี๊ยะฮ์รอม (ใส่ชุดสำหรับทำฮัจญ์) แล้วได้ทำการล่าสัตว์นั้นเป็นเช่นไร?”
ท่านอิมาม ญะวาด (อ.) : “ท่านหมายถึงกรณีไหนรึ? เช่น :-
1. เขาได้ทำการล่าในเขต หรือนอกเขตของ ฮะรัม
2. ผู้ล่าเป็น อาลิมหรือ ญาฮิล
3. ผู้ล่าทำลงไปด้วยความ จงใจ หรือ ความเผอเรอ
4. ผู้ล่า บาลิฆหรือไม่
5. เป็นการกระทำ ครั้งแรก หรือ ทำหลายครั้ง แล้วในเขตฮะรัม
6. สัตว์ที่ล่านั้นเป็น สัตว์เล็ก หรือ สัตว์ใหญ่
7. เป็นสัตว์ปีก หรือ สัตว์สี่เท้า
8. ล่าตอน กลางวัน หรือ กลางคืน
9.อยู่ใน เอี๊ยะฮ์รอม ของ ฮัจญ์ หรือ อุมเราะฮ์
10. หลังจาก กระทำแล้วเสียใจ ในสิ่งที่ทำ หรือไม่? ”
จากคำถามข้อปลีกย่อยรายละเอียดที่ท่านอิมามญะวาด (อ.) ถามกลับทำให้ ยะฮ์ยา บินอักษัม ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตกตอบไม่ถูกว่าจะเป็นกรณีไหนดี เขานึกไม่ถึงว่าท่านอิมาม (อ.) จะช่ำชองในข้อปลีกย่อยของปัญหาอย่างมากมายเช่นนี้
ซึ่งในบางรายงานนั้นมีมาว่าท่านอิมาม ญะวาด(อ) ได้ถามกลับไปในข้อปลีกย่อยถึง 40กรณีด้วยกัน ว่าหมายถึง อันไหนกันแน่!! และหลังจากนั้นท่านอิมาม (อ.) ก็ได้อธิบายอย่างละเอียดให้ อิบนุ อักษัม ในทุกกรณี
มะอฺมูน จึงได้กล่าวว่า : “โอ้ บุตรของศาสดาคราวนี้ท่านถามเขาบ้าง”
ท่านอิมาม ญะวาด (อ.) ถามว่า : “ท่านรู้หรือไม่ผู้หญิงคนนี้คือใคร??”
“ ตอนเช้า ชายคนหนึ่งได้มองไปยังหญิงสาวคนหนึ่งทว่าการมองของเขาเป็น ฮะรอม ”
“ พอสาย หน่อยหญิงสาวคนนั้นก็ ฮะลาล สำหรับเขา”
“ แต่พอ ตอนเที่ยง หญิงสาวคนนั้นก็ ฮะรอม อีก และพอ บ่ายคล้อย ก็ ฮะลาล ”
“ ยาม อาทิตย์ตกดิน ก็กลับไป ฮะรอม สำหรับเขาอีก”
“ พอดึกหน่อยก็ ฮะลาล ”
“ถึง เที่ยงคืน ก็ ฮะรอม อีกสำหรับเขา”
“ แต่พอเข้าเวลานมาซ ซุบฮ์ ก็กลับ ฮะลาล เหมือนเดิม ”
อิบนุ อักษัม ตอบว่า : “ขอสาบานต่อพระผู้ทรงเป็นเอกะ ทั้งคำตอบและสาเหตุของมันนั้นข้าฯไมรู้ แต่ถ้าหากเป็นไปได้ขอให้ท่านได้อธิบายพวกเราด้วย”
ท่านอิมาม ญะวาด (อ.) จึงได้อธิบายให้พวกเขาฟังว่า : -
“หญิงสาวคนนั้น คือ ทาสของชายคนหนึ่ง การมองเธอจึง ฮะรอม สำหรับชายอื่น”
“แต่พอตอนสายชายคนนั้นก็ได้ซื้อเธอมา จึงทำให้เธอ ฮะลาล สำหรับเขา”
“พอเที่ยงเขาก็ได้ปล่อยทาสหญิงคนนั้นให้เป็นอิสระ เธอจึง ฮะรอม สำหรับเขา”
“ในตอนบ่ายเขาก็ได้ขอเธอแต่งงาน เธอจึง ฮะลาล อีกครั้งสำหรับเขา”
“แต่พอพระอาทิตย์ตกดินเขาได้ทำการ “ซิฮาร” (กล่าวว่าก้นเธอนั้นเหมือนของพี่สาวน้องสาวหรือแม่ตนเอง) การร่วมหลับนอนกับเธอจึง ฮะรอม สำหรับเขา”
“แต่พอตอนดึกเขาได้ทำการจ่าย “กัฟฟาเราะฮ์” (ค่าปรับ ที่กล่าว ซิฮาร) นางจึง ฮะลาล สำหรับเขาอีกครั้ง”
“เมื่อถึงเที่ยงคืนเขาก็ได้ทำการ “ฏอลาก ริจญ์อี” (การหย่าที่สามารถกลับมาอยู่ด้วยกันได้ก่อนที่จะครบกำหนดอิดดะฮ์ โดยไม่ต้องนิกะฮ์ใหม่) นางจึง ฮะรอม”
“แต่พอเขาเวลานมาซซุบฮ์เขาได้คืนดีและกลับมาหานาง เธอจึง ฮะลาล อีกครั้งสำหรับเขา”
หลังจากนั้น มะอฺมูน ก็ได้พูดว่า : “เห็นหรือไม่ว่า ทำไมข้าจึงต้องการให้ลูกสาวของข้าแต่งงานกับเขา (อิมาม ญะวาด (อ.)ถึงแม้ว่าอายุยังน้อยก็ตาม”
“ในหมู่พวกท่านมีใครสามารถตอบคำถามแบบนี้ได้บ้างไหม?”
ทุกคนจึงตอบว่า : “ไม่มีใครในหมู่พวกเราที่จะตอบปัญหาเช่นนี้ได้”
มะอฺมูน กล่าวว่า : “ความวิบัติจะมีแด่พวกท่าน!! ไม่รู้ดอกหรือว่าไม่มีใครจะมาเทียบเคียงในความรู้ความประเสริฐ
และความสูงส่งกับ “อะฮ์ลุลบัยต์” ของท่านศาสดาได้ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นเด็กก็ตาม”
อ้างอิงจาก
: -
1.หนังสืออัลอิฮ์ติญาจญ์ เชคฏอบรอซีย์ เล่ม 2 หน้า 472- 475
2.อะอ์ลามุลวะรอ เชคฏอบรอซีย์ เล่ม 2 หน้า 102
3.ตารีคอะฮ์ลุลบัยต์
4.กัชฟุลฆุมมะฮ์ เล่ม 2 หน้า 370
5.ฟุศูลุลมุฮิมมะฮ์ อิบนุศอบบาฆ อัลมาลิกีย์ หน้า 275
6.อุยูนุลมุอ์ญิซาต หน้า 124
ที่มาเลิฟฮุเซนนิวส์
แสดงความเห็น