สภาคองเกรซไม่ผ่านงบทำคนสหรัฐฯตกงานกว่า800,000คน

สภาคองเกรซไม่ผ่านงบทำคนสหรัฐฯตกงานกว่า800,000คน

หลังพ้นกำหนดเส้นตายเวลาเที่ยงคืนวันจันทร์หรือ 11.00 น.ที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ในที่สุดสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ก็ไม่สามารถหาข้อตกลงเรื่องการผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2014 ได้ ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบาลบางส่วนต้องปิดตัวลง และมีเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 800,000 คนที่ตกงานทันที

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศ รายงานว่า ก่อนหน้าที่จะถึงกำหนดเส้นตายประมาณ 10 นาที ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการและงบประมาณของทำเนียบขาว ได้ออกคำสั่งไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้วางแผนปิดสำนักงาน เนื่องจากพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรสไม่สามารถหาข้อตกลง เรื่องการผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2014 ได้ ทำให้รัฐบาลไม่มีเงินสำหรับการบริหารหน่วยงานต่างๆ ดังนั้นนับตั้งแต่วันอังคารนี้เป็นต้นไป เจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า 800,000 คนจะกลายเป็นคนว่างงาน หรือหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง
อย่างไรก็ดีทางสำนักงานดังกล่าวเรียกร้องให้สภาคองเกรสหาทางออกฉุกเฉิน ด้วยการผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อนำงบประมาณมาให้หน่วยงานต่างๆ ได้เปิดทำการตามปกติ
แม้ว่ารัฐบาลกลางจำเป็นต้องปิดหน่วยงานของรัฐเนื่องจากไม่มีงบประมาณ แต่สำหรับหน่วยงานที่จำเป็น อย่างเช่นหน่วยงานของกองทัพ หน่วยงานที่ดูแลด้านความปลอดภัย,สุขภาพและสวัสดิการสังคม ยังคงเป็นให้บริการตามปกติ ส่วนหน่วยงานอื่น ๆ ที่ถูกระบุว่า "ไม่มีความจำเป็น"  เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ๆ จะต้องหยุดงานไปจนกว่าวิกฤตงบประมาณในครั้งนี้จะสิ้นสุดลง ทั้งนี้หน่วยงานที่ถูกปิดได้แก่พิพิธภัณฑ์และห้องแสดงผลงานศิลปะของสถาบัน สมิทโซเนี่ยน 19 แห่ง สวนสัตว์แห่งชาติ อุทยานโยมิเซติ และอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ เป็นต้น
นี่ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องปิดหน่วยงานของรัฐเนื่องจากขาดงบประมาณ สำหรับประเด็นที่ทำให้พรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตไม่สามารถหาข้อตกลงร่วม กันได้ เกิดจากระบบประกันสุขภาพที่เสนอโดยประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าหรือที่เรียกว่า"โอบาม่า แคร์" ซึ่งพรรครีพับลิกันต้องการให้เลื่อนการใช้"โอบาม่า แคร์"ออกไปอีก 1 ปี เพื่อแลกกับการลงมติเพื่อผ่านร่างงบประมาณประจำปี 2014 แต่โอบาม่าจากพรรคเดโมแครตยืนกรานว่าไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ เรื่องนี้สร้างความไม่พอใจให้ชาวอเมริกันบางส่วนที่มองว่าพรรคการเมืองนำ ตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ของประชาชนมาเป็นเครื่องมือต่อรองทางการเมือง

 

แสดงความเห็น