วิเคราะห์ข่าว : สันติภาพในซีเรีย ??? (1)

 

วิเคราะห์ข่าว : สันติภาพในซีเรีย ??? (1)

                เมื่อไม่นานมานี้เกิดเรื่องแปลก ที่ไม่น่าจะเกิดกับองค์กรใหญ่ระดับโลกอย่างองค์การสหประชาชาติ หรือที่เราเรียกติดปากว่า “ยูเอ็น” เรียกเสียงฮือฮา ปนความงงงวยของบรรดาเหล่าประเทศสมาชิกทั้งหลาย  ถ้ายังจำกันได้เหตุการณ์ความรุนแรงในซีเรียนั้นกินเวลากว่า 3 ปีแล้ว และเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีก่อนก็ได้เริ่มมีการเจรจาถึงความเป็นไปได้ในการสงบศึก หรือที่เรียกว่าการประชุมเจนีวานั่นเอง มาปีนี้ทางยูเอ็นก็มีการสานต่อการเจรจาดังกล่าวในชื่อว่า “เจนีวา2” ที่จะเกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ในเดือนมกราคมนี้

                สาระสำคัญที่เป็นประเด็นให้ต้องพูดถึงคือเรื่องการเชิญประเทศต่างๆที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม กลุ่มสมาชิกถาวรได้โควต้าแน่นอน แต่ซาอุดิอารเบีย หรือการ์ต้า ถูกเชิญมาด้วยโควต้าอะไร?  คำตอบคือมาในฐานะชาติที่เป็นพันธมิตรกับกลุ่มกบฎในซีเรีย หรือจะบอกว่ามาในฐานะผู้อุปการะกลุ่มกบฎก็ไม่ผิด ความผิดปกติคือยูเอ็นไม่เชิญอิหร่าน ทั้งที่อิหร่านประกาศมาตลอดว่าเป็นพันธมิตรและช่วยเหลือซีเรียมาตลอด ทั้งจีนและรัสเซีย พี่เบิ้มในยูเอ็นออกมาติงถึงความเหมาะสมในเรื่องนี้ และสุดท้ายสหรัฐฯก็ออกมาแสดงทัศนะว่าถ้าอิหร่านอยากเข้ามามีส่วนร่วมในการประชุมเจนีวา2 อิหร่านต้องยอมรับข้อเสนอให้มีการปฏิรูปรัฐบาล โดยมีรัฐบาลรักษาการ และนายอัซซัด ก็จะพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดี และไม่มีสิทธิในการลงสมัครเป็นประธานาธิบดี อิหร่านยังไม่ทันได้ตอบคำถาม นายบัน คี มุน เลขายูเอ็น ก็ร่อนหนังสือเชิญอิหร่านให้เข้าร่วมเจรจา ฝ่ายกบฎซีเรียเมื่อรู้ข่าวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟขู่บอยคอตการเจรจา บอกถ้าอิหร่านมาร่วมเราจะไม่เจรจาเด็ดขาด ยูเอ็นก็ดันไปบ้าจี้ตามกลุ่มกบฎ ประกาศถอนหนังสือเชิญอิหร่านที่พึ่งส่งไปยังไม่ครบ 24 ชั่วโมงกลับซะงั้น แต่ถึงหนังสือเชิญมาถึงอิหร่านเองก็ไม่ยอมรับเงื่อนไขการเข้าร่วมเจรจาแน่นอน ในเมื่อเงื่อนไขคือให้ยอมรับว่าประธานาธิบดีอัซซัดต้องสละอำนาจ และจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราว เงื่อนไขก็เข้าทางฝั่งกบฎ เหมือนอ้อยเข้าปากช้างอยู่ดี และอิหร่านก็ออกมาตำหนิบทบาททางการเมืองของนายบัน คี มุน ว่าจะเจรจาสันติภาพได้อย่างไร เมื่อยูเอ็นกลัวคำขู่ของฝ่ายกบฏจนหัวหด และขณะที่ยังไม่เริ่มเจรจาก็เลือกข้างอย่างชัดเจนไปแล้ว ถามว่าเจรจาเพื่อ?...

