“คาร์บอมบ์” 9 ครั้ง ถล่มอิรัก สังเวยแล้ว 73 ศพ
“คาร์บอมบ์” 9 ครั้ง ถล่มอิรัก สังเวยแล้ว 73 ศพ
เหตุระเบิดระลอกใหม่ในอิรัก ซึ่งรวมถึงระเบิดรถยนต์ที่เกิดขึ้นหลายจุดในกรุงแบกแดด ได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 73 ราย ในช่วงที่กลุ่มหัวรุนแรงสามารถขยายอาณาเขตยึดครองในจังหวัดอันบาร์ซึ่งกำลังประสบวิกฤตรุนแรงได้เพิ่มขึ้นอีก
สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในช่วงไม่กี่เดือนก่อนจะมีการเลือกตั้งรัฐสภา เจ้าหน้าที่ความมั่นคงของอิรักต้องประสบความพ่ายแพ้ถึงสองครั้งซ้อนในช่วงเวลาที่เกิดเหตุนองเลือดขึ้นมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามระหว่างชาวมุสลิมซุนนีกับชีอะห์ ที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายหมื่นเปิดฉากขึ้น ทางด้าน บัน คีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้นำของอิรักหาพยายามหาหนทางปรองดองทางการเมือง เพื่อยุติเหตุรุนแรงที่ปะทุขึ้นทั่วประเทศ และการเฝชิญหน้ากันที่จังหวัดอันบาร์ อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี นูริ อัล-มาลิกิ แห่งอิรัก ได้ปฏิเสธไม่ขอร่วมเจรจากับกลุ่มติดอาวุธ ในเวลาที่กองกำลังของเขาเริ่มดำเนินปฏิบัติการความมั่นคงในระดับกว้าง แม้ว่าบรรดาเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจจะชี้ว่า มีสมาชิกของกลุ่มหัวรุนแรง “Islamic State of Iraq and the Levant” (ISIL) ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ถูกจับกุมและถูกสังหารไปหลายคนในปฏิบัติการนี้ ทว่าเหตุนองเลือดก็ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ที่กรุงแบกแดด เกิดระเบิดรถยนต์ที่มุ่งสังหารพลเรือนขึ้น 9 ครั้ง ทั้งในย่านที่ชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นมุสลิมชีอะห์ และย่านที่มีมุสลิมต่างนิกายอาศัยอยู่รวมกัน ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 37 ราย
เหตุสังหารหมู่ที่กรุงแบกแดดอาจเลวร้ายยิ่งกว่านี้ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้ที่เตรียมก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตายได้เสียก่อน โดยคนร้ายทั้ง 4 คน ถูกรวบตัวได้พร้อมกับรถยนต์ติดตั้งระเบิด ซึ่งขณะนี้กองกำลังความมั่นคงและทหารช่างได้ปลดชนวนแล้ว ทั้งหมดต้องสงสัยว่าจะเป็นชาวต่างชาติเชื้อสายอาหรับ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับคนร้ายกลุ่มนี้ ซึ่งถูกรวบตัวได้ที่ย่านที่พักอาศัยของชาวมุลิสมชีอะห์ 4 แห่งในเมืองแบกแดด
ทางการอิรักยังระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 16 รายและบาดเจ็บ 20 คน ในเหตุระเบิดฆ่าตัวตายซึ่งเกิดขึ้นที่งานศพในเขตบูห์รุซ ของจังหวัดดิยาลา ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของกรุงแบกแดดและมีชาวบ้านต่างนิกายอาศัยอยู่รวมกัน
แสดงความเห็น