ซีเรียโอดสู้ภัยสงครามก่อการร้าย วอนโอบามาเลิกข่มขู่

ประธานาธิบดีซีเรียโอดซีเรียสู้ภัยสงครามก่อการร้าย พร้อมกับวอนโอบามาเลิกข่มขู่ ขณะเดียวกันรัสเซียฟ้องยูเอ็นว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เป็นผู้ใช้อาวุธเคมี

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ ฝ่ายข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนชาติตะวันตกว่า ประเทศซีเรียไม่ได้เข้าสู่ภาวะสงครามกลางเมืองอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่กำลังต่อสู้กับภัยสงครามก่อการร้ายที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงอัล-เคด้า ซึ่งมีจำนวนหลายหมื่นจากกว่า 80 ประเทศ เข้ามาเคลื่อนไหวสู้รบในซีเรีย ด้วยการเข้าร่วมเป็นกองกำลังของกองทัพซีเรียเสรี หรือเอฟเอสเอ ซึ่งเป็นปีกทางทหารของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

       พร้อมกันนี้ ประธานาธิบดีอัสซาด ระบุถึงการทำลายอาวุธเคมีชีวภาพที่อยู่ในคลังแสงของซีเรียด้วยว่า ต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 4 ปี และต้องใช้งบประมาณมากกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการกำจัดอาวุธเคมีฯ ที่อยู่ในความครอบของทางการซีเรียให้หมดไปตามข้อตกลงที่สหรัฐฯ กับรัสเซีย บรรลุไปเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

       นอกจากนี้ ประธานาธิบดีซีเรีย ยังได้วิงวอนไปถึงประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ว่า ขอให้เลิกข่มขู่การใช้กำลังทหารโจมตีต่อซีเรีย และขอให้ประธานาธิบดีโอบามาฟังเสียงประชาชนชาวสหรัฐฯ ที่ไม่ต้องการให้รัฐบาลของเขาตัดสินใจใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงซีเรีย

       ขณะเดียวกัน ทางด้านทางการรัสเซียโดยกระทรวงต่างประเทศ เปิดเผยว่า เตรียมยื่นหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่า กองกำลังติดอาวุธของฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เป็นผู้ใช้อาวุธเคมีฯ โจมตีพลเรือนจนมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายพันคน เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมาแก่สหประชาชาติ หรือยูเอ็น ให้พิจารณาพิสูจน์ทราบว่า ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย เป็นผู้ใช้อาวุธเคมี ไม่ใช่รัฐบาลของประธานาธิบดีอัสซาด

แสดงความเห็น