                หากเรามาวิเคราะห์สถานการณ์ให้ดีแล้วเราก็จะเห็นว่าตอนนี้ซีเรียถือไพ่เหนือกว่ากลุ่มกบฎรวมถึงสหรัฐอเมริกาและชาวคณะ เพราะการเจรจาเป็นตัวชี้วัดว่าสหรัฐฯและเพื่อนพ้องไม่บรรลุผลตามแผนการ  หรือท่านผู้อ่านคิดว่าสหรัฐฯจะยอมเจรจากับใครง่ายๆ ? หากถือไพ่เหนือกว่ามีหรือที่สหรัฐฯจะยอมเจราจา ดูอีรัค  อัฟกานิสถาน  ลิเบีย เป็นตัวอย่าง ประเทศเหล่านี้ไม่มีโอกาสเจรจาเลยสักครั้งผลสุดท้ายคือราบเป็นหน้ากลอง หากเราดูบริบทเรื่องราวของซีเรีย สามารถหนุมานได้ว่าเพราะการมีเซนเตอร์แบ็กชั้นดีอย่างอิหร่าน รัสเซีย และนายประตูอย่างจีน หรือท่านผู้อ่านคิดว่าจะมีประเทศไหนบนโลกนี้กล้าทำสงครามกับสามประเทศนี้ ? อย่างตอนที่สหรัฐฯส่งเรือรบเข้ามาใกล้ซีเรีย รัสเซียก็ส่งเรือรบมาช่วยซีเรียเช่นกัน สหรัฐฯส่งอาวุธให้ฝั่งกบฏ อิหร่านก็ส่งทั้งเงินทั้งอาวุธให้ฝั่งรัฐบาล หรือตอนสหรัฐฯประกาศบุกซีเรีย วลาดิเมียร์ ปูติน ก็ประกาศเตรียมกำลังพลเช่นเดียวกัน เรียกได้ว่าตาต่อตาฟันต่อฟันกันเลยเลยทีเดียว วิธีการทางทหารจึงไม่มีผลอันใดเลยต่อซีเรีย ยกเว้นการเจรจาเท่านั้นที่มีโอกาสล้มรัฐบาลนายอัซซัดได้  เพราะถ้านายอัซซัดยังอยู่หรือยังสามารถเล่นการเมืองได้ แน่นอนว่าสหรัฐฯไม่มีวันได้เข้าไปเดินเฉิดฉายในซีเรียเป็นแน่

                ดังที่เราเห็นได้จากข้อตกลงขั้นแรกในที่ประชุมเจนีวาคือ ให้มีการตั้งรัฐบาลรักษาการและห้ามนายบาชาร์ อัล อัซซัด เข้ามายุ่งหรือมีส่วนร่วมใดๆ หรือทำอย่างไรก็ได้ที่จะกันนายอัซซัดออกไปจากอำนาจทางการเมือง ส่วนตัวผมเชื่อว่าเหตุการณ์ในซีเรียคงจบไปนานแล้วหาก สหรัฐฯ ซาอุฯ หรือการ์ตา ไม่เข้ามายุ่งเรื่องชาวบ้าน ลำพังแค่กลุ่มกบฏในซีเรียหากขาดการสนับสนุนคงเรียบร้อยโรงเรียนอัซซัดไปนานแล้ว และประเทศคงไม่เละตุ้มเป๊ะขนาดนี้ แต่ทำไมถึงเข้ามายุ่ง? ทำไมต้องส่งเสริมฝ่ายกบฏ? หลายๆคำถามที่เริ่มเห็นคำตอบจากการกระทำของผู้ที่ประกาศต่อชาวโลกว่าตนเองรักสันติภาพ และเป็นเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ...

           

   zarulloh

 

แสดงความเห็น