ชาวยิวส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ “โอบามา” เชื่อปล่อยให้อิหร่านมี “อาวุธนิวเคลียร์”
ชาวยิวส่วนใหญ่ไม่ไว้ใจ “โอบามา” เชื่อปล่อยให้อิหร่านมี “อาวุธนิวเคลียร์”
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดชี้ ชาวอิสราเอลส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ในการดำเนินนโยบาย “ผูกมิตร” กับอิหร่าน และเชื่อว่าโอบามาจะยอมอ่อนข้อให้อิหร่านเดินหน้าต่อไปใน “เส้นทางสายนิวเคลียร์”
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของชาวอิสราเอล โดยหนังสือพิมพ์ “เยรูซาเลม โพสต์” ระบุว่า เกือบ 2 ใน 3 ของชาวอิสราเอลไม่เชื่อถือคำประกาศของประธานาธิบดีบารัค โอบามาก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าจะไม่มีวันยอมให้อิหร่านประสบความสำเร็จในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ขณะที่พบกลุ่มตัวอย่างเพียง 22 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในอิสราเอลที่ยังคงเชื่อมั่นว่าโอบามาจะปฏิบัติตามสิ่งที่ตนเองเคยลั่นวาจาเอาไว้
ขณะเดียวกัน ผลสำรวจความคิดเห็นที่มีการเผยแพร่ล่าสุดยังพบว่า มีชาวอิสราเอลเพียง 33 เปอร์เซ็นต์ที่พึงพอใจกับการทำหน้าที่ของโอบามาต่อเวทีโลก ขณะที่ชาวอิสราเอลอีก 50 เปอร์เซ็นต์หรือครึ่งหนึ่งระบุว่า โอบามาสอบตกอย่างสิ้นเชิงในการทำหน้าที่ผู้นำในเวทีโลก โดยเฉพาะการดำเนินนโยบายผูกมิตรกับรัฐบาลใหม่ของอิหร่าน ภายใต้การนำของประธานาธิบดีสายกลาง “ฮัสซัน โรฮานี” ที่ก้าวขึ้นครองอำนาจเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี ผลสำรวจพบว่า 30 เปอร์เซ็นต์ของชาวอิสราเอลที่เป็นผู้สนับสนุนพรรคการเมืองฝ่ายขวาอย่างพรรค “ลิคุด” ของนายกรัฐมนตรีอิสราเอล “เบนจามิน เนทันยาฮู” มีความพึงพอใจต่อการทำหน้าที่ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในด้านนโยบายต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่น้อยกว่าพวกชาวยิวฝ่ายซ้าย ที่พึงพอใจผลงานด้านต่างประเทศของโอบามาสูงถึง 42 เปอร์เซ็นต์
ขณะที่นายโอลลี ไฮโนเนน ผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ชาวฟินแลนด์ที่เคยดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) ออกมาเปิดเผยผ่านสถานีวิทยุ “WABC” ในนิวยอร์กว่า อิหร่านสามารถใช้เวลาเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น สำหรับการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมให้มากพอที่จะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ โดยระบุขณะนี้รัฐบาลเตหะรานมีศักยภาพในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมได้มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ภายในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าข้อมูลของทางการสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าอิหร่านยังต้องการเวลาอีก “หลายปี” สำหรับสร้างอาวุธนิวเคลียร์ อาจเป็นข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
โดยหนึ่งในข้อแลกเปลี่ยนสำคัญ คือ การที่อิหร่านจะได้รับเงินรายได้จากการขายน้ำมันมูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ที่ถูกยึดไปกลับคืนมา ขณะที่เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ได้กำหนดยอดเงินทั้งหมดที่เตหะรานจะได้รับจากการผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรไว้ที่ราว 7 พันล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ตามข้อตกลงฉบับเดือนพฤศจิกายน อิหร่านยอมตกลงจะจำกัดความเข้มข้นของแร่ยูเรเนียมไว้ที่ 5 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่ใช้ผลิตพลังงานไฟฟ้ากันทั่วไป นอกจากนี้ ตามข้อตกลงฉบับดังกล่าว อิหร่านต้องเลิกผลิตแร่ยูเรเนียมเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นระดับที่เพียงอีกไม่กี่ขั้นตอนก็จะสามารถนำไปพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ได้ และภายใน 6 เดือนนี้อิหร่านจะต้องทำลายแร่ยูเรเนียมเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์ที่เก็บไว้ในโกดังของตนด้วย
แสดงความเห็น