ยูเอ็นเร่งพม่าสอบเหตุมุสลิมในรัฐยะไข่ถูกสังหารดับ 48 ราย

สหประชาชาติออกแถลงการณ์ระบุว่า มีชาวมุสลิมอย่างน้อย 48 คน ถูกสังหารขณะที่กลุ่มชาวพุทธบุกโจมตีหมู่บ้านแห่งหนึ่งในรัฐยะไข่ทางตะวันตกของพม่าเมื่อต้นเดือนนี้ และเรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเร่งสอบสวนอย่างเป็นกลาง และควบคุมตัวผู้ที่เกี่ยวข้องในเหตุโจมตีดังกล่าว

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายเย ทุต โฆษกประธานาธิบดีพม่า ปฏิเสธรายงานของสหประชาชาติโดยสิ้นเชิง โดยระบุว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด พม่าเผชิญกระแสความรุนแรงระหว่างกลุ่มต่างศาสนานับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2555

นางนาวี พิลเลย์ ข้าหลวงใหญ่ด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า ได้รับข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่ามีชายชาวมุสลิมโรฮิงญา 8 คน ถูกโจมตีและถูกสังหารในหมู่บ้านดูชาร์ยาร์ตันเมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา และต่อมาในวันที่ 13 เดือนเดียวกัน ยังเกิดเหตุปะทะในหมู่บ้านเดียวกัน และเกิดเหตุสังหารและลักพาตัวตำรวจ อันนำมาซึ่งการปราบปราม นางพิลเลย์กล่าวว่า สหประชาชาติเชื่อว่า มีชาวมุสลิมโรฮิงญาทั้งชาย หญิง และเด็ก ถูกสังหารอย่างน้อย 40 คน ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 48 คน พร้อมกันนี้ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิต และเรียกร้องให้ทางการพม่าดำเนินการสอบสวนอย่างเป็นกลางและรับประกันว่าเหยื่อและครอบครัวจะได้รับความเป็นธรรม

ด้านนายแมทธิว สมิธ ผู้บริหารกลุ่มฟอร์ติไฟไรท์ส ซึ่งเป็นกลุ่มสิทธิมนุษยชน มีสำนักงานในไทย เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรม ผู้สังเกตการณ์อิสระ และสื่อมวลชนเข้าไปในพื้นที่ และว่ามีคนหลายร้อยคนอาจกำลังต้องการความช่วยเหลือ