อิมามมะฮ์ดี (อฺ) ความหวังใหม่ของโลก ตอนที่ 3
อิมามมะฮ์ดี (อฺ) ความหวังใหม่ของโลก ตอนที่ 3
ในฮะดีษเหล่าต่างๆนี้ ได้อธิบายอย่างละเอียดถึงบุคลิกภาพ รูปร่างและหน้าตาของอิมาม ท่านที่สิบสอง ซึ่งเราจะนำมาเป็นตัวอย่างดังนี้
ตัวอย่างจากฮะดีษของอะฮลิสสุนนะฮ์
1. ท่านศาสดา (ศ็อล) ได้ย้ำถึงความแน่นอนของการปรากฏตัวของท่านอิมามมะฮ์ดี (อฺ) ว่าถึงแม้ว่าโลกนี้มีเวลาเหลืออีกเพียงวันเดียว อัลลอฮฺก็จะส่งชายคนหนึ่งจากเรามาบนโลกนี้และจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรม หลังจากที่มีมันได้เคยเต็มไปด้วยความยุติธรรมและกดขี่ (จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
2. ท่านศาสดา (ศ็อล) กล่าวไว้ว่า "วันกิยามัตจะไม่เกิดขึ้นจนกว่าชายคนหนึ่งจากอะหฺลุลบัยต์ของฉัน จะปรากฏตัวและทำให้ภารกิจของฉันสมบูรณ์ด้วยมือของเขา ชื่อของเขาเหมือนชื่อของฉัน" (จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
3. ท่านศาสดา (ศ็อล) ได้กล่าวว่า เหมือนกับอะลีเป็นผู้นำ หลักจากฉัน กออิม อัลมุนตะซ็อร
(อิมามมะฮ์ดี (อฺ)) ก็คือผู้นำจากฉัน เมือตอนที่เขาปรากฏตัวเขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม หลังจากที่มันได้ไปด้วย ความอธรรมและการกดขี่ ขอสาบานด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺว่า ผู้ที่สามารถจะยืนหยัดอย่างมั่นคงต่อศาสนาในช่วงของการเร้นหายของเขานั้นหายากยิ่งกว่าเหล็กไหล
ท่านญาบีร ได้ลุกขึ้นถามว่า โอ้ศาสดาแห่งอัลลอฮฺ กออิมลูกหลานของท่านมีการเร้นหายด้วยหรือ ?
ท่านศาสดา (ศ็อล) ตอบ : แน่นอนขอสาบานด้วยพระผู้อภิบาลของฉัน ผู้ศรัทธาจะถูกทดสอบจนบริสุทธิ์ และผู้ปฏิเสธจะถูกทำให้พินาศ
โอ้..ญาบีรเอ๋ย เรื่องนี้นั้นเป็นความลับอันหนึ่งจากความลับทั้งหลายจากอัลลอฮฺ ดังนั้นจนหลีกห่างจากความสงสัย เพราะการสงสัยในกิจกรรมของอัลลอฮฺนั้น เป็นการปฏิเสธ(กุฟร์)
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
4. ท่านหญิงอุมมุสะละมะฮ์ ได้รายงานว่า ท่านรอซูล (ศ็อล) ได้พูดถึงมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาและย้ำว่า แน่นอนมันเป็นเรื่อจริงและมาจากลูกหลานของท่านหญิงฟาฏิมะฮ์ (อฺ)
(จากหนังสือมุสตัดร็อก อัลฮากิม)
5. ท่านซัลมาน อัลฟารซีย์ ได้กล่าวว่า วันหนึ่งฉันได้ไปหาท่านรอซูล(ศ็อล) และพบว่า ฮุเซนลูกของอะลีนั่งอยู่บนตักของท่านศาสดา และท่านก็ได้จูบไปที่ดวงตาและริมฝีปากของฮุเซน และกล่าวขึ้นว่า เจ้าคือซัยยิดลูกของซัยยิด เจ้าคืออิมามลูกของอิมาม และน้องของอิมาม เจ้าคือฮุจญัตของอัลลอฮ ลูกของฮุจญัต และน้องของฮุจญัต (บทพิสูจน์แห่งอัลลอฮ) และเจ้า (ฮุเซน) คือบิดาของเก้าฮุจญัตแห่งอัลลอฮ ซึ่งคนที่เก้านั้นคือ กออิม (อิมามะฮ์ดี (อฺ))
