สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศรายงานจากสำนักข่าวอัลอาลัมนิวส์

: เว็บไซต์วิเคราะห์ข่าวของแคนนาดาเปิดเผยว่า การเป็นพันธมิตรของ “อิสราเอล” และ “ซาอุดิอาระเบีย” ได้เกิดขึ้นโดยการอนุญาตของอเมริกา และเป็นการสานต่อการสนับสนุนทางการทหารอย่างลับๆ ของทำเนียบขาวต่อบรรดากลุ่มกบฏในซีเรีย เนื่องจากพวกเขารู้ดีว่าส่วนใหญ่ของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธในซีเรียนั้นคือ “กลุ่มตักฟีรีย์” และ “พวกสร้างความแตกแยกระหว่างนิกาย

ตามการรายงานของเว็บไซต์ข่าวอัลอาลัม : ศูนย์การวิจัย “โกลบอล รีเสิร์ช” (Global Research) ของแคนาดา ได้รายงานเรื่อง “ความจำเป็นอันดับแรกของอิสราเอลและซาอุดีอาระเบียในซีเรีย คือการปฏิบัติการลับทางการทหารและกลยุทธ์” ที่ได้วิเคราะห์ตรวจสอบเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือกันของอิสราเอลและซาอุดีอาระเบีย โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะทำลายซีเรีย ซึ่งได้เขียนว่า : เพื่อที่จะกดดันรัฐบาลซีเรีย รัฐบาลของบารัก โอบามาได้ใช้นโยบายลูบหน้าปะจมูก แต่การเจรจาเจนีวา 2 ที่จัดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ ได้เปิดเผยอย่างชัดเจนถึงความล้มเหลวทางด้านกลยุทธ์ของประเทศนี้ที่มีต่อกลยุทธ์ของรัฐบาลซีเรีย และตามการข่าวที่ได้รับมานั้น อเมริกาจำเป็นต้องส่งอาวุธล็อตใหม่ไปให้บรรดากลุ่มติดอาวุธในซีเรีย ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่กองทัพของซีเรียได้ประกาศว่าจะกลับเข้าสู่เขตพื้นที่ที่เป็นยุทธศาสตร์ "อัลก็อลมูน" ที่ติดกับพรมแดนของเลบานอนอีกครั้งหนึ่ง

ในส่วนถัดไปของบทความได้เขียนว่า “อิสราเอล” ได้แสดงความปีติยินดีอย่างเปิดเผยต่อการทำลายซีเรียและการทำสงครามกับรัฐบาลของบัชชาร อัลอะซัด และการรายงานต่างๆ จำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงการเคลื่อนย้ายกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายร้อยคนไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ของอิสราเอลเพื่อการรักษาพยาบาล และการย้อนกลับเข้าสู่ซีเรียของกลุ่มคนเหล่านี้ ภายหลังจากการเยียวยารักษาแล้ว พร้อมกับเงินจำนวนมหาศาลที่เทลอาวีฟได้มอบให้แก่พวกเขา เพื่อจุดประสงค์ดังกล่าวนี้

"โกลบอล รีเสิร์ช" เชื่อว่า ซาอุดีอาระเบีย ในฐานะพันธมิตรทางด้านกลยุทธ์ของ "อิสราเอล" ในภูมิภาคนี้ ในแง่ของปัจจัยทางวัตถุและนโยบายแล้ว มีอิทธิพลอย่างมากมายในการสนับสนุนบรรดากลุ่มตักฟีรีย์ เพื่อการแบ่งแยกประเทศซีเรียและการทำลายประเทศนี้

ตามรายงานนี้ การดำเนินการของซาอุดีอาระเบียและบางประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ในการโหมไฟแห่งความขัดแย้งทางด้านมัซฮับ (นิกาย) ได้เกิดขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมือง

ในช่วงท้ายของรายงานระบุว่า ความพยายามต่างๆ ในช่วงล่าสุดของซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับกรณีของกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงในซีเรียนั้น ส่วนใหญ่เป็นการสร้างเรื่องและหมดเวลาของการใช้งานไปแล้ว ทั้งนี้เนื่องจากบรรดาผู้นำของซาอุดีอาระเบียได้มองกลุ่ม (ก่อการร้าย) “อัลกออิดะฮ์” และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ในฐานะตัวแทนของตนที่อยู่ในประเทศต่างๆ ในภูมิภาค และถือว่ากลุ่มเหล่านี้จะช่วยต้านทานภัยคุกคามที่แท้จริงของตนในประเทศเหล่านี้ได้

วิธีการดังกล่าวนี้ นับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญมากในพจนานุกรมการเมืองต่างประเทศของซาอุดิอาระเบีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับการปฏิบัติลับต่างๆ ของเขา