รมต.ต่างประเทศอิหร่าน “ขู่” ล้มข้อตกลงนิวเคลียร์ หากมะกันคว่ำบาตรเพิ่ม

รมต.ต่างประเทศอิหร่าน ขู่ล้มข้อตกลงนิวเคลียร์ หากมะกันคว่ำบาตรเพิ่ม

นายจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านกล่าวว่า ข้อตกลงนิวเคลียร์ที่อิหร่านทำร่วมกับบรรดาชาติมหาอำนาจ อาจกลายเป็นโมฆะ หากรัฐสภาอเมริกันประกาศมาตรการคว่ำบาตรกับอิหร่านเพิ่มเติม แม้ว่าจะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึง 6 เดือนก็ตาม
       สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานจาก นิตยสารไทม์กล่าวว่า ได้ถามซารีฟว่าเป็นอย่างไร หากรัฐสภาสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม แม้จะยังไม่มีผลบังคับใช้จนกว่าจะถึง 6 เดือนข้างหน้า ซารีฟตอบว่า “ข้อตกลงทั้งหมดก็จะกลายเป็นโมฆะ” ทั้งนี้ เขากำลังหมายถึงข้อตกลงเบื้องต้น ที่อิหร่านทำร่วมกับ 6 ชาติมหาอำนาจ เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ซึ่งกำหนดเงื่อนไขว่า เตหะรานจะต้องจำกัดควบคุมโครงการนิวเคลียร์ของตน เพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่ประเทศเหล่านี้จะยอมผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตร เศรษฐกิจอิหร่านในช่วง 6 เดือนนับจากนี้ไป

       อย่างไรก็ตาม ถึงรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านออกมาแสดงความคิดเห็นเช่นนี้ แต่ก็เห็นได้ชัดว่า แทบจะไม่มีผลต่อการตัดสินใจของพวกสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ ที่กำลังเตรียมออกกฎหมายคว่ำบาตรกับอิหร่านเพิ่มใน 6 เดือนข้างหน้า หากข้อตกลงเจนีวาไร้ความคืบหน้า รวมทั้งเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มล็อบบี้เพื่อผลประโยชน์ของอิสราเอล มีอิทธิพลมหาศาลขนาดไหน ในวงการเมืองอเมริกัน

       ทางด้านพวกผู้ช่วยในรัฐสภาอเมริกันระบุว่าตอนนี้ โรเบิร์ต เมเนนเดซ สมาชิกพรรคเดโมแครต ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์ ของวุฒิสภาเมริกัน และ สว.มาร์ก เคิร์ก สังกัดพรรครีพับลิกัน กำลังใกล้จะบรรลุข้อตกลงในการออกกฎหมาย ที่มุ่งคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมัน, ทุนแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ และอุตสาหกรรมที่ทรงความสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ของอิหร่าน

แสดงความเห็น