ราฟาเอล กอร์เรอา  ประธานาธิบดีเอกวาดอร์นอกจากได้ตำหนิอเมริกาอย่างรุนแรงต่อกรณีที่จะมีการถล่มซีเรีย และยังกล่าวย้ำว่า  รัฐบาลอเมริกันเพียงแค่ต้องการยึดและครอบครองบ่อน้ำมันในซีเรียเท่านั้น

สำนักข่าวทีวีชีอะฮ์ออนไลน์ตามรายงานสำนักข่าวต่างประเทศสเปนว่าเมื่อวันที่14 กันยายน ที่ผ่านมา ราฟาเอล กอร์เรอา  ประธานาธิบดีเอกวาดอร์  ได้ออกมาประณามอเมริกาและพันธมิตรอเมริกาที่จะมีการถล่มซีเรีย  พร้อมกับกล่าวย้ำว่า อเมริกาเพียงแค่ต้องการยึดและครอบครองบ่อน้ำมันแห่งชาติอาหรับนี้เท่านั้น

ประธานาธิบดี เอกวาดอร์ กล่าวเสริมว่าชาติสมาชิก  ALBA   และ Mercosur   และองค์กรหน่วยงานอื่นๆในลาตินอเมริกา  จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อกระชากหน้ากากและเปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของชาติอเมริกา ฝรั่งเศส  และอังกฤษให้กับชาวโลกได้รับรู้ ว่า ประเทศชาติเหล่านี้จะคิดแต่ผลประโยชน์ของตนเองเท่านั้น  และจะยอมใช้ทุกวิธีการเพื่อให้ได้มาและบรรลุซึ่งเป้าหมายของตนเอง

ประธานาธิบดี เอกวาดอร์ กล่าวเสริมว่าคำกล่าวอ้างที่ว่ารัฐบาลอัสซาด ใช้อาวุธเคมีสังหารพี่น้องในประเทศนั้น เป็นสิ่งที่โกหกมดเท็จทั้งสิ้น  และสิ่งนี้เป็นเพียงแค่คำกล่าวอ้างอันเลื่อนลอยไร้หลักฐานของสหรัฐอเมริกา เท่านั้น  เพื่อหวังที่จะหาความชอบธรรมในการบุกถล่มซีเรีย และสามารถยึดและครอบครอบทัพยากรที่มีค่าที่สุด คือ บ่อน้ำมันในซีเรีย  และเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่แต่อย่างใด เพราะเมื่อ10ปี ก่อนหน้านี้เราก็ประจักษ์เห็นสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันในลักษณะเช่นนี้มาแล้วโดยที่อเมริกากล่าวอ้างว่า  รัฐบาลซัดดัมใช้และมีแหล่งผลิตอาวุธเคมี  จากนั้นจึงบุกถล่มอีรัก และจนถึงวันนี้ยังไม่ได้คำตอบและสรุปที่แน่ชัดว่า อิรักมีโรงงานผลิตอาวุธเคมีเองหรือว่าได้รับมาจากคนอื่น

ประธานาธิบดี เอกวาดอร์ กล่าวเสริมว่า เราเรียกร้องให้เกิดความสันติและความสมดุลในโลกนี้   แต่ทว่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้นั้น  สามารถเข้าใจได้ว่าการไปถึงซึ่งความคาดหวังดังกล่าวนั้นมันเป็นสิ่งที่ไกลเกินที่คาดหวังไว้  เพราะขณะนี้ในโลกใบนี้มีการแบ่งขั้วอย่างชัดเจน และในขณะนี้เหล่าชาติมหาอำนาจเท่านั้นที่มีอำนาจและถืออภิสิทธิ์ในการตัดสินใจเพียงผู้เดียว