แผนระงับโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเริ่ม20ม.ค.

ชาติตะวันตก ต่างยินดี แผนระงับโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นรูปธรรมแล้ว เริ่มอย่างเป็นทางการ 20 ม.ค. นี้

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ในวันนี้ (13 ม.ค.) ชาติตะวันตก บรรลุข้อตกลงในการเจรจาระงับโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน ซึ่งเป็นข้อตกลงชั่วคราวอายุ 6 เดือน โดยจะเริ่มบังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าว ในวันที่ 20 มกราคมนี้ เพื่อแลกกับการที่ชาติตะวันตก พยายามหลีกเลี่ยงและเตรียมระงับการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน รวมถึงการคืนกำไรที่ได้จากการจำหน่ายน้ำมันให้กับอิหร่านอีกด้วย

หลังจากที่สามารถบรรลุการเจรจามานานหลายเดือน ล่าสุด ชาติมหาอำนาจ ได้ประกาศข้อตกลงชั่วคราว ในแผนการระงับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน โดยจะเริ่มต้นบังคับใช้อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 มกราคมนี้ ท่ามกลางความยินดีของชาติตะวันตก และองค์การระหว่างประเทศ เนื่องจากแผนดังกล่าว ใช้เวลาในการตกลงยืดเยื้อมานานพอสมควร กระทั่งถึงจุดเปลี่ยนที่เริ่มเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น นับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา

โดย บารอนเนสแคทเธอรีน แอชตัน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป หรือ อียู ได้ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ชาติมหาอำนาจ ที่นำโดยสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ประกอบไปด้วย สหรัฐฯ รัสเซีย จีน ฝรั่งเศส และอังกฤษ รวมถึงเยอรมนี จะกำหนดระยะเวลาในการบังคับใช้แผนการระงับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ไว้ที่ 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม นายบารัก โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวว่า แม้ว่าเรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่น่ายินดี สำหรับความคืบหน้าในการระงับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่หากอิหร่านพยายามแสดงในด้านการฝ่าฝืนข้อตกลง เพียงข้อใดข้อหนึ่ง มาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดก็จะถูกนำมาบังคับใช้ทันที ซึ่งระหว่างนี้ เพื่อให้แผนการนี้สามารถดำเนินต่อไปจนครบวาระ เวลา 6 เดือน จะช่วยเหลืออิหร่านด้วยการวีโต้กฎหมายคว่ำบาตรอิหร่าน ที่ผ่านโดยสภาคองเกรสทั้งหมด เพื่อให้การเจรจาในขั้นตอนสุดท้ายบรรลุผลในที่สุด

สำนักข่าวไอเอสเอ็นเอของอิหร่านรายงานวานนี้ว่า ตามเงื่อนไขในข้อตกลงฉบับนี้ อิหร่านจะรับประกันว่าตนจะไม่พยายามพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ “ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม” อย่างไรก็ตาม อารักชีได้เน้นย้ำว่า อิหร่านอาจกลับมาเริ่มผลิตยูเรเนียมเข้มข้น 20 เปอร์เซ็นต์อีกครั้ง “ในวันข้างหน้า” หากต้องการเช่นนั้น
       
       ทางฝ่าย เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ ระบุว่า คณะผู้ตรวจสอบของยูเอ็นจะเข้าตรวจตราโรงผลิตนิวเคลียร์ของอิหร่านแต่ละแห่งเป็นประจำทุกวัน และจะเขียนรายงานประจำเดือน ขณะที่ทางการเตหะรานกล่าวว่า อิหร่านจะทำลายวัสดุในการผลิตนิวเคลียร์จำนวนครึ่งหนึ่งในช่วง 3 เดือนแรก และจะทำลายทั้งหมดก่อนที่สัญญาจะสิ้นสุดลง
       
       ทางการอิหร่านชี้ว่า สิ่งที่อิหร่านจะได้รับจากการทำตามข้อตกลง คือโอกาสในการเข้าถึงอุตสาหกรรมด้านการบินพลเรือน ปิโตรเคมี และยานยนต์ ตลอดจนได้รับอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกทองคำได้ นอกจากนี้ ข้อตกลงฉบับดังกล่าวจะเปิดทางให้อิหร่านเข้าถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเวชภัณฑ์จากนานาชาติ แม้อิหร่านจะยังคงไม่สามารถใช้บริการธนาคารอเมริกัน และมาตรการคว่ำบาตรส่วนใหญ่ยังมีผลบังคับใช้อยู่ก็ตาม