สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานสำนักข่าวโลกอิสลามว่า หลังจากการประชุมลับของสมาชิกชาติอาหรับที่จัดขึ้นในกรุงริยาด  เมื่อวันที่ 5 มี.ค ที่ผ่านมานั้น ประเด็นที่ประชุมก็คือ ประเด็นทางการเมืองในซีเรีย ที่ไม่มีข้อตกลงจากฝ่ายต่อต้านรัฐบาล ซึ่งในที่ประชุมไม่มีข้อตกลงแต่อย่างใด เพราะว่าเกิดความไม่พอใจของรัฐมนตรีต่างประเทศของกาตาร์ ในข้อเสนอแนะของสมาชิกอาหรับบางประเทศในการแทรกแซงทางการเมืองในซีเรีย เพื่อยุติการต่อต้านของกลุ่มต่างๆที่ก่อร้ายในซีเรีย แต่รัฐมนตรีต่างประเทศของกาตาร์มิได้สนใจข้อตกลงความมั่นคงนั้นเลย และได้บินกลับประเทศกาตาร์ในทันที

แหล่งข่าวยังอ้างอีกว่า เหตุดังกล่าวสร้างความไม่พอใจของสมาชิก ซึ่งประกอบด้วย

ประเทศซาอุดีอาระเบีย,บาห์เรน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ทั้งสามประเทศจึงออกแถลงการณ์ร่วมกันฉบับหนึ่งว่า ทั้ง 3 ประเทศจะเรียกเอกอัครราชทูตของตนจากกรุงโดฮาประเทศกาตาร์ กลับประเทศ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อเป็นการประท้วงที่กาตาร์เข้ามาจุ้นจ้านกับกิจการภายในของทั้ง3 ประเทศละเมิดข้อตกลงความมั่นคงในภูมิภาคซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนโดยประเทศในอ่าวเปอร์เซียทั้ง3 ประเทศได้ตัดสินใจดังกล่าวหลังมีรายงานว่าเกิดความสับสนวุ่นวายในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจากสภาความร่วมมือประเทศอ่าว6 ประเทศในกรุงริยาดเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา

นับเป็นสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดของความแตกแยกระหว่างกลุ่มประเทศในอ่าวอาหรับและกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศที่ให้การสนับสนุนอย่างแนบแน่นต่อกลุ่มมุสลิมภราดรภาพในอียิปต์และที่อื่น ๆ

กาตาร์ประณามการโค่นอำนาจของประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ดมอร์ซี ผู้นำอียิปต์ซึ่งมีกลุ่มภราดรภาพให้การสนับสนุนเมื่อปีที่แล้วขณะที่ซาอุดีอาระเบียและยูเออีต่อต้านกลุ่มภราดรภาพ

อาบูดาบี และริยาดแถลงว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากกาตาร์ล้มเหลวที่จะสนับสนุนการยุติข้อตกลงความมั่นคงและเสถียรภาพของสภาความร่วมมือ6 ประเทศอ่าวเปอร์เซีย