สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ รายงาน ตามรายงานพับลิกโพสต์ออนไลน์ - การจับมือเมื่อพบปะกันและเมื่อจากลา ถือเป็นธรรมเนียมของศาสนาอิสลามซึ่งเป็นที่รู้กันดี นอกจากนั้นแล้วมุสลิมทุกคนก็รู้ว่า การจับมือระหว่างบุคคลต่างเพศ คือระหว่างหญิงและชายนั้น ศาสนาไม่อนุญาต ให้กระทำ ยกเว้นเฉพาะเครือญาติสนิทเท่านั้น เช่น พ่อ แม่ พี่น้อง ซึ่งในอิสลามเรียกว่าบุคคลที่เป็น "มะฮรอม"

แต่ในยุคปัจจุบัน วัฒนธรรมของชาวตะวันตกที่การจับมือระหว่างชายหญิงถือเป็นเรื่องปรกตินั้นได้แพร่หลายและกลายเป็นค่านิยมไปทั่วโลก ทำให้สังคมต่างๆ แม้กระทั่งบางสังคมที่ในอดีตไม่เคยมีวัฒนธรรมการจับมือเลยก็ยังพากันเลียนแบบทำตาม  ไม่เว้นแม้กระทั่งสังคมมุสลิมบางส่วนที่มีการจับมือหรือสัมผัสมือระหว่างชายหญิง ทั้งที่ขัดแย้งกับหลักคำสอนของศาสนาอิสลาม

กระนั้นท่ามกลางพลวัตทางสังคมที่ตามค่านิยมและเลียนแบบฝรั่งมังค่าของคนทั่วโลกนั้น ก็ยังมีหญิงสาวมุสลิมที่เข้าใจในหลักคำสอนของศาสนาอิสลามในเรื่องนี้ โดยเธอได้ปฏิเสธที่จะจับมือบุคคลต่างเพศ แม้ผู้นั้นจะมีตำแหน่งเป็นถึง "รัฐมนตรีต่างประเทศ" ของฝรั่งเศสก็ตาม

สื่อมวลชนของอาหรับได้รายงานเหตุการณ์นี้ราวกลางเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาว่า เมื่อ นายโลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสเดินทางไปประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และในการเยือน มหาวิทยาลัยซอร์บอน ในเมืองอาบูดาบี เป็นการส่วนตัว ในระหว่างพบปะกับนักศึกษามหาวิทยาลัยดังกล่าว รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ได้ยื่นมือออกไปเพื่อจับมือกับนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง แต่เธอได้ปฏิเสธที่จะจับมือกับรัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศสด้วยความสุภาพ  ซึ่ง  นายโลรองต์ ฟาเบียส รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ก็ได้แต่ยิ้มก่อนจะค่อยๆ ดึงมือของเขากลับมา

เมื่อเรื่องของนักศึกษาหญิงคนนี้ถูกรายงานโดยสื่ออาหรับ มุสลิมส่วนมากต่างพากันชื่นชมกับการกระทำของเธอครั้งนี้ ขณะเดียวกันก็มีมุสลิมอีกบางส่วนที่ออกมาตำหนิเธอว่าไม่ให้เกียรติบุคคลซึ่งเป็นถึงรัฐมนตรี