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
6. ท่านอิมามริฎอ (อฺ) ได้กล่าวว่า คอลาฟุศ – ศอและห์ คือลูกของฮะซัน บินอะลี อัลอัสการีและคือมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญา
(จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
7. ท่านรอซูลุลลอฮ (ศ็อล) ได้กล่าว ขอแจ้งข่าวดีให้แก่พวกเจ้าในเรื่องของมะฮ์ดี เขาจะปรากฏขึ้นในอุมมะฮ์ของฉัน ในขณะที่อุมมะฮ์กำลังแตกแยกและสั่นคลอน เขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความยุติธรรม หลังจากที่มันได้เต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่ ทั้งชาวฟ้าและชาวดิน จะมีความสุขและพึงพอใจต่อเขา
(จากมุสนัด อะหมัด อิบนิ ฮัมบัล)
8. ท่านอิมามริฎอ (อฺ) ได้กล่าวว่า ไม่มีศาสนาใดสำคัญผู้ที่ไม่มีตักวา และผู้ที่มีเกียรติยิ่งในสูเจ้า ณ อัลลอฮฺ นั้นคือผู้ที่มีตักวามากกว่า หลังจากนั้นท่านอิมามได้กล่าวเสริมขึ้นว่า หลานคนที่ 4 จากวงศ์วานของฉัน เป็นบุตรของหญิงที่เป็นทาส ซึ่งอัลลอฮฺจะให้เขาเป็นผู้ทำความสะอาดโลก จากความอยุติธรรมและการกดขี่ และเขาคือผู้ที่ประชาชนสงสัยและลังเลเกี่ยวกับการกำเนิดของเขา เขาคือเจ้าแห่งการเร้นหาย (ฆอยบะฮ์) และเมื่อเขาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เขาทำให้โลกนี้สว่างไสวด้วยรัศมีแห่งอัลลอฮฺ และเขาจะเป็นผู้วางตาชั่งแห่งความยุติธรรมในหมู่ประชาชาติ และวันนั้นจะไม่มีผู้ใดสามารถที่จะทำการละเมิดหรือกดขี่ผู้ใดได้อีก (จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
9. ท่านอะมีรุ้ลมุอมินีน อะลี (อฺ) ได้กล่าวว่า “อัลลอฮฺทำให้กลุ่มหนึ่งปรากฏขึ้น ซึ่งพวกเขารักอัลลอฮฺ และอัลลอฮฺก็ทรงรักพวกเขา และอัลลอฮฺจะทำให้พวกเขาได้รับอำนาจการปกครองจากพระองค์ คนหนึ่งจากหมู่พวกเขาจะถูกปกปิดซ่อนเร้นเอาไว้ และเขาผู้นั้นคือมะฮ์ดีผู้ถูกสัญญาไว้” ….. ซึ่งเขาทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรมโดยปราศจากความลำบากใดๆ สำหรับเขาในการนี้ ในวัยทารกเขาจะห่างไกลจากบิดาและมารดา…… และเขาจะพิชิตเมืองต่างๆ ของมุสลิมด้วยสันติ โลกในวันนั้นพร้อมแล้วที่จะรองรับเขา คำพูดเขา จะได้รับการต้อนรับ จากหนุ่มและแก่ จะภักดีต่อเขา เขาจะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม หลักจากที่มันได้เคยเต็มไปด้วยความอธรรมและการกดขี่ และในเวลานั้นตำแหน่งแห่งอิมามัตจะถึงจุดสมบูรณ์ และตำแหน่งคอลิฟะฮ์ที่แท้จริงก็จะปรากฏขึ้น และอัลลอฮฺจะทำให้ผู้ที่อยู่ในหลุมฝันศพฟื้นขึ้น พวกเขาจะฟื้นขึ้นมาในตอนเช้าและพบว่าตัวเองไม่ได้อยู่ในหลุมฝังศพ จากการปรากฏตัวของมะฮ์ดี แผ่นดินจะสดใสและเจริญงอกงาม น้ำอันใสบริสุทธิ์ไหลไปทุกลำธาร ความวุ่นวาย การแย่งชิงและกดขี่จะถูกขจัดออกไป ความประเสริฐและสิริมงคล (บะรอกะฮ์) จะถูกประทานลงมา และไม่มีความจำเป็นใดๆ อีกที่ฉันจะบรรยายถึงสิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นอีกเพียงแต่ฝากสลามจากฉันไปยังโลกนั้นด้วยเถิด (จากหนังสือ ยะนาบีอุล มะวัดดะฮ์)
ตัวอย่างจากฮะดีษของชาวชีอะฮ์
- อิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า ประชาชาติจะสูญหายอิมามของพวกเขา แต่อิมามของพวกเขาจะปรากฏตัวในฮัจญ์ทุกปี อิมามจะมองเห็นพวกเขาแต่พวกเขามองไม่เห็นอิมาม
( จากอุศูลอัลกาฟี)
2. อัศบัฆ บิน นะบาตะฮ์ ได้รายงานว่า วันหนึ่งฉันได้ไปเยี่ยมท่านอะมีรุ้ลมุอมีนีน อะลี (อฺ) และพบว่าท่านอะลี กำลังนั่งครุ่นคิดถึงสิ่งหนึ่งอย่างลึกซึ่ง ในขณะที่นิ้วของท่านได้คุ้ยเขี่ยไปบนดิน ฉันจึงได้ถามขึ้นว่า ทำไมท่านจึงอยู่ในสภาพครุ่นคิดเช่นนี้?
ท่านอิมามอะลี (อฺ) ได้ตอบว่า สาบานด้วยพระนามแห่งอัลลอฮฺ ฉันไม่เคยมีความต้องการอะไรในแผ่นดินและดุนยานี้เลย แต่ฉันกำลังครุ่นคิดถึงผู้หนึ่งที่ถือกำเนิดมา จากเชื้อสายของฉันและเป็นลูกหลานคนที่สิบเอ็ดของฉัน และเขา( มะฮ์ดี ) จะทำให้โลกนี้เต็มไปด้วยความสันติและยุติธรรม หลังจากที่มันเคยเต็มไปด้วยความยุติธรรมและการกดขี่ จะมีการเร้นหายและความสับสนในตัวของเขา จากกลุ่มหนึ่งจะได้รับทางนำและอีกกลุ่มหนึ่งถูกทำให้หลงทาง
(จากอุศูล อัลกาฟี)
3. ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า ถ้าหากข่าวเกี่ยวกับการเร้นหาย ของอิมามประจำยุคของเจ้า (มะฮ์ดี) มาถึงเจ้า จงอย่าปฏิเสธ
(จากอุศูล อัลกาฟี)
4. ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า มีการเร้นหาย 2 ครั้งสำหรับกออิม ครั้งที่หนึ่งเป็นระยะเวลาอันสั้น ครั้งที่สองเป็นระยะเวลาอันยาวนาน ในการเร้นหายครั้งแรกนั้น เฉพาะชีอะฮ์ผู้ใกล้ชิดเท่านั้นที่รู้ที่พำนักของเขา และในการเร้นหายครั้งที่สองนั้น นอกจากสาวกและมิตรสหายผู้ใกล้ชิดแล้วจะไม่มีใครรู้ว่า เขาพำนักอยู่ที่ใด
(จากอุศูล อัลกาฟี)
5. ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า กออิมจะทำการกิยาม (การลุกขึ้นปฏิวัติ) ในขณะที่ยังไม่มีใครได้ทำการบัยอัต (การให้สัตยาบัน) หรือ สนธิสัญญาใดๆ กับเขา
(จากอุศูล อัลกาฟี)
6. ท่านรอซูลุลลอฮ (ศ็อล) ได้กล่าว กออิม มาจากลูกหลานของฉัน ชื่อของเขาเหมือนชื่อของฉัน ฉายาของเขาเหมือนฉายาของฉันบุคลิกของเขาเหมือนกับบุคลิกแบบของฉัน แบบฉบับ (สุนนะฮ์) ของเขาเหมือนกับแบบฉัน เขาจะเรียกประชาชาติกลับมาเข้าสู่ชะรีอัตและศาสนา ของฉันครั้งหนึ่ง และจะเชิญชวนมนุษย์เข้าสู่คัมภีร์แห่งพระผู้อภิบาลของฉัน ใครก็ตามที่ภักดีต่อเขา ก็เท่ากับได้ภักดีต่อฉัน และใครก็ตามที่ปฏิเสธการเร้นหายของเขาก็เท่ากับได้ปฏิเสธศาสนาของฉันทั้งหมด
(จากหนัง อะอุลามุลวะรออ์)
7. ท่านอิมามซัยนุลอาบิดีน (อฺ) ได้กล่าวว่า ในเรื่องราวของกออิมนั้นมีหลายสิ่งที่เหมือนกับบรรดาศาสดาต่าง ๆ เหมือนกับนูห์ เหมือนกับอิบรอฮีม เหมือนกับมูซา เหมือนกับอีซา เหมือนกับอัยยูบ เหมือนมุฮัมมัด (ศ็อล) อายุของเขายืนยาวเหมือนกับนูห์ การถือกำเนิดของเขาถูกปกปิดและการใช้ชีวิตของเขาห่างไกลจากประชาชน เหมือนกับอิรอฮีมเขาอยู่ในความกังวลและเร้นหายเหมือนกับมูซา ประชาชาติมีความคิดแตกแยกกันในเรื่องของเขาเหมือนกับอีซา เขาจะถึงจุดแห่งความเจริญและรุ่งโรจน์หลังจากผ่านการทดสอบและทุกข์ทรมานเหมือนกับอัยยูบ ซึ่งเขาจะลุกขึ้นปฏิวัติด้วยคมดาบเหมือนมุฮัดมัด (ศ็อล) (จากหนังสือ กะมาลุดดีน)
8. ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า สำหรับกออิมมีการเร้นหายและสำหรับบ่าวของอัลลอฮฺ ในช่วงเวลานั้น เขาจะต้องเสริมสร้างตักวา และยึดมั่นในศาสนาของพระองค์ให้มั่นคง (จากหนังสือ กะมาลุดดีน)
9. ท่านอิมามญะอ์ฟัร อัศศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า สำหรับประชาชาติ วันหนึ่งจะมาถึงที่อิมามของพวกเขาจะเร้นหาย
ท่านซุรอเราะฮ์ (สาวกผู้ทรงเกียรติท่านหนึ่งของอิมามศอดิก) ได้ถามขึ้นว่า หน้าที่ของประชาชาติในยุคนั้นคืออะไร ?
ท่านอิมามได้ตอบว่า เขายึดมั่นในศรัทธาและปฏิบัติหน้าที่ตามที่ศาสนาได้กำหนดอย่างเคร่งครัด จนกว่าอิมามของพวกเขาจะปรากฏ (จากหนังสือ กะมาลุดดีน)
10. ท่านอิมามศอดิก (อฺ) ได้กล่าวว่า การปรากฏและกิยามของมะฮ์ดีจะไม่เกิดขึ้น จนกว่าทุกอารยรรมและอุดมการณ์ได้ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นมาปกครองประชาชาติจนหมดสิ้นแล้ว เพื่อที่พวกเขาจะได้ไม่มีโอกาสที่จะพูดได้อีกว่า ถ้าให้เราปกครองเราก็จะปกครองด้วยความยุติธรรม และหลังจากนั้น (หลังจากที่ทุกอารธรรมได้ขึ้นมาปกครองแล้ว) กออิม ก็จะทำการกิยามด้วยสัจธรรมและความยุติธรรม (จากหนังสือ อิษบาตุลฮุดา)
แปลโดย ฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิด สุไลมาน ฮุซัยนี
แสดงความเห